โทรศัพท์ 1358

“ดีพร้อม” ร่วมผนึกกำลัง พันธมิตร 10 หน่วยงาน จับมือพัฒนา “ฐานข้อมูลและตัวชี้วัด” หนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นำอุตสาหกรรมไทยสู่ Net Zero พร้อมแข่งขันในเวทีโลก สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” ร่วมผนึกกำลัง พันธมิตร 10 หน่วยงาน จับมือพัฒนา “ฐานข้อมูลและตัวชี้วัด” หนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นำอุตสาหกรรมไทยสู่ Net Zero พร้อมแข่งขันในเวทีโลก สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือการพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ” ร่วมกับผู้บริหารจาก 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (มสท.) โดยมี นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นพยานในการร่วมลงนาม ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี บันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อเป็นการร่วมมือกันในการดำเนินงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำฐานข้อมูล และตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำที่สำคัญต่อประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนกระบวนการทำงานและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมก้าวไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้อย่างแท้จริง “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้กล่าวถึงบทบาทของ ดีพร้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของประเทศ ให้มีการประกอบการที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs จึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งเสริมให้ SMEs นำแนวคิด BCG มาปรับใช้ในธุรกิจ ผ่านการพัฒนาให้ผู้ประกอบการในภาคเกษตรเข้าสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรม มีการนำนวัตกรรมมาปรับใช้ในการะบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนสู่ขั้นตอนการพัฒนา Bio Economy ให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยดำเนินการผ่านแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” พร้อมทั้ง ส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว ภายใต้นโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในการรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมโดยรอบ ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการลดก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่มาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากลต่อไป
21 ก.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” ยกทัพดีพร้อม นำเสนอผลงานการตรวจประเมิน ชิงรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” ยกทัพดีพร้อม นำเสนอผลงานการตรวจประเมิน ชิงรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
กรุงเทพฯ 16 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมการตรวจประเมินรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ PMQA รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร ตัวแทนผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมการประชุมตรวจประเมินฯ โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เมธินี เทพมณี ประธานคณะกรรมการตรวจประเมิน ศ.ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล และนายประสงค์ พูนสินชูสกุล คณะกรรมการตรวจประเมิน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พระรามที่ 6 (DIPROM Headquarter) การประชุมในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลเพื่อประกอบการตรวจประเมินรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ PMQA รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ซึ่งประกอบด้วย 6 หัวข้อ ได้แก่ (1) การนำเสนอภาพรวมขององค์กร ได้แก่ โครงสร้างและอัตรากำลังของดีพร้อม รวมถึงแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ (2) การบริหารเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการถ่ายทอดแผนปฏิบัติราชการ การทบทวนและจัดทำแผนปฏิบัติราชการ การสื่อสารยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่มีแต่ให้” ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (3) ผลการปฏิบัติงานที่โดดเด่นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 ที่ผ่านมา ดีพร้อมมีผลงานการพัฒนาผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 31,645 รายการ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเฉลี่ยปีละ 8,200 ล้านบาท ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณมากกว่า 10 เท่า ผ่านกลไกสำคัญต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม การสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก การเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ การสร้างอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน การลดต้นทุนโลจิสติกส์แบบครบวงจร และการยกระดับอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่งมีการติดตามและประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานผ่านระบบ DIPROM E-Services เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการทบทวนและจัดทำแผนปฏิบัติราชการเชิงรุก พร้อมทั้งมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศเพื่อให้เกิดผลสมฤทธิ์และความยั่งยืน (4) ผลลัพธ์การดำเนินงานที่เป็นเลิศ ผ่านการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรม Soft Power ในสาขาอาหารและแฟชั่น โดยดีพร้อมได้ดำเนินการพัฒนาทักษะให้ชุมชน ผ่านโครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเซฟอาหารไทย ซึ่งกำหนดเป้าหมายดำเนินการ 17,000 คน เมื่อผู้ที่อบรมจบหลักสูตรจะได้รับใบรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม รวมทั้ง การยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการด้านแฟชั่นถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมพัฒนาแบรนด์สินค้าขยายโอกาสทางการตลาด ผ่านโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นไทยสู่สากล (5) ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ “ดีพร้อม” คือ การให้ความสำคัญกับการจัดทำยุทธศาสตร์ที่รองรับบริบทของการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดทำแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดในการติดตามประเมินผลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ พร้อมถ่ายทอดตัวชี้วัดดังกล่าวไปสู่ผู้ปฏิบัติงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรให้ดีพร้อม สามารถปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และ (6) การส่งเสริมอุตสาหกรรมในอนาคต ดีพร้อมมีการปรับยกระดับพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ยกระดับขีดความสามารถธุรกิจทุกระดับ พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยต่างๆ ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจประเมินฯ รับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาดังกล่าว พร้อมทั้งมีข้อซักถามเกี่ยวกับการนำข้อมูล Big Data มาใช้ประกอบการพิจารณาและวางแผนการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน พร้อมทั้งเยี่ยชมบูธนิทรรศการของผู้ประกอบการที่เป็นผลสำเร็จของการพัฒนาจากดีพร้อม ที่ได้นำมาจัดแสดงไว้ภายในห้องประชุมด้วย
21 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม" จัดประกวด Fashion Hero Brand: Jewelry Edition 2025 ดัน ผปก. อุตฯ อัญมณีและเครื่องประดับไทย พุ่งทะยานสู่ตลาดโลก คาดสร้างมูลค่าทาง ศก. ทะลุ 50 ลบ. ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม" จัดประกวด Fashion Hero Brand: Jewelry Edition 2025 ดัน ผปก. อุตฯ อัญมณีและเครื่องประดับไทย พุ่งทะยานสู่ตลาดโลก คาดสร้างมูลค่าทาง ศก. ทะลุ 50 ลบ. ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัล ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” หรือ “Hero Brand Jewelry” พร้อมด้วย ดร.นันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นายวิวัฒน์ หิรัญพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและการตลาด เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ณ Main Stage Hall 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ และสร้างงานจำนวนมาก แต่เครื่องประดับแบรนด์ไทยยังเผชิญความท้าทาย เนื่องจากขาดภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักในตลาดและแข่งขันได้ยาก เมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง Soft Power พร้อมทั้งชูนโยบายเด่น “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” (DIPROM Community) ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ด้วย 6 กลไกที่สำคัญคือ 1) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytic) 2) การนำเทคโนโลยี ดิจิทัล นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ (Technology /Digital /Innovation /Creative) มาปรับใช้ 3) การสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน (Funding) 4) การเชื่อมสิทธิประโยชน์ (Privilege) 5) การเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร (Networking) และ 6) การผลักดันธุรกิจสู่สากล (Connect to the world) เพื่อให้วิสาหกิจไทยในระบบการพัฒนา สามารถ “สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเครือข่าย” เพิ่มศักยภาพวิสาหกิจไทยให้เติบโต และแข่งขันได้อย่างมั่นคง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดีพร้อมจึงได้จัดกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ครอบคลุมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในด้านการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ผ่านการสร้าง Content & Story Telling โดยการนำอินฟลูเอนเซอร์และกูรูด้านแฟชั่นจากต่างประเทศ มาช่วยโปรโมตให้กับแบรนด์เครื่องประดับไทยเพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมผลักดันให้เกิด Hero Brand ในสาขาอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย โดยการประกวดครั้งนี้ มีรางวัลทั้งสิ้น 5 รางวัล และผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1–3 จะได้รับโอกาสร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการผลักดัน Soft Power ด้านอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่ระดับสากล โดยคาดว่ากิจกรรม Hero Brand Jewelry จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท ผ่านการเพิ่มมูลค่าสินค้า การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างแบรนด์ไทยกับกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
