หมวดหมู่
ไอ เอ เทค
จากเศษไม้เหลือใช้ในโรงงาน สู่นวัตกรรมชั้นวางของ ถอดประกอบไร้นอตไอเทมสุดปังที่สายตกแต่งต้องมีติดบ้าน หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และรถเข็นต่างๆ มักถูกผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้ ออกแบบมาอย่างไรลูกค้าก็เลือกตามสเปกและความต้องการใช้งานได้ตามนั้น คุณบรรจง อรชุนกะ แห่งบริษัท ไอ เอ เทค จำกัด จึงเห็นช่องว่างของโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์การใช้งาน ผลิตภัณฑ์ต่อกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นด้วยการเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ในลักษณะ Interior Design จนกลายเป็น One Stop Service สำหรับลูกค้าไปด้วยในตัว “เราต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โต๊ะทำงาน ชันวางของ รถเข็น หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ลูกค้าจะนำไปใช้งานอะไรเพื่อที่บริษัทของเราจะได้เลือกใช้วัตถุดิบ ออกแบบขนาดคำนวณการรองรับน้ำหนักเพื่อออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน” แม้ธุรกิจจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกับคู่แข่งอย่างเด่นชัดแต่เมื่อเวลาผ่านไปการแข่งขันทางธุรกิจกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนธุรกิจถูกบีบเข้าสู่ Red Ocean ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่่ผ่านมาประเทศเผชิญหน้ากับภาวะโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเข้าพบลูกค้าได้ ซึ่งการเข้าร่วมโครงการศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs (SMEs Support & Rescue Center : SSRC) ปีงบประมาณ 2564 ภายใต้กิจกรรมการวินิจฉัย/ปรึกษาแนะนำเบื้องต้น ณ สถานประกอบการ (3 MD) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เข้ามาช่วยเหลือจนบริษัทพบทางออกของวิกฤตได้ในที่สุด โดยอาจารย์ที่ปรึกษาได้เข้ามาให้คำแนะนำด้วยการนำไม้ MDF ที่เป็นวัสดุเหลือใช้ไปต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายๆ ชิ้นจนบริษัทได้ผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 10 SKU แต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพระเอกและได้รับผลตอบรับดีที่สุด คือ นวัตกรรมชั้นวางของถอดประกอบไร้นอต เพราะประกอบง่าย น้ำหนักเบา ไม่ต้องใช้นอต ไม่ต้องใช