โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
“รองอธิบดีดวงดาวว” ล่องใต้อวดโฉม 10 ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารชุมชน ดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นและของดีพื้นเมือง หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารให้โตไกล ตามนโนบายอธิบดีณัฏฐิญา
“รองอธิบดีดวงดาวว” ล่องใต้อวดโฉม 10 ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารชุมชน ดึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นและของดีพื้นเมือง หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารให้โตไกล ตามนโนบายอธิบดีณัฏฐิญา
จ.สุราษฎร์ธานี 14 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมการเผยแพร่ผลสำเร็จการยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร นวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้ พร้อมทั้งมอบวุฒิบัตร โล่รางวัล และกล่าวแสดงความยินดีแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว พร้อมด้วย นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวยุวภา ใจบุญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต สถาบันอาหาร นางสาวจิราพร อุตฤทธิ์ ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาสุราษฎร์ธานี นางสาวนภัทร สุมะโน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) และผู้ประกอบการ เข้าร่วมงาน ณ ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ”กิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร และนวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้“ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนในพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ ผ่านกลยุทธ์การให้ทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน การให้โอกาสผู้ประกอบการได้โตไกลด้วยการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และเครื่องมือต่าง ๆ พร้อมผสมผสานกับอัตลักษณ์ประจำถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อาหารและตอบโจทย์ความต้องการของตลาด อันจะเป็นการผลักดันให้อาหารไทยกลายเป็น Soft Power ของประเทศได้อย่างยั่งยืน โอกาสนี้ ดีพร้อม ได้จัดกิจกรรมการเผยแพร่ผลสำเร็จการยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร นวัตกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ประจำถิ่นภาคใต้ เพื่อจัดแสดงผลงานต้นแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนอัตลักษณ์ถิ่นภาคใต้ จำนวน 10 กิจการ และมอบวุฒิบัตรให้แก่ 10 กิจการที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และมอบโล่รางวัลให้แก่สถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ 1) บริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด จ.ชุมพร ผลิตผลิตภัณฑ์ ผงไอศกรีมกล้วยหอมทองละแมชุมพร 2) วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง จ.ระนอง ผลิตผลิตภัณฑ์ ชาเปลือกโกโก้ผสมมังคุดในวงระนองและไซรัปชาเปลือกโกโก้ผสมมังคุดในวง ระนอง และ 3) เคบีเค อินเตอร์ฟู้ด จ.ระนอง ผลิตผลิตภัณฑ์ กล้วยอบแผ่นหนึบโรยหน้าเม็ดกาหยู ซึ่งทั้ง 3 รายข้างต้น สามารถพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ผสมผสานชูอัตลักษณ์ในท้องถิ่นได้อย่างลงตัวจนสามารถสร้างมูลค่าได้ ทั้งนี้ ได้มีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาร่วมจัดแสดงและจัดจำหน่าย เพื่อเป็นการทดสอบตลาด รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภค เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น อันจะทำให้เกิดการสร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจระดับชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
18 ก.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำคณะ บินตรงแดนซามูไร หารือ Toyo Seikan ดันบรรจุภัณฑ์ไทยรักษ์โลกสู่สากล สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำคณะ บินตรงแดนซามูไร หารือ Toyo Seikan ดันบรรจุภัณฑ์ไทยรักษ์โลกสู่สากล สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 11 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมหารือกับ บริษัท Toyo Seikan จำกัด พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกรรม) เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม (Packaging and Beverage R&D Center) “Toyo Seikan” เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ทั้งจากโลหะ พลาสติก กระดาษ และแก้ว โดยปัจจุบันมีโรงงานและธุรกิจ จำนวน 77 แห่งในญี่ปุ่น และ 35 แห่งทั่วโลก รวมถึงมีสาขาในประเทศไทย 7 แห่ง ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก และเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มพร้อมดื่มบรรจุขวดพลาสติก (PET) ให้กับแบนร์ดต่าง ๆ ด้วยระบบปลอดเชื้อ (Aseptic Filling System) นอกจากนี้ Toyo Seikan ยังมีการก่อตั้ง Corporate R&D ศูนย์วิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม (Packaging and Beverage R&D Center) เพื่อส่งเสริมระบบปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีน้ำหนักเบา ใช้วัสดุรีไซเคิลได้สูงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การหารือร่วมกันดังกล่าว “ดีพร้อม” ได้กล่าวถึงภารกิจที่ดำเนินการตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ซึ่งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ดีพร้อมมีหน่วยงานที่ดูแลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Thai-IDC) ที่ตั้งอยู่ในทุกภูมิภาค ทำหน้าที่วิจัยวัสดุและออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ กองโลจิสติกส์ ช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ให้กับ SMEs ซึ่งสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้สูงสุดถึงร้อยละ 40 และกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพอุตสาหกรรมอาหารไทยอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ด้านความสะอาด สะดวก ปลอดภัย และยืดอายุสินค้า พร้อมส่งเสริมการเล่าเรื่องผ่านบรรจุภัณฑ์ (Storytelling) ในการออกแบบเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า นอกจากนั้น ไทยกำลังพัฒนาระบบ “ไมโครรีไซเคิล (Micro-Recycle)” ควบคู่กับกฎหมายควบคุมผู้ผลิต โดยมีการตรวจสอบทุกกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิด Zero Waste ซึ่งผู้ประกอบการต้องรายงานการจัดการของเสียในรูปแบบ Self-Declare โดยรัฐบาลจะมีกองทุนฟื้นฟูและเยียวยา (Rehabilitation and Relief Fund) สำหรับช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้ดำเนินการผลิตในอุตสาหกรรม สอดคล้องกับแนวคิด “High Productivity และการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างยั่งยืน” รวมถึงการนำเทคโนโลยี Solar Cell และ Decarbonization มาใช้เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยในระยะยาวต่อไป
16 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” จับมือ “มาเอะคาวะ” ประเทศญี่ปุ่น มุ่งมั่นยกระดับอุตฯ เครื่องทำความเย็น เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาฝีมือแรงงาน ลดการใช้ไนโตรเจนอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” จับมือ “มาเอะคาวะ” ประเทศญี่ปุ่น มุ่งมั่นยกระดับอุตฯ เครื่องทำความเย็น เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาฝีมือแรงงาน ลดการใช้ไนโตรเจนอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 10 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมหารือกับ Mr.Toshikazu Inaba Corporate Officer, In charge of Food Business บริษัท มาเอะคาวะ จำกัด (MAEKAWA Co., Ltd.) ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ในการประชุมดังกล่าว เป็นการหารือแนวทางความร่วมมือในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมถนอมอาหาร และระบบคลังสินค้า โดยเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีทำความเย็นขั้นสูง (Advanced Cooling Technology) พร้อมส่งเสริมการลงทุน และยกระดับมาตรฐานการผลิตของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งมาเอะคาวะ มีการพัฒนาเทคโนโลยีทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่สามารถลดการใช้ไนโตรเจนในกระบวนการทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากเดิมที่ใช้ไนโตรเจนมากกว่า 1 ตันต่อรอบการผลิต มาเอะคาวะได้นำคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มาใช้เป็นตัวนำพาความเย็นแทน ซึ่งช่วยลดการใช้ไนโตรเจนเหลือเพียง 19 กิโลกรัมต่อรอบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ พร้อมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอาหารที่เก็บรักษาในระบบความเย็น อีกทั้งยังสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงคงประสิทธิภาพการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับมาตรฐานการผลิตของญี่ปุ่น ในความร่วมมือครั้งนี้ จะครอบคลุมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบมาตรฐานญี่ปุ่นสู่ผู้ประกอบการไทย ทั้งในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น การร่วมลงทุน รวมถึงการส่งเสริมการร่วมลงทุน เพื่อสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งและยั่งยืน ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” “อธิบดีณัฏฐิญา“ กล่าวว่า ความร่วมมือกับมาเอะคาวะครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นของไทยให้ทันสมัย และยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการผลักดัน SMEs ไทย ให้สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ และก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล สอดรับกับนโยบายปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมไทย ด้วยการยกระดับห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากร และสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายเล็กสู่เวทีโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
