โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ นำทีมผู้บริหาร ก.อุตฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ นำทีมผู้บริหาร ก.อุตฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 47 ราย เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 โดยกล่าวคำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ และร่วมกันร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” และ “สดุดีจอมราชา” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้องโถง กระทรวงอุตสาหกรรม โดยข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมได้สะท้อนถึงความภาคภูมิใจ ในการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติอย่างยั่งยืน
23 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตฯ ให้ “ดีพร้อม” จัดแถลงข่าวร่วม 2 กระทรวง ทั้งคมนาคมและภาคเอกชน เตรียมบิ๊กอีเวนท์ "อุตสาหกรรมแฟร์ 2568" พร้อมเปิดพื้นที่ใจกลางการขนส่ง “กรุงเทพอภิวัฒน์” จำหน่ายสินค้าคุณภาพราคาประหยัด หวังบูมเศรษฐกิจกลางปีได้กว่า 300 ล้านบาท
กระทรวงอุตฯ ให้ “ดีพร้อม” จัดแถลงข่าวร่วม 2 กระทรวง ทั้งคมนาคมและภาคเอกชน เตรียมบิ๊กอีเวนท์ "อุตสาหกรรมแฟร์ 2568" พร้อมเปิดพื้นที่ใจกลางการขนส่ง “กรุงเทพอภิวัฒน์” จำหน่ายสินค้าคุณภาพราคาประหยัด หวังบูมเศรษฐกิจกลางปีได้กว่า 300 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 21 กรกฎาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) นายสุวัชร์ ศุภภาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และว่าที่ ร.ต.วัชรพงษ์ ชื่อตรง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความความร่วมมือภาครัฐและเอกชน บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “อุตสาหกรรมแฟร์ 2568 : รถไฟอุตสาหกรรม นำความสุขสู่คนไทย” ร่วมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้แทนหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรจากภาครัฐ-เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกกำลังกับ กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และภาคเอกชน แถลงข่าวเตรียมจัดงานใหญ่กลางปี "อุตสาหกรรมแฟร์ 2568” ภายใต้แนวคิด “รถไฟอุตสาหกรรม นำความสุขสู่คนไทย" ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2568 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บางซื่อ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของภาครัฐ-เอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป็นการเปิดพื้นที่ใจกลางการขนส่งกรุงเทพฯ ในการทดสอบตลาดและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME ไทย และวิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ ยังสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคต่อสินค้าอุตสาหกรรมไทยที่มีคุณภาพและราคาเป็นธรรม อันจะเป็นการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงกลางปีได้กว่า 300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงศักยภาพของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ในฐานะศูนย์กลางคมนาคมที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดของประเทศ ไม่เพียงแต่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้สัมผัสถึงความพร้อมและมาตรฐานระดับโลกของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ตลอดจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันอีกด้วย โดยภายในงานอุตสาหกรรมแฟร์ 2568 ครั้งนี้ จะพบกับการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าบนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย (1)โซนมหกรรมสินค้าอุปโภค - บริโภคราคาประหยัดจากเครือสหพัฒน์ พบกับสินค้าคุณภาพราคาประหยัดที่จะยกขบวนมาลดสูงสุดกว่า 70 % (2) โซนรถที่ใช่ดีลที่ชอบ จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ รถจักรยายนยนต์คุณภาพดีและข้อเสนอพิเศษสุดจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ (3) โซนมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า พบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพมีมาตรฐาน มอก. (4) โซนมหกรรมจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการ SME ไทย และวิสาหกกิจชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 155 บูธ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในฐานะ MIND Ambassador ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดย โตโยต้า ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมของกระทรวงอุตสาหกรรมในปีที่ผ่านมาร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม อีกทั้ง ยังมีกิจกรรมบนเวทีกลางที่น่าสนใจ อาทิ การเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในหัวข้อต่าง ๆ การเวิร์คช็อปและฝึกอาชีพ การเล่นเกมชิงรางวัล และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ไอซ์ ศรัณยู /อะตอม ชนกันต์ /ป๊อป ปองกูล /อ๊อฟ ปองศักดิ์ ขณะเดียวกัน การจัดงานในครั้งนี้ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) การยกระดับระบบคมนาคมขนส่งทางรางและการสร้างฐานการผลิตรถไฟมาตรฐานสากลภายในประเทศ ระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กับ กระทรวงคมนาคม โดย สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคมมีการทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องในการขับเคลื่อนและยกระดับอุตสาหกรรมราง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบขนส่งโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมอำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกคน
23 ก.ค. 2568
“ปลัดณัฐพล“ ร่วมรับฟัง “ดีพร้อม” เปิดห้อง ล้อมวงระดมความคิดเห็น สร้าง skill การเป็นผู้นำที่ีดี ส่งเสริมคอมมูนิตี้ที่ดีพร้อม ตามนโยบาย อธิบดีณัฏฐิญา
“ปลัดณัฐพล“ ร่วมรับฟัง “ดีพร้อม” เปิดห้อง ล้อมวงระดมความคิดเห็น สร้าง skill การเป็นผู้นำที่ีดี ส่งเสริมคอมมูนิตี้ที่ดีพร้อม ตามนโยบาย อธิบดีณัฏฐิญา
จ.ชลบุรี 19 กรกฎาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมการฝึกอบรมหลักสูตร “พัฒนาสมรรถนะผู้นำให้ก้าวทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลง (Management and Leadership)“ โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นผู้กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมทั้งผู้บริหารของดีพร้อม (DIPROM) ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมฝึกอบรม ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ ศรีราชา อำเภอศรีราชา หลักสูตร “พัฒนาสมรรถนะผู้นำให้ก้าวทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลง (Management and Leadership)“ เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาบุคลากรของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านกรอบความคิด การยกระดับความสามารถและทักษะในเชิงการบริหารจัดการที่มุ่งผลลัพธ์ขององค์กร และการพัฒนาภาวะผู้นำเพื่อให้สามารถบริหารจัดการทีมงานได้อย่างสร้างสรรค์ และก่อให้เกิดความผูกพันและสามัคคีภายใต้บริบทของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการฝึกอบรม คือ ข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงและระดับต้น ประเภทอำนวยการระดับสูง และประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญของดีพร้อมจำนวน 28 คน การอบรมในหลักสูตรดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18 - 20 กรกฎาคม 2568 ภายใต้หัวข้อการอบรม ได้แก่ (1) บริหารอย่างไร … ไม่ให้ผิดวินัย โดย นายสมชัย เอมบำรุง ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวง และ (2) Effective Leadership for Future Ready Governance and Industrial Transformation โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อัชกรณ์ วงศ์ปรีดี และรองศาสตราจารย์ ดร.ดนุวัศ สาคริก จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยผู้เข้าร่วมอบรมมีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาทักษะและแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับทักษะการเป็นผู้นำที่ดี และมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้ในการบริหารคน และบริหารงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถองค์กรให้พร้อมรับมือกับการปฏิบัติงานตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงภารกิจที่จะต้องดำเนินการต่อไปในอนาคต อาทิ การส่งเสริมการสร้างนิคม SME เพื่อทำให้เกิดความเข็มแข็งของ Supply Chain ของภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมให้เกิดการบริโภคสินค้าของคนไทย (Made by Thai) เพื่อให้เกิดการสร้างและกระจายรายได้ในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น ตลอดจนรองรับการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถเติบโตและเข้มแข็ง สอดรับตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม การพัฒนาผู้บริหารระดับสูง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จขององค์กรและประเทศชาติ เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้ขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย ผ่านการกำหนดทิศทาง วางแผนกลยุทธ์ และสร้างความเปลี่ยนแปลงในองค์กร ดังนั้น การพัฒนาผู้บริหารระดับสูงจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการสร้างผู้นำที่มีคุณภาพ มีวิสัยทัศน์ และสามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
22 ก.ค. 2568
“รองอธิบดีดุสิต” กำชับติดตามการพัฒนา Ecosystem เพื่อยกระดับ E-Service ไปสู่ DIPROM Next ตามนโยบายอธิบดีณัฏฐิญา
“รองอธิบดีดุสิต” กำชับติดตามการพัฒนา Ecosystem เพื่อยกระดับ E-Service ไปสู่ DIPROM Next ตามนโยบายอธิบดีณัฏฐิญา
กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นในการปรับปรุงและพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Ecosystem) ปี 2568 โดยมี นางสาวสินีนาฏ เล้าชินทอง รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอกรอบการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1. Design Thinking & Impact Canvas 2. การจัดเก็บปัญหาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งาน 3. การออกแบบกรอบแนวความคิดของระบบ (Conceptual Design) 4. การวิเคราะห์และการออกแบบ (Detailed Design) พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็น สำหรับการออกแบบกรอบแนวความคิดของระบบและการออกแบบระบบ โดย “รองอธิบดีดุสิต” ได้เน้นย้ำการออกแบบระบบให้คำนึงถึงความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องมีความทันสมัยและน่าสนใจ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน เพื่อยกระดับการให้บริการและเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงยกระดับ E-Service ไปสู่ DIPROM Next ต่อไป
22 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม” ร่วมผนึกกำลัง พันธมิตร 10 หน่วยงาน จับมือพัฒนา “ฐานข้อมูลและตัวชี้วัด” หนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นำอุตสาหกรรมไทยสู่ Net Zero พร้อมแข่งขันในเวทีโลก สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” ร่วมผนึกกำลัง พันธมิตร 10 หน่วยงาน จับมือพัฒนา “ฐานข้อมูลและตัวชี้วัด” หนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นำอุตสาหกรรมไทยสู่ Net Zero พร้อมแข่งขันในเวทีโลก สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือการพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ” ร่วมกับผู้บริหารจาก 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (มสท.) โดยมี นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นพยานในการร่วมลงนาม ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี บันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อเป็นการร่วมมือกันในการดำเนินงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำฐานข้อมูล และตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำที่สำคัญต่อประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนกระบวนการทำงานและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมก้าวไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้อย่างแท้จริง “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้กล่าวถึงบทบาทของ ดีพร้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของประเทศ ให้มีการประกอบการที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs จึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งเสริมให้ SMEs นำแนวคิด BCG มาปรับใช้ในธุรกิจ ผ่านการพัฒนาให้ผู้ประกอบการในภาคเกษตรเข้าสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรม มีการนำนวัตกรรมมาปรับใช้ในการะบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนสู่ขั้นตอนการพัฒนา Bio Economy ให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยดำเนินการผ่านแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” พร้อมทั้ง ส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว ภายใต้นโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในการรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมโดยรอบ ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการลดก๊าซเรือนกระจก ก้าวสู่มาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากลต่อไป
21 ก.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” ยกทัพดีพร้อม นำเสนอผลงานการตรวจประเมิน ชิงรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” ยกทัพดีพร้อม นำเสนอผลงานการตรวจประเมิน ชิงรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
กรุงเทพฯ 16 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมการตรวจประเมินรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ PMQA รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร ตัวแทนผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมการประชุมตรวจประเมินฯ โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เมธินี เทพมณี ประธานคณะกรรมการตรวจประเมิน ศ.ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล และนายประสงค์ พูนสินชูสกุล คณะกรรมการตรวจประเมิน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พระรามที่ 6 (DIPROM Headquarter) การประชุมในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลเพื่อประกอบการตรวจประเมินรางวัลเลิศรัฐ สาขาคุณภาพการบริหารการจัดการภาครัฐ PMQA รายหมวด หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ซึ่งประกอบด้วย 6 หัวข้อ ได้แก่ (1) การนำเสนอภาพรวมขององค์กร ได้แก่ โครงสร้างและอัตรากำลังของดีพร้อม รวมถึงแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ (2) การบริหารเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการถ่ายทอดแผนปฏิบัติราชการ การทบทวนและจัดทำแผนปฏิบัติราชการ การสื่อสารยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่มีแต่ให้” ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (3) ผลการปฏิบัติงานที่โดดเด่นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 ที่ผ่านมา ดีพร้อมมีผลงานการพัฒนาผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 31,645 รายการ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเฉลี่ยปีละ 8,200 ล้านบาท ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณมากกว่า 10 เท่า ผ่านกลไกสำคัญต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม การสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก การเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ การสร้างอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน การลดต้นทุนโลจิสติกส์แบบครบวงจร และการยกระดับอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่งมีการติดตามและประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานผ่านระบบ DIPROM E-Services เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการทบทวนและจัดทำแผนปฏิบัติราชการเชิงรุก พร้อมทั้งมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศเพื่อให้เกิดผลสมฤทธิ์และความยั่งยืน (4) ผลลัพธ์การดำเนินงานที่เป็นเลิศ ผ่านการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรม Soft Power ในสาขาอาหารและแฟชั่น โดยดีพร้อมได้ดำเนินการพัฒนาทักษะให้ชุมชน ผ่านโครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเซฟอาหารไทย ซึ่งกำหนดเป้าหมายดำเนินการ 17,000 คน เมื่อผู้ที่อบรมจบหลักสูตรจะได้รับใบรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม รวมทั้ง การยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการด้านแฟชั่นถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมพัฒนาแบรนด์สินค้าขยายโอกาสทางการตลาด ผ่านโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นไทยสู่สากล (5) ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ “ดีพร้อม” คือ การให้ความสำคัญกับการจัดทำยุทธศาสตร์ที่รองรับบริบทของการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดทำแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดในการติดตามประเมินผลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ พร้อมถ่ายทอดตัวชี้วัดดังกล่าวไปสู่ผู้ปฏิบัติงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรให้ดีพร้อม สามารถปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และ (6) การส่งเสริมอุตสาหกรรมในอนาคต ดีพร้อมมีการปรับยกระดับพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ยกระดับขีดความสามารถธุรกิจทุกระดับ พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยต่างๆ ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจประเมินฯ รับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาดังกล่าว พร้อมทั้งมีข้อซักถามเกี่ยวกับการนำข้อมูล Big Data มาใช้ประกอบการพิจารณาและวางแผนการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน พร้อมทั้งเยี่ยชมบูธนิทรรศการของผู้ประกอบการที่เป็นผลสำเร็จของการพัฒนาจากดีพร้อม ที่ได้นำมาจัดแสดงไว้ภายในห้องประชุมด้วย
21 ก.ค. 2568
“ดีพร้อม" จัดประกวด Fashion Hero Brand: Jewelry Edition 2025 ดัน ผปก. อุตฯ อัญมณีและเครื่องประดับไทย พุ่งทะยานสู่ตลาดโลก คาดสร้างมูลค่าทาง ศก. ทะลุ 50 ลบ. ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม" จัดประกวด Fashion Hero Brand: Jewelry Edition 2025 ดัน ผปก. อุตฯ อัญมณีและเครื่องประดับไทย พุ่งทะยานสู่ตลาดโลก คาดสร้างมูลค่าทาง ศก. ทะลุ 50 ลบ. ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัล ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” หรือ “Hero Brand Jewelry” พร้อมด้วย ดร.นันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นายวิวัฒน์ หิรัญพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและการตลาด เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ณ Main Stage Hall 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ และสร้างงานจำนวนมาก แต่เครื่องประดับแบรนด์ไทยยังเผชิญความท้าทาย เนื่องจากขาดภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักในตลาดและแข่งขันได้ยาก เมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง Soft Power พร้อมทั้งชูนโยบายเด่น “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” (DIPROM Community) ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ด้วย 6 กลไกที่สำคัญคือ 1) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytic) 2) การนำเทคโนโลยี ดิจิทัล นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ (Technology /Digital /Innovation /Creative) มาปรับใช้ 3) การสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน (Funding) 4) การเชื่อมสิทธิประโยชน์ (Privilege) 5) การเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร (Networking) และ 6) การผลักดันธุรกิจสู่สากล (Connect to the world) เพื่อให้วิสาหกิจไทยในระบบการพัฒนา สามารถ “สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเครือข่าย” เพิ่มศักยภาพวิสาหกิจไทยให้เติบโต และแข่งขันได้อย่างมั่นคง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดีพร้อมจึงได้จัดกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ครอบคลุมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในด้านการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ผ่านการสร้าง Content & Story Telling โดยการนำอินฟลูเอนเซอร์และกูรูด้านแฟชั่นจากต่างประเทศ มาช่วยโปรโมตให้กับแบรนด์เครื่องประดับไทยเพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมผลักดันให้เกิด Hero Brand ในสาขาอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย โดยการประกวดครั้งนี้ มีรางวัลทั้งสิ้น 5 รางวัล และผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1–3 จะได้รับโอกาสร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการผลักดัน Soft Power ด้านอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่ระดับสากล โดยคาดว่ากิจกรรม Hero Brand Jewelry จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท ผ่านการเพิ่มมูลค่าสินค้า การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างแบรนด์ไทยกับกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
21 ก.ค. 2568
“รมว.เอกนัฏ” ร่วมแสดงความยินดีกับ “ดีพร้อม” ปิดจ๊อบ คพอ. ภาคใต้ ปี 68 เสริมแกร่ง สร้างเครือข่าย เปิดโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทย
“รมว.เอกนัฏ” ร่วมแสดงความยินดีกับ “ดีพร้อม” ปิดจ๊อบ คพอ. ภาคใต้ ปี 68 เสริมแกร่ง สร้างเครือข่าย เปิดโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทย
จ.สุราษฎร์ธานี 18 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมพิธีปิดและมอบวุฒิบัตร กิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดีพร้อม หรือ ดีพร้อม คพอ. พื้นที่ภาคใต้ รุ่นที่ 422 จังหวัดสุราษฎร์ธานี รุ่นที่ 423 จังหวัดกระบี่ รุ่นที่ 424 จังหวัดยะลา และรุ่นที่ 426 จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 นางสาววรรณี พุฒแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ เข้าร่วม ณ ห้องบรรจงแกรนด์บอลรูม 1 โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดีพร้อม คพอ. เป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศผ่านการฝึกอบรมภายใต้โครงการนี้แล้วจำนวน 13,580 ราย โดยได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจจากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายสาขา เป็นกิจกรรมที่สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้ประกอบการ "คพอ." ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ จนสามารถรวมตัวกันเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน โดยปี 2568 ในพื้นที่ภาคใต้มีการฝึกอบรม "ดีพร้อม คพอ." จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 422 จังหวัดสุราษฎร์ธานี รุ่นที่ 423 จังหวัดกระบี่ รุ่นที่ 424 จังหวัดยะลา และรุ่นที่ 426 จังหวัดภูเก็ต รวมผู้ประกอบการทั้งหมด 136 ราย ผู้ประกอบการทั้งหมดที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว จะได้รับความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจในมิติต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และสามารถนำความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และบริหารจัดการธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ เพื่อให้พร้อมที่จะเผชิญกับสภาวะความผันผวนเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ รวมทั้งมีการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการทุกภูมิภาคของประเทศ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ การใช้เครื่องมือที่ทันสมัย การเข้าถึงตลาด เครือข่ายในระดับประเทศและสากล พร้อมทั้งให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน ในการนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ มุ่งเน้นการผลักดันนโยบายการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยผสานเทคโนโลยี ความยั่งยืน และคุณค่าของมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน ปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
