โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
คิดเห็นแชร์ : สตาร์ตอัพไทย ความฝันของเถ้าแก่คนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงในซีรีส์
คิดเห็นแชร์ : สตาร์ตอัพไทย ความฝันของเถ้าแก่คนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงในซีรีส์
คอลัมน์ : คิดเห็นแชร์ (มติชนออนไลน์) ผู้เขียน : นายณัฐพล รังสิตพล (อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) สวัสดีแฟน ๆ คิด เห็น แชร์ ทุกท่านครับ กระแสของสตาร์ตอัพนั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มาฮิตติดลมบนอีกครั้งเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง Start-Up ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าฝันเป็นเถ้าแก่จากการเริ่มต้นทำธุรกิจให้เติบโตก้าวไปสู่ระดับโลก ดังเช่นบริษัทที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple Amazon Facebook หรือ Tesla เป็นต้น แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลกชะลอตัว หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ และมีหลาย ๆ สิ่งไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยพลิกวิกฤตโดยใช้โอกาสนี้สร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการผลักดันและส่งเสริมให้เกิดสตาร์ตอัพ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์แนวโน้มความต้องการของโลกในยุคความปกติถัดไป (Next Normal) สตาร์ตอัพจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยได้ในอนาคต หลายท่านคงคุ้นเคยกับคำว่า “สตาร์ตอัพ” (Startup) กันบ้างแล้ว แต่อาจยังมีข้อสงสัยว่า สตาร์ตอัพกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีความแตกต่างกันอย่างไร อันที่จริงแล้ว สตาร์ตอัพก็คือเอสเอ็มอีที่ประกอบธุรกิจใน 3 กลุ่ม ได้แก่ การผลิต การค้า และการบริการ หากแต่เป็นเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในการเริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ โดยมีแนวคิดหรือโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่สามารถทำซ้ำ (repeatable) และขยายธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด (Scalable) ซึ่งสตาร์ตอัพส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ จะใช้ไอทีเป็นหัวใจหลักในการประกอบธุรกิจ เพราะไอทีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแตกต่างระหว่างสตาร์ตอัพกับเอสเอ็มอี โดยเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสตาร์ตอัพนั้น จะใช้วิธีหาเงินทุนจากการนำเสนอไอเดียและโมเดลธุรกิจให้กับนักลงทุน (Venture Capital : VC) ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจนั้น เพราะการมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จในการเติบโตของสตาร์ตอัพในอนาคต สำหรับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมีภารกิจส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี ได้ให้นิยาม “สตาร์ตอัพ” ไว้ว่า “วิสาหกิจเริ่มต้น” ซึ่งหมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือธุรกิจที่เริ่มต้นจากการมีแนวคิด โมเดลทางธุรกิจ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาชีวิตประจำวัน ธุรกิจ อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อมได้ โดยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างรายได้และผลกำไรของธุรกิจให้ขยายตัวแบบก้าวกระโดดและเติบโตไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ได้ โดยจุดเน้นของสตาร์ตอัพหรือวิสาหกิจเริ่มต้น ที่ได้รับการดูแลและบ่มเพาะอยู่นั้น จะมีคุณลักษณะสำคัญ ดังนี้ 1) มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงลึก (Deep Technology) ที่ได้จากการศึกษา วิจัยและพัฒนา และลอกเลียนแบบได้ยาก 2) มีรูปแบบธุรกิจใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของตลาด มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และเป็นปริมาณที่มากเพียงพอต่อการทำซ้ำและขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดดได้ และ 3) มีเป้าหมายในการขยายตัวและเติบโตทางธุรกิจ พร้อมรับการลงทุนหรือร่วมทุนจากนักลงทุนหรือกองทุนต่างๆ ได้ นอกจากนี้ จะเน้นเรื่องการใช้เครือข่าย (Networking) ซึ่งเป็นจุดแข็งของกรม มาช่วยเติมเต็มในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ตอัพให้สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จ ซึ่งประกอบด้วย 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การขยายเครือข่ายสตาร์ตอัพ โดยการเฟ้นหาสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพจากหน่วยงานเครือข่ายจากทั้งสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยต่าง ๆ พร้อมบ่มเพาะให้มีความพร้อมสำหรับการนำเสนอโมเดลธุรกิจกับนักลงทุน 2.