15 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” จับมือ “Tokyo SME Support Center” พร้อมเสริมแกร่ง เพิ่มศักยภาพ SME ไทยและญี่ปุ่น ให้แข็งแรง โตไกลสู่ตลาดสากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” จับมือ “Tokyo SME Support Center” พร้อมเสริมแกร่ง เพิ่มศักยภาพ SME ไทยและญี่ปุ่น ให้แข็งแรง โตไกลสู่ตลาดสากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 10 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมหารือร่วมกับ Mr. Nakanishi Mitsuru President & CEO Tokyo SME Support Center ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ในการประชุมครั้งนี้ มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่าง ดีพร้อม กับ Tokyo SME Support Center เพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถเข้าถึงตลาดในประเทศญี่ปุ่น และตลาดในระดับสากลมากขึ้น โดย “ดีพร้อม” มุ่งมั่นในการสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” โดยใช้แนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ในการพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ยังให้ความเชื่อมั่นว่า “ดีพร้อม” จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจาก ไทย-ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นร่วมกันมาหลายศตวรรษ และความร่วมมือระหว่าไทย-ญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่การจับคู่ทางธุรกิจเพื่อค้าขายเท่านั้น แต่ควรมีความร่วมมือเพื่อเป็นซัพพลายเชนระหว่างกัน รวมทั้งร่วมดูแลชุมชนโดยรอบด้วย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล
14 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” ชูธงนำ ผปก. บุกแดนปลาดิบ แสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์สินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทย ในงาน JFEX สร้างโอกาส ขยายตลาดต่างประเทศ ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” ชูธงนำ ผปก. บุกแดนปลาดิบ แสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์สินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทย ในงาน JFEX สร้างโอกาส ขยายตลาดต่างประเทศ ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
ประเทศญี่ปุ่น 9 - 11 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำทัพผู้ประกอบการไทยเดินทางทดสอบและเปิดตลาดที่ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงสู่ตลาดโลก พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ณ ศูนย์นิทรรศการโตเกียว บิ๊กไซด์ ประเทศญี่ปุ่น งาน “JAPAN JFEX–FOOD & BEVERAGE EXPO 2025” เป็นเวทีแสดงสินค้าอาหารระดับโลก ที่รวบรวมเทรนด์นวัตกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ การแปรรูป และเทคโนโลยีอาหารเพื่อสุขภาพจากทั่วโลก กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการโตเกียว บิ๊กไซต์ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเปิดประสบการณ์ตรงให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับความต้องการของตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ดีพร้อม โดย กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม (กอ.กสอ.) มีการจัดกิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงสู่ตลาดโลก ซึ่งมีการฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการบริหารธุรกิจ การเจรจาการค้า และการเตรียมความพร้อมในการส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ พร้อมทั้งการพาผู้ประกอบการจำนวน 10 กิจการ เข้าร่วมออกงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการโตไกล ขยายช่องทางการตลาด เจรจาจับคู่ธุรกิจ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศ ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต่นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สินค้าไทยสู่สายตาชาวโลก มุ่งหวังผลักดันปลุกกระแสซอฟต์พาวเวอร์อาหาร และเครื่องดื่มไทย ให้เติบโตก้าวขึ้นสู่เวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