21 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตฯ” นำทีม “ดีพร้อม” และคณะทำงานฯ เดินสายตรวจประเมินเข้มข้น เฟ้นหาสถานประกอบการ ส่งเข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม” ปี 2568
กระทรวงอุตฯ” นำทีม “ดีพร้อม” และคณะทำงานฯ เดินสายตรวจประเมินเข้มข้น เฟ้นหาสถานประกอบการ ส่งเข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม” ปี 2568
กรุงเทพฯ 14-15 กรกฎาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานฯ พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมการตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการ 3 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ผ่านการนำเสนอผลงานการคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ในรอบแรก การตรวจประเมินสถานประกอบการในครั้งนี้ คณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ได้พิจารณาการนำเสนอข้อมูลของบริษัท การกำหนดกลยุทธ์ นโยบาย ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ความสามารถในการเพิ่มผลผลิต ความสามารถทางนวัตกรรม ระบบบริหารงานในมิติต่าง ๆ ความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจให้มีความยืดหยุ่น มีการพัฒนาธุรกิจโดยนำหลักคุณธรรม จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาล รวมทั้งหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาบูรณาการในกระบวนการทางธุรกิจ การสร้างรากฐานระบบเศรษฐกิจให้กับพื้นที่รอบสถานประกอบการ การช่วยเหลือ สนับสนุน องค์ความรู้ให้กับองค์กรอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม โดยสถานประกอบการที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 จะได้เข้ารับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรีต่อไป รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2568 เป็นรางวัลที่มอบให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่มีความเป็นเลิศทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึง การพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม เป็นการเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศ โดยการพิจารณารางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2568 มุ่งเน้นการให้รางวัลกับสถานประกอบการที่มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนการประกอบการภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน”
21 ก.ค. 2568
กระทรวงอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 น้อมถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10
กระทรวงอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 น้อมถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10
16 กรกฎาคม 2568 - นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานกิจกรรมจิตอาสา “อุตสาหกรรมรวมใจ ทำความดีด้วยหัวใจ น้อมถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 “ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองรอบวัดบวรนิเวศวิหาร” ระยะที่ 2 พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนานดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนหน่วยงานในสังกัด เข้าร่วมกว่า 250 คน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กิจกรรมจิตอาสาครั้งนี้ ประกอบด้วย การถวายสังฆทาน จากนั้นเป็นพิธีเปิดกิจกรรมฯ โดยจิตอาสาที่ร่วมในพิธีฯ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และกล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” จากนั้น ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะจิตอาสากระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกันดำเนินการมอบถังดักไขมันให้แก่วัดบวรนิเวศวิหาร และร่วมกันทำความสะอาดโดยรอบบริเวณวัดบวรฯ ผลวิเคราะห์การเก็บตัวอย่างน้ำภายในคลองของวัดบวรฯ พบว่าน้ำในคลองมีตะกอนเลนสะสม ทำให้น้ำมีสีขุ่น เนื่องจากน้ำที่มีตะกอนไหลออกจากโรงงานกรองน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาภายในคลอง ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และมีการให้อาหารสัตว์น้ำ ทำให้เกิดการหมักหมมของเศษอาหาร อีกทั้ง คลองในวัดบวรฯ เป็นระบบปิด ตะกอนเลนไม่สามารถไหลสู่ภายนอกได้ เกิดการสะสมของตะกอนเลน จิตกระทรวงอุตสาหกรรมจึงดำเนินการดูดตะกอนเลนและปรับปรุงคุณภาพน้ำภายในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจาก วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี รวมทั้งบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงผนวช และเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ขณะทรงผนวชในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7 และ รัชกาลที่ 9 อีกทั้งยังเป็นที่ประทับขณะจำพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ก่อนลาผนวชขึ้นครองราชย์ ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาติไทย
18 ก.ค. 2568