การขยายเครือข่ายเงินทุน โดยการสร้างเครือข่ายกับบริษัทเอกชนที่สนใจร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ตอัพที่ได้รับการบ่มเพาะ ด้วยการจัดกิจกรรมเครือข่ายนักธุรกิจอุตสาหกรรมและนักร่วมลงทุน (Industry & Investor Forum) เพื่อให้สตาร์ตอัพมีโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน 3.การขยายเครือข่ายตลาด โดยส่งเสริมให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมหรือเครือข่ายธุรกิจอุตสาหกรรมนำโซลูชั่นของสตาร์ตอัพไปใช้งานจริง และเป็นตลาดให้ภายในประเทศ 4.การขยายเครือข่ายวิชาการนานาชาติ โดยการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติในประเทศไทย เชื่อมโยงภาคีเครือข่ายระหว่างสตาร์ตอัพและนักลงทุนไทย กับสตาร์ตอัพและนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อให้มีเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดไปยังตลาดนานาชาติที่มีมูลค่าตลาดสูงขึ้น ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสตาร์ตอัพทั้งในระยะเริ่มต้น (Early Stage) คือ โครงการ Angel Fund และในระยะเติบโต (Growth Stage) คือ โครงการ Startup Connect มีเครือข่ายสตาร์ตอัพที่บ่มเพาะมาตั้งแต่ปี 2559 และปัจจุบันในปี 2564 มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมมากกว่า 500 ราย โดยมีคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเถ้าแก่ ผ่านการคัดเลือกและได้รับการบ่มเพาะอย่างเข้มข้นกว่า 75 ราย เพื่อให้พร้อมสำหรับกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) อีกทั้งจะได้นำเสนอโมเดลธุรกิจต่อนักลงทุน (Pitching) เพื่อให้เขาเหล่านี้ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากผู้ร่วมลงทุนที่อยู่ในเครือข่ายของกรมต่อไป โดยในปี 2563 มีสตาร์ตอัพจำนวน 6 ราย ได้นำเสนอโมเดลธุรกิจ และมีนักลงทุนได้ร่วมลงทุนกับสตาร์ตอัพ รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ หากเราสามารถส่งเสริมและผลักดันให้คนรุ่นใหม่ที่มีฝันอยากทำธุรกิจ ด้วยแนวคิดธุรกิจใหม่ ๆ ให้กลายเป็นสตาร์ตอัพหรือจนเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยได้ ประเทศไทยจะมีนักรบเศรษฐกิจใหม่ ที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจในไทยให้เข้มแข็ง สร้างรายได้ให้คนไทย และนำพาประเทศก้าวข้ามปัญหากับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งท่านที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของการพัฒนาสตาร์ตอัพได้ที่ Facebook: Angelfundthailand นะครับ ที่มา https://www.matichon.co.th/economy/news_2610890
07 มี.ค. 2564
SDGs ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมปรับเปลี่ยน สู่ความยั่งยืนของไทยและโลกเรา
SDGs ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมปรับเปลี่ยน สู่ความยั่งยืนของไทยและโลกเรา
ด้วยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำชุดวิดีทัศน์เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายใต้หลักแนวคิด “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมปรับเปลี่ยนสู่ความยั่งยืนของไทยและโลกเรา” และได้ทำการแนบลิงค์วิดีทัศน์เพื่อทำการเผยแพร่ โดยมีรายละเอียดของแต่ละตอนดังต่อไปนี้ ตอนที่ 1 : SDGs ความรู้เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตอนที่ 2 : SDGs ในทศวรรษแห่งการดำเนินการอย่างจริงจัง (Decade of Action) ตอนที่ 3 : SDGs กับเยาวชน ตอนที่ 4 : SDGs กับภาคธุรกิจ ตอนที่ 5 : SDGs กับความหลากหลายทางเพศ ตอนที่ 6 : SDGs กับเกษตรกร ตอนที่ 7 : SDGs กับชีวิตคนเมือง ตอนที่ 8 : SDGs กับอาหารริมทาง YouTube Channel: https://www.youtube.com/channel/UCjMyIXHto5XgR2cSvX4I2xA/videos
05 มี.ค. 2564
กสอ. ผนึกกำลัง AOTS ติดอาวุธเทคโนโลยีดิจัลอุตสาหกรรมไทย หวังยกระดับศักยภาพการแข่งขันสู่สากล
กสอ. ผนึกกำลัง AOTS ติดอาวุธเทคโนโลยีดิจัลอุตสาหกรรมไทย หวังยกระดับศักยภาพการแข่งขันสู่สากล
กรุงเทพฯ 5 มีนาคม 2564 - นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ นายยูเฮ วาดะ หัวหน้าผู้แทน สมาคมศิษย์เก่าศูนย์วัฒนธรรมเอเชียและทุนฝึกอบรมเทคนิคโพ้นทะเล (ประเทศไทย) (The Association for Overseas Technical Scholarship; AOTS) ให้เกียรติเปิดงานสัมมนา “Lean IoT Management Seminar” on Smart and Effective IoT Introduction towards Thailand 4.0 ร่วมด้วย ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อํานวยการกลุ่มโครงการพิเศษและ ศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คณะผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่าย และผู้ประกอบการเข้าร่วมงานสัมมนาดังกล่าว ณ โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท งานสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรสาขาวิศวกรรมโดยนำระบบ IoT มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย เพื่อพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยอาศัยประสบการณ์กว่าครึ่งศตวรรษที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่นได้สั่งสมมา ประกอบกับความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการผลิตและเทคโนโลยีดิจิทัลของไทยและญี่ปุ่น มาร่วมพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อย (MSME) เพื่อให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถลงทุนนำระบบ IoT ไปใช้ปรับตัวได้จริงในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนารูปแบบกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานให้สามารถแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมระดับสากลได้ ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