14 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตฯ ส่ง ดีพร้อม ร่วมผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ตะลุยปั้นเชฟไฟแรง 1.7 หมื่นคน พร้อมต่อยอดสร้างเชฟมืออาชีพสู่ครัวโลก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศกว่า 3,500 ล้านบาท ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กระทรวงอุตฯ ส่ง ดีพร้อม ร่วมผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ตะลุยปั้นเชฟไฟแรง 1.7 หมื่นคน พร้อมต่อยอดสร้างเชฟมืออาชีพสู่ครัวโลก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศกว่า 3,500 ล้านบาท ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 8 กรกฎาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรม THAI MASTER CHEF POWER : พลังเชฟไทย สร้างชาติ ร่วมด้วย นางสาวณัฎฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้แทนจากหน่วยเครือข่ายพันธมิตร คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุม 208 - 209 A B C D ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้าทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) บูรณาการความร่วมมือกับ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เพื่อเดินหน้า “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย (Master Thai Chef)” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นการเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพ กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นสอดคล้องกับนโยบาย OFOS (One Family One Soft Power) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,500 ล้านบาท นางสาวณัฎฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีพร้อมได้ตระหนักถึงบทบาทของอุตสาหกรรมอาหารไทยในฐานะ Soft Power ที่ทรงพลังของประเทศและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดย ดีพร้อม ได้มุ่งพัฒนาเชฟชุมชนให้เป็นผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหารเชิงสร้างสรรค์ ไม่เพียงเน้นการฝึกอาชีพ แต่ครอบคลุมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ บรรจุภัณฑ์ และการตลาด พร้อมเชื่อมโยงเชฟกับ SME ท้องถิ่น เกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบ ผู้ผลิตเครื่องปรุง และร้านอาหาร ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ที่นี่มีแต่ให้” เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นระบบผ่าน “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย (Master Thai Chef)” เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และยกระดับทักษะให้ประชาชนสามารถเป็นเชฟมืออาชีพในระดับชุมชน โดยปี 2568 ดีพร้อมได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติทั้ง 13 สาขาเขต ในการขยายพื้นที่เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะให้ประชาชน จำนวน 17,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ 1. หลักสูตร Master Chef Program 50 ตำรับ จำนวน 12,000 คน และ 2. Master Chef Program Plus 70 ตำรับ จำนวน 5,000 คน โดยจะพัฒนาขึ้นมาใหม่จาก 7 กลุ่มอาหาร ประกอบด้วย อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ อาหารไทยสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพ ขนมหวานไทยประยุกต์สำหรับตลาดสากล อาหารไทย Street Food ฟิวชั่นอาหารไทยกับรสชาติสากล อาหารเจ และอาหารชาววัง ซึ่งออกแบบให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เข้ารับการอบรมทำให้สามารถต่อยอดสู่อาชีพ เกิดการสร้างรายได้ และสร้างแบรนด์ท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การยกระดับเชฟชุมชนให้เป็น Soft Power ระดับประเทศและการยอมรับอาหารไทยในเวทีสากลต่อไป
14 ก.ค. 2568
"รองอธิบดีดวงดาว" ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการ "ปลาร้าแม่เหรียญ" ความภาคภูมิใจของ “คอมมูนิตี้ดีพร้อม” ยกระดับโลจิสติกส์ ลดต้นทุน 7.6 แสนบาท พร้อมโกอินเตอร์
"รองอธิบดีดวงดาว" ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการ "ปลาร้าแม่เหรียญ" ความภาคภูมิใจของ “คอมมูนิตี้ดีพร้อม” ยกระดับโลจิสติกส์ ลดต้นทุน 7.6 แสนบาท พร้อมโกอินเตอร์
จ.หนองบัวลำภู 8 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายติณห์ เจริญใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากดีพร้อม ณ บริษัท ปลาร้าแม่เหรียญ จำกัด (สาขา 1) อ.ศรีบุญเรือง บริษัท ปลาร้าแม่เหรียญ จำกัด เป็นผู้ผลิตน้ำปลาร้าต้มสุกปรุงรสสำเร็จ และน้ำกระเทียมดองปรุงรสสำเร็จ โดยจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้การบริหารของนายมะมูญ ชารีนิวัฒน์ ซึ่งมีสโลแกนในการดำเนินธุรกิจที่ว่า “สะอาด คุณภาพสินค้าดี คู่ครัวไทย คุณอร่อยเราภูมิใจ" ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับด้านคุณภาพด้วยมาตรฐานมากมาย อาทิ อย., OTOP ระดับ 5 ดาว, GHP, HALAL และ ISO 9001:2015 นอกจากนี้ ยังมีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบบำบัดมลภาวะทางอากาศ (Waste Scrubber) และระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสะอาด ปลอดภัย มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา บริษัท ปลาร้าแม่เหรียญ จำกัด ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 ผ่านโครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ที่ช่วยพัฒนาให้เข้าสู่มาตรฐาน ISO 9001:2015 และล่าสุดได้เข้าร่วมกิจกรรมการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคนิคการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ภายใต้โครงการเสริมสร้างความสามารถการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้วยการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางการดำเนินงานต่าง ๆ ประกอบด้วย การประเมินผลธุรกิจเบื้องต้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้ตามแนวทาง MIND 4 มิติ ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาความรู้ด้านการประเมิน Carbon Footprint ขององค์กร จากนั้น ได้มีการวินิจฉัยสถานประกอบการเพื่อวิเคราะห์ศักยภาพ การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในการประยุกต์ใช้เทคนิคการบริหารจัดการโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึงการศึกษาดูงานด้านการนำเทคนิคการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่เหมาะสมจากโรงงานต้นแบบ โดยผลลัพธ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตบรรจุภัณฑ์ รวมถึงปรับปรุงระบบโลจิสติกส์และลดต้นทุนการขนส่ง คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 762,366 บาท นอกจากนี้ ดีพร้อมยังส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการขอใบอนุญาต CFP และ CFO เพื่อรองรับการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นการต่อยอดศักยภาพและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับบริษัทฯ ในระดับสากล สอดคล้องตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
14 ก.ค. 2568
ดีพร้อม ติดปีก คพอ. ภาคอีสาน ติวเข้ม 5 Module สร้างโอกาสไร้ขีดจำกัด สอดรับนโยบาย รมว. เอกนัฏ
ดีพร้อม ติดปีก คพอ. ภาคอีสาน ติวเข้ม 5 Module สร้างโอกาสไร้ขีดจำกัด สอดรับนโยบาย รมว. เอกนัฏ
จ. เลย 7 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร และปิดกิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดีพร้อม (ดีพร้อม คพอ.) รุ่นที่ 416 417 418 และ 419 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้โครงการพัฒนาองค์ความรู้ และศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมด้วย นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม นางสาวจินดา ธนาดำรงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 นางคนึงนิจ ทยายุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 นางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 เจ้าหน้าที่ (DIPROM) และผู้ประกอบการ เข้าร่วม โดยมี นายติณห์ เจริญใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 กล่าวรายงาน ณ ห้องชัยพฤกษ์ โรงแรมเลยพาเลซ อำเภอเมืองเลย "ดีพร้อม คพอ." เป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศผ่านการฝึกอบรมภายใต้โครงการนี้แล้วจำนวน 13,154 ราย โดยได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจอย่างเป็นระบบจากวิทยากรภาครัฐและเอกชนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์หลากหลายสาขา รวมถึงเป็นกิจกรรมที่สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้ประกอบการ "คพอ." ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ จนสามารถรวมตัวกันเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปี 2568 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการฝึกอบรม "ดีพร้อม คพอ." จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 416 จัดโดย ศภ.4 ที่จังหวัดเลย จำนวน 30 ราย, รุ่นที่ 417 จัดโดย ศภ. 5 ที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 30 ราย, รุ่นที่ 418 จัดโดย ศภ. 6 ที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 25 ราย และรุ่นที่ 419 จัดโดย ศภ. 7 ที่จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 25 ราย รวมผู้ประกอบการทั้งหมด 110 ราย โดยมีกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการภาพรวม ผู้ประกอบการทั้งหมดที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรนี้ ได้รับความรู้เข้มข้นกว่า 90 ชั่วโมง ครอบคลุม 5 Module สำคัญ ได้แก่ Module 1 การเสริมสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์, Module 2 การบริหารจัดการในมิติต่างๆ, Module 3 การเสริมสร้างพลังความเป็นผู้นำ, Module 4 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และ Module 5 การจัดทำแผนกลยุทธ์ธุรกิจ ทั้งนี้ ความรู้ที่ได้รับจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา และสอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