21 ก.ค. 2568
“รมว.เอกนัฏ” ร่วมแสดงความยินดีกับ “ดีพร้อม” ปิดจ๊อบ คพอ. ภาคใต้ ปี 68 เสริมแกร่ง สร้างเครือข่าย เปิดโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทย
“รมว.เอกนัฏ” ร่วมแสดงความยินดีกับ “ดีพร้อม” ปิดจ๊อบ คพอ. ภาคใต้ ปี 68 เสริมแกร่ง สร้างเครือข่าย เปิดโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทย
จ.สุราษฎร์ธานี 18 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมพิธีปิดและมอบวุฒิบัตร กิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดีพร้อม หรือ ดีพร้อม คพอ. พื้นที่ภาคใต้ รุ่นที่ 422 จังหวัดสุราษฎร์ธานี รุ่นที่ 423 จังหวัดกระบี่ รุ่นที่ 424 จังหวัดยะลา และรุ่นที่ 426 จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 นางสาววรรณี พุฒแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ เข้าร่วม ณ ห้องบรรจงแกรนด์บอลรูม 1 โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดีพร้อม คพอ. เป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศผ่านการฝึกอบรมภายใต้โครงการนี้แล้วจำนวน 13,580 ราย โดยได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจจากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายสาขา เป็นกิจกรรมที่สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้ประกอบการ "คพอ." ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ จนสามารถรวมตัวกันเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน โดยปี 2568 ในพื้นที่ภาคใต้มีการฝึกอบรม "ดีพร้อม คพอ." จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 422 จังหวัดสุราษฎร์ธานี รุ่นที่ 423 จังหวัดกระบี่ รุ่นที่ 424 จังหวัดยะลา และรุ่นที่ 426 จังหวัดภูเก็ต รวมผู้ประกอบการทั้งหมด 136 ราย ผู้ประกอบการทั้งหมดที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว จะได้รับความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจในมิติต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และสามารถนำความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และบริหารจัดการธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ เพื่อให้พร้อมที่จะเผชิญกับสภาวะความผันผวนเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ รวมทั้งมีการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการทุกภูมิภาคของประเทศ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ การใช้เครื่องมือที่ทันสมัย การเข้าถึงตลาด เครือข่ายในระดับประเทศและสากล พร้อมทั้งให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน ในการนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ มุ่งเน้นการผลักดันนโยบายการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยผสานเทคโนโลยี ความยั่งยืน และคุณค่าของมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน ปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
21 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตฯ” นำทีม “ดีพร้อม” และคณะทำงานฯ เดินสายตรวจประเมินเข้มข้น เฟ้นหาสถานประกอบการ ส่งเข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม” ปี 2568
กระทรวงอุตฯ” นำทีม “ดีพร้อม” และคณะทำงานฯ เดินสายตรวจประเมินเข้มข้น เฟ้นหาสถานประกอบการ ส่งเข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม” ปี 2568
กรุงเทพฯ 14-15 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานฯ พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมการตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการ 3 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ผ่านการนำเสนอผลงานการคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ในรอบแรก การตรวจประเมินสถานประกอบการในครั้งนี้ คณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ได้พิจารณาการนำเสนอข้อมูลของบริษัท การกำหนดกลยุทธ์ นโยบาย ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ความสามารถในการเพิ่มผลผลิต ความสามารถทางนวัตกรรม ระบบบริหารงานในมิติต่าง ๆ ความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจให้มีความยืดหยุ่น มีการพัฒนาธุรกิจโดยนำหลักคุณธรรม จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาล รวมทั้งหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาบูรณาการในกระบวนการทางธุรกิจ การสร้างรากฐานระบบเศรษฐกิจให้กับพื้นที่รอบสถานประกอบการ การช่วยเหลือ สนับสนุน องค์ความรู้ให้กับองค์กรอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม โดยสถานประกอบการที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 จะได้เข้ารับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรีต่อไป รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2568 เป็นรางวัลที่มอบให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่มีความเป็นเลิศทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึง การพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม เป็นการเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศ โดยการพิจารณารางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2568 มุ่งเน้นการให้รางวัลกับสถานประกอบการที่มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนการประกอบการภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน”
21 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 น้อมถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10
กระทรวงอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 น้อมถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10
16 กรกฎาคม 2568 - นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานกิจกรรมจิตอาสา “อุตสาหกรรมรวมใจ ทำความดีด้วยหัวใจ น้อมถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนานดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนหน่วยงานในสังกัด เข้าร่วมกว่า 250 คน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กิจกรรมจิตอาสาครั้งนี้ ประกอบด้วย การถวายสังฆทาน จากนั้นเป็นพิธีเปิดกิจกรรมฯ โดยจิตอาสาที่ร่วมในพิธีฯ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และกล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” จากนั้น ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะจิตอาสากระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกันดำเนินการมอบถังดักไขมันให้แก่วัดบวรนิเวศวิหาร และร่วมกันทำความสะอาดโดยรอบบริเวณวัดบวรฯ ผลวิเคราะห์การเก็บตัวอย่างน้ำภายในคลองของวัดบวรฯ พบว่าน้ำในคลองมีตะกอนเลนสะสม ทำให้น้ำมีสีขุ่น เนื่องจากน้ำที่มีตะกอนไหลออกจากโรงงานกรองน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาภายในคลอง ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และมีการให้อาหารสัตว์น้ำ ทำให้เกิดการหมักหมมของเศษอาหาร อีกทั้ง คลองในวัดบวรฯ เป็นระบบปิด ตะกอนเลนไม่สามารถไหลสู่ภายนอกได้ เกิดการสะสมของตะกอนเลน จิตกระทรวงอุตสาหกรรมจึงดำเนินการดูดตะกอนเลนและปรับปรุงคุณภาพน้ำภายในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจาก วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี รวมทั้งบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงผนวช และเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ขณะทรงผนวชในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7 และ รัชกาลที่ 9 อีกทั้งยังเป็นที่ประทับขณะจำพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ก่อนลาผนวชขึ้นครองราชย์ ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาติไทย
18 ก.ค. 2568
“รองอธิบดีดวงดาวว” ล่องใต้อวดโฉม 10 ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารชุมชน ดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นและของดีพื้นเมือง หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารให้โตไกล ตามนโนบายอธิบดีณัฏฐิญา
“รองอธิบดีดวงดาวว” ล่องใต้อวดโฉม 10 ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารชุมชน ดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นและของดีพื้นเมือง หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารให้โตไกล ตามนโนบายอธิบดีณัฏฐิญา
จ.สุราษฎร์ธานี 14 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมการเผยแพร่ผลสำเร็จการยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร นวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้ พร้อมทั้งมอบวุฒิบัตร โล่รางวัล และกล่าวแสดงความยินดีแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว พร้อมด้วย นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวยุวภา ใจบุญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต สถาบันอาหาร นางสาวจิราพร อุตฤทธิ์ ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาสุราษฎร์ธานี นางสาวนภัทร สุมะโน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) และผู้ประกอบการ เข้าร่วมงาน ณ ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ”กิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร และนวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้“ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนในพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ ผ่านกลยุทธ์การให้ทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน การให้โอกาสผู้ประกอบการได้โตไกลด้วยการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และเครื่องมือต่าง ๆ พร้อมผสมผสานกับอัตลักษณ์ประจำถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อาหารและตอบโจทย์ความต้องการของตลาด อันจะเป็นการผลักดันให้อาหารไทยกลายเป็น Soft Power ของประเทศได้อย่างยั่งยืน โอกาสนี้ ดีพร้อม ได้จัดกิจกรรมการเผยแพร่ผลสำเร็จการยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร นวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้ เพื่อจัดแสดงผลงานต้นแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนอัตลักษณ์ถิ่นภาคใต้ จำนวน 10 กิจการ และมอบวุฒิบัตรให้แก่ 10 กิจการที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และมอบโล่รางวัลให้แก่สถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ 1) บริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด จ.ชุมพร ผลิตผลิตภัณฑ์ ผงไอศกรีมกล้วยหอมทองละแมชุมพร 2) วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง จ.ระนอง ผลิตผลิตภัณฑ์ ชาเปลือกโกโก้ผสมมังคุดในวงระนองและไซรัปชาเปลือกโกโก้ผสมมังคุดในวง ระนอง และ 3) เคบีเค อินเตอร์ฟู้ด จ.ระนอง ผลิตผลิตภัณฑ์ กล้วยอบแผ่นหนึบโรยหน้าเม็ดกาหยู ซึ่งทั้ง 3 รายข้างต้น สามารถพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ผสมผสานชูอัตลักษณ์ในท้องถิ่นได้อย่างลงตัวจนสามารถสร้างมูลค่าได้ ทั้งนี้ ได้มีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาร่วมจัดแสดงและจัดจำหน่าย เพื่อเป็นการทดสอบตลาด รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภค เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น อันจะทำให้เกิดการสร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจระดับชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
18 ก.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำคณะ บินตรงแดนซามูไร หารือ Toyo Seikan ดันบรรจุภัณฑ์ไทยรักษ์โลกสู่สากล สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำคณะ บินตรงแดนซามูไร หารือ Toyo Seikan ดันบรรจุภัณฑ์ไทยรักษ์โลกสู่สากล สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 11 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมหารือกับ บริษัท Toyo Seikan จำกัด พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกรรม) เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม (Packaging and Beverage R&D Center) “Toyo Seikan” เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ทั้งจากโลหะ พลาสติก กระดาษ และแก้ว โดยปัจจุบันมีโรงงานและธุรกิจ จำนวน 77 แห่งในญี่ปุ่น และ 35 แห่งทั่วโลก รวมถึงมีสาขาในประเทศไทย 7 แห่ง ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก และเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มพร้อมดื่มบรรจุขวดพลาสติก (PET) ให้กับแบนร์ดต่าง ๆ ด้วยระบบปลอดเชื้อ (Aseptic Filling System) นอกจากนี้ Toyo Seikan ยังมีการก่อตั้ง Corporate R&D ศูนย์วิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม (Packaging and Beverage R&D Center) เพื่อส่งเสริมระบบปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีน้ำหนักเบา ใช้วัสดุรีไซเคิลได้สูงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การหารือร่วมกันดังกล่าว “ดีพร้อม” ได้กล่าวถึงภารกิจที่ดำเนินการตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ซึ่งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ดีพร้อมมีหน่วยงานที่ดูแลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Thai-IDC) ที่ตั้งอยู่ในทุกภูมิภาค ทำหน้าที่วิจัยวัสดุและออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ กองโลจิสติกส์ ช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ให้กับ SMEs ซึ่งสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้สูงสุดถึงร้อยละ 40 และกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพอุตสาหกรรมอาหารไทยอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ด้านความสะอาด สะดวก ปลอดภัย และยืดอายุสินค้า พร้อมส่งเสริมการเล่าเรื่องผ่านบรรจุภัณฑ์ (Storytelling) ในการออกแบบเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า นอกจากนั้น ไทยกำลังพัฒนาระบบ “ไมโครรีไซเคิล (Micro-Recycle)” ควบคู่กับกฎหมายควบคุมผู้ผลิต โดยมีการตรวจสอบทุกกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิด Zero Waste ซึ่งผู้ประกอบการต้องรายงานการจัดการของเสียในรูปแบบ Self-Declare โดยรัฐบาลจะมีกองทุนฟื้นฟูและเยียวยา (Rehabilitation and Relief Fund) สำหรับช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้ดำเนินการผลิตในอุตสาหกรรม สอดคล้องกับแนวคิด “High Productivity และการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างยั่งยืน” รวมถึงการนำเทคโนโลยี Solar Cell และ Decarbonization มาใช้เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยในระยะยาวต่อไป