05 มี.ค. 2564
2 ขุนพล กสอ. ร่วมพิธีเปิดศูนย์ฝึกอบรม Lean IoT Plant Management Execution (LIPE)
2 ขุนพล กสอ. ร่วมพิธีเปิดศูนย์ฝึกอบรม Lean IoT Plant Management Execution (LIPE)
กรุงเทพฯ 3 มีนาคม 2564 - นายภาสกร ชัยรัตน์ และนายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีเปิดศูนย์ฝึกอบรม Lean IoT Plant management and Execution (LIPE) โดยมี นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอัตสึชิ อิการาชิ รองประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization; JETRO Bangkok) และนายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ กลุ่มโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิตัลและนวัดกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเปิดงาน และนายยูเฮ วาดะ หัวหน้าผู้แทน สมาคมศิษย์เก่าศูนย์วัฒนธรรมเอเชียและทุนฝึกอบรมเทคนิคโพ้นทะเล (ประเทศไทย) (The Association for Overseas Technical Scholarship; AOTS) กล่าวรายงาน ณ ห้องสัมมนา 101 ชั้น 1 กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พระรามที่ 4 คลองเตย ศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยยกระดับการพัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมในการนำระบบ IoT มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างรากฐานที่สำคัญสำหรับการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประเทศให้ก้าวสู่ Industry 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ผ่านทางกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม (METI) เพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ภายใต้กรอบโครงการ “Connected Industry” ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
04 มี.ค. 2564
กสอ. หารือ กระทรวงยุติธรรม กองทุนหมู่บ้านฯ เดินหน้าถอดรหัสอัตลักษณ์ จ. สุโขทัย
กสอ. หารือ กระทรวงยุติธรรม กองทุนหมู่บ้านฯ เดินหน้าถอดรหัสอัตลักษณ์ จ. สุโขทัย
กรุงเทพฯ 3 มีนาคม 2564 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมลงพื้นที่ในกิจกรรม "ถอดรหัส อัตลักษณ์ วิถีถิ่น สุโขทัย" ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในพื้นที่ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) คณะผู้แทนจากกรมราชทัณฑ์ และ คณะผู้แทนจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ร่วมประชุมหารือกำหนดแนวทางการส่งเสริมและเผยแพร่เศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่เป้าหมาย ครั้งที่ 3/2564 ณ ห้องประชุมทางไกล ชั้น 2 อาคาร กสอ. กสอ. ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในกิจกรรมดังกล่าว ที่จะจัดขึ้นใน จ.สุโขทัย ด้วยเล็งเห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านของพื้นที่ อีกทั้งยังมีต้นทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นจำนวนมากที่พร้อมจะได้รับการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก โดย กสอ. มีเป้าหมายเข้าช่วยเหลือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกและบรรจุภัณฑ์เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ยกระดับชุมชน อีกทั้งยังได้การสนับสนุนจากกระทรวงยุติธรรมในส่วนของแรงงานฝีมือดีจากผู้ต้องขังในเรือนจำในพื้นที่จังหวัด ได้ฝึกฝนทักษะอาชีพเพื่อต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพสุจริตในอนาคต ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
03 มี.ค. 2564
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมรับความรู้ "ก้าวทันการตลาด ฉลาดกับออนไลน์"
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมรับความรู้ "ก้าวทันการตลาด ฉลาดกับออนไลน์"
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขอเชิญชวนผู้ประกอบการชาวสงขลาและหาดใหญ่ ร่วมสัมมนา เรื่อง “ก้าวทันการตลาด ฉลาดกับออนไลน์“ วิทยากรคือ คุณพิชิต สุขไผ่ตา CEO เพจอีจัน และวิทยากรผู้มีชื่อเสียงอื่นๆ ในวันที่ 6 มีนาคม 2564 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ณ โรงแรมสยามโอเรียลทัล หาดใหญ่ โดยท่านสามารถลงทะเบียนอบรมได้ที่ https://ddi.appthaimenu.com/ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0855192916
03 มี.ค. 2564
กสอ. ยกระดับมืออาชีพ “สมาร์ทโฟร์ฟู้ดทรัค” พร้อมปรับตัวยุค New Normal
กสอ. ยกระดับมืออาชีพ “สมาร์ทโฟร์ฟู้ดทรัค” พร้อมปรับตัวยุค New Normal
กรุงเทพฯ 2 มีนาคม 2564 - นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการสู่การจัดตั้งหรือขยายธุรกิจ รุ่นที่ 1 ร่วมด้วย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถานบันอาหาร และผู้ประกอบการ โดยมี นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวต้อนรับ และ นายวุฒิชัย ประชาพร ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กสอ. กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุม อมรินทร์ ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร บางพลัด การฝึกอบรมดังกล่าว เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการสู่ความเป็นมืออาชีพ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ ที่จำเป็นให้แก่ผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจฟู้คทรัค (Food Truck) รวมทั้งผู้ที่เริ่มประกอบธุรกิจให้สามารถจัดตั้ง ขยาย และปรับตัวได้ โดยตั้งเป้าผู้เข้าอบรมไม่ต่ำกว่า 80 ราย ซึ่งการอบรมครั้งนี้ผู้ประกอบการจะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านต่าง ๆในการประกอบธุรกิจฟู้ดทรัค อาทิ การจัดการและตกแต่งร้าน สุขวิทยาส่วนบุคคลของผู้สัมผัสอาหาร สุขาภิบาลการจัดการร้านอาหาร ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อส่งเสริมธุรกิจ ตลอดจนการวางแผนธุรกิจของตัวเองให้สอดคล้องกับสภาวะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีการปรับเปลี่ยนได้อย่างทันท่วงที มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน “สมาร์ทโฟร์ฟู้ดทรัค” ได้แก่ มาตรฐานคนทำอาหารบนรถฟู้ดทรัค 2 มาตรฐานของครัวบนรถฟู้ดทรัค 3 มาตรฐานของตัวรถฟู้ดทรัค และ 4 มาตรฐานตลาด พร้อมปรับตัวในยุควิถีชีวิตใหม่ (New Normal) นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการการทำงานผ่านความร่วมมือภายใต้ข้อตกลง MOU ร่วมกับกรมอนามัยต่อการพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัค และผู้ประกอบการด้านอาหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลให้ผู้เข้าอบรมได้รับการรับรองการเป็นผู้ผ่านหลักสูตรผู้ประกอบกิจการจากกรมอนามัย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการยื่นขอรับใบอนุญาตขายอาหาร เพื่อเป็นการยกระดับธุรกิจของผู้ประกอบการให้มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น และสร้างความน่าเชื่อถือด้านความความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกยังจะได้รับโอกาสในการให้คำปรึกษา แนะนำเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนา ปรับปรุง และวางแผนธุรกิจให้มีศักยภาพต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์
02 มี.ค. 2564
กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด (Agro-Processing Product 4.0 : APP)
กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด (Agro-Processing Product 4.0 : APP)
"โอกาสดี โอกาสเดียว ที่คุณจะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยผู้เชี่ยวชาญ" กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด (Agro-Processing Product 4.0 : APP) ภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปแบบครบวงจร (Agro-Processing Industry Esan Lower 2) ปีงบประมาณ 2564 กลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปหรืออุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 4 จังหวัด (อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ) จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ราย ผลที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการ สถานประกอบการได้รับการพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการ การดำเนินงาน ได้รับการประเมินศักยภาพสถานประกอบการ จำนวน 50 ราย ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 30 ราย/ 30 ผลิตภัณฑ์ ระยะเวลา ตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2564 ถึง เดือนกรกฎาคม 2564 รับสมัครแล้ววันนี้ จนถึงวันที่ 8 มีนาคม 2564 สมัครก่อนมีสิทธิ์ก่อน หมายเหตุ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้.- ลำดับในการสมัครเข้ากิจกรรมใน กูเกิ้ลฟอร์ม ขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปีงบประมาณ 2564 ขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกสถานประกอบการ โดยใช้เกณฑ์ของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 ปิดรับสมัครวันที่ 8 มีนาคม 2564 ติดต่อสอบถาม กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เลขที่ 222 หมู่ที่ 24 ถ.คลังอาวุธ ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี 34000 รัฐนนท์ 08 9190 5725 เกษรินทร์ 06 2889 4156
01 มี.ค. 2564
“อธิบดีณัฐพล” ลงพื้นที่เยี่ยมชม SIMTEC Park เล็งจับมือเอกชน ผุดไอเดียต่อยอดเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร
“อธิบดีณัฐพล” ลงพื้นที่เยี่ยมชม SIMTEC Park เล็งจับมือเอกชน ผุดไอเดียต่อยอดเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร
จ.สุพรรณบุรี 22 กุมภาพันธ์ 2564 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) นายวิจักขณ์ รัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม นางเฉลา ศรีเพ็ชร์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 นายอาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย วิศวกรเชี่ยวชาญ และคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ กสอ. เยี่ยมชม SIMTEC Park จ.สุพรรณบุรี โดยมี นายจิระพันธ์ อุลปาทร ประธานกรรมการ บริษัท เครือสุมิพล จำกัด และนายทรงพล อุลปาทร กรรมการบริษัท สุมิพล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งพาเยี่ยมชมและสรุปภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท ณ คุ้งทองดายา อ.บางปลาม้า SIMTEC Park จ.สุพรรณบุรี เป็นแนวคิดการสร้างสรรค์อุทยานการศึกษาอัจฉริยะ (Smart Educational Park) บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ของ บริษัท เครือสุมิพล จำกัด เพื่อส่งเสริมภาคเกษตรอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร โดยใช้ Food Chain Platform อาทิ HIVE Market (ค้นหาซัพพลายเออร์ออนไลน์ที่เหมาะสมกับธุรกิจ พร้อมคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ) HIVE RI (ระบบร้านอาหารอัจฉริยะที่สามารถบริหารจัดการร้านได้อย่างครบวงจร เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารทุกประเภท) โดยมุ่งเน้นไปที่แนวคิด Factory to Farm ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากโรงงานสู่ภาคการเกษตร รวมถึงการยกระดับ Digital Logistic โดยเน้นไปที่การ Delivery สินค้าเกษตรจากฟาร์มสู่ลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าสินค้าจากภาคการเกษตรอย่างมหาศาล นอกจากนี้ ยังใช้พื้นที่ SIMTEC Park เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคเกษตรอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ทาง กสอ. และ บริษัท เครือสุมิพล จำกัด ยังได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือเกี่ยวกับการยกระดับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในอนาคตต่อไป ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
23 ก.พ. 2564
“อธิบดีณัฐพล” ลงพื้นที่เมืองสุพรรณ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่บุคลากร ศภ.8 กสอ. พร้อมเน้นย้ำการปรับกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
“อธิบดีณัฐพล” ลงพื้นที่เมืองสุพรรณ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่บุคลากร ศภ.8 กสอ. พร้อมเน้นย้ำการปรับกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
จ.สุพรรณบุรี 22 กุมภาพันธ์ 2564 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและมอบนโยบายการทำงานให้แก่ ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ของ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 จ.สุพรรณบุรี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.8 กสอ.) ร่วมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา เลขานุการกรม กสอ. นายวิจักขณ์ รัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กสอ. นายอาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย วิศวกรเชี่ยวชาญ และคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ กสอ. โดยมี นางเฉลา ศรีเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ ศภ.8 กสอ. และข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ศภ.8 กสอ. ให้การต้อนรับและสรุปภาพรวมการดำเนินงาน ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 อ.เมืองสุพรรณบุรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับฟังผลการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ และการให้บริการของ ศภ.8 กสอ. ที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางการดำเนินงานและการให้บริการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นอกจากนี้ ท่านอธิบดีณัฐพลยังได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ศภ.8 กสอ. โดยเน้นย้ำการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างตรงจุด ตลอดจนมุ่งเน้นการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามความต้องการในเชิงพื้นที่มากขึ้น ขณะเดียวกันยังได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือ ศูนย์ ITC 4.0 ซึ่งเน้นการให้บริการผู้ประกอบการเพื่อยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
23 ก.พ. 2564