14 ก.ค. 2568
“ปลัดณัฐพล” มอบหมาย “อธิบดีณัฏฐิญา” นำทัพดีพร้อมโชว์ศักยภาพขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ในงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” หนุนดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นชุมชนอวดโฉมเวทีโลกสอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ปลัดณัฐพล” มอบหมาย “อธิบดีณัฏฐิญา” นำทัพดีพร้อมโชว์ศักยภาพขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ในงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” หนุนดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นชุมชนอวดโฉมเวทีโลกสอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 8 กรกฎาคม 2568 - นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เยี่ยมชมบูธ IPROM Community Zone ภายในงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ณ ฮอลล์ 1 - 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” มหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมสร้างสรรค์ โอกาสเปล่งประกาย” เพื่อต่อยอดเชิงยุทธศาสตร์พาซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่อนาคตผ่านเวทีโชว์ศักยภาพทั้งในมิติของนโยบาย แรงบันดาลใจ และโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ ดีพร้อม ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานและการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในสาขาอาหาร ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฎฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อ DIPROM Community Zone ในพื้นที่กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่มีแนวคิด Bridging Opportunity to the World โดยมี “อาหาร” เป็นตัวกลางเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยการพัฒนาศักยภาพกำลังคนในอุตสาหกรรมอาหารให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ผ่านกระบวนการบูรณาการความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอัตลักษณ์ไทยเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับอาหารไทยก้าวขึ้นสู่เวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับ DIPROM Community Zone ประกอบด้วย 6 โซน ได้แก่ 1) ศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน เป็นการจัดแสดงเทคโนโลยีและเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารชุมชน 2) การสาธิตทำอาหารชุมชน โดยการปรุงอาหารจากวัตถุดิบท้องติ่น ถ่ายทอดสูตรอาหาร และเทคนิคจากเซฟและผู้ประกอบการตัวจริง 3) จัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและเครื่องดื่มพื้นบ้าน เป็นการคัดสรรสินค้าดาวเด่นจากชุมชน อาทิ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มสมุนไพร จิน และสุราพื้นบ้านที่ผ่านการพัฒนาอย่างมีเอกลักษณ์พื้นถิ่น 4) การจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากท้องถิ่นโดยตรง ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของฝาก และผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากชุมชน 5) การให้คำปรึกษาด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการขอรับรอง GMP อย. และมาตรฐานอื่น ๆ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ตลาดที่กว้างขึ้น และ 6) การเจรจาธุรกิจ โดยเปิดพื้นที่สร้างโอกาสจับคู่ทางการค้า พบปะนักลงทุน ตัวแทนจำหน่าย และคู่ค้าทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
14 ก.ค. 2568
เชิญร่วมตอบแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการตามคู่มือสำหรับประชาชน
เชิญร่วมตอบแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการตามคู่มือสำหรับประชาชน
เชิญร่วมตอบแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการตามคู่มือสำหรับประชาชน สำนักงาน ก.พ.ร. ขอเชิญร่วมตอบแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยงานของรัฐปี พ.ศ. 2568 เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาบริการภาครัฐและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยสามารถแสดงความเห็นได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 ได้ที่ลิงก์ dg.th/gj0ua65thn หรือสแกน QR code ที่ปรากฏด้านล่าง " ทุกความเห็นมีความหมายเพื่อการบริการภาครัฐที่ดีกว่า " #อำนวยความสะดวก #betterservice
09 ก.ค. 2568