16 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” จับมือ “มาเอะคาวะ” ประเทศญี่ปุ่น มุ่งมั่นยกระดับอุตฯ เครื่องทำความเย็น เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาฝีมือแรงงาน ลดการใช้ไนโตรเจนอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” จับมือ “มาเอะคาวะ” ประเทศญี่ปุ่น มุ่งมั่นยกระดับอุตฯ เครื่องทำความเย็น เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาฝีมือแรงงาน ลดการใช้ไนโตรเจนอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 10 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมหารือกับ Mr.Toshikazu Inaba Corporate Officer, In charge of Food Business บริษัท มาเอะคาวะ จำกัด (MAEKAWA Co., Ltd.) ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ในการประชุมดังกล่าว เป็นการหารือแนวทางความร่วมมือในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมถนอมอาหาร และระบบคลังสินค้า โดยเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีทำความเย็นขั้นสูง (Advanced Cooling Technology) พร้อมส่งเสริมการลงทุน และยกระดับมาตรฐานการผลิตของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งมาเอะคาวะ มีการพัฒนาเทคโนโลยีทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่สามารถลดการใช้ไนโตรเจนในกระบวนการทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากเดิมที่ใช้ไนโตรเจนมากกว่า 1 ตันต่อรอบการผลิต มาเอะคาวะได้นำคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มาใช้เป็นตัวนำพาความเย็นแทน ซึ่งช่วยลดการใช้ไนโตรเจนเหลือเพียง 19 กิโลกรัมต่อรอบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ พร้อมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอาหารที่เก็บรักษาในระบบความเย็น อีกทั้งยังสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงคงประสิทธิภาพการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับมาตรฐานการผลิตของญี่ปุ่น ในความร่วมมือครั้งนี้ จะครอบคลุมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบมาตรฐานญี่ปุ่นสู่ผู้ประกอบการไทย ทั้งในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น การร่วมลงทุน รวมถึงการส่งเสริมการร่วมลงทุน เพื่อสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งและยั่งยืน ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” “อธิบดีณัฏฐิญา“ กล่าวว่า ความร่วมมือกับมาเอะคาวะครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นของไทยให้ทันสมัย และยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการผลักดัน SMEs ไทย ให้สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ และก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล สอดรับกับนโยบายปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมไทย ด้วยการยกระดับห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากร และสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายเล็กสู่เวทีโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
15 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” จับมือ “Tokyo SME Support Center” พร้อมเสริมแกร่ง เพิ่มศักยภาพ SME ไทยและญี่ปุ่น ให้แข็งแรง โตไกลสู่ตลาดสากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” จับมือ “Tokyo SME Support Center” พร้อมเสริมแกร่ง เพิ่มศักยภาพ SME ไทยและญี่ปุ่น ให้แข็งแรง โตไกลสู่ตลาดสากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 10 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมหารือร่วมกับ Mr. Nakanishi Mitsuru President & CEO Tokyo SME Support Center ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ในการประชุมครั้งนี้ มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่าง ดีพร้อม กับ Tokyo SME Support Center เพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถเข้าถึงตลาดในประเทศญี่ปุ่น และตลาดในระดับสากลมากขึ้น โดย “ดีพร้อม” มุ่งมั่นในการสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” โดยใช้แนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ในการพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ยังให้ความเชื่อมั่นว่า “ดีพร้อม” จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจาก ไทย-ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นร่วมกันมาหลายศตวรรษ และความร่วมมือระหว่าไทย-ญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่การจับคู่ทางธุรกิจเพื่อค้าขายเท่านั้น แต่ควรมีความร่วมมือเพื่อเป็นซัพพลายเชนระหว่างกัน รวมทั้งร่วมดูแลชุมชนโดยรอบด้วย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล
14 ก.ค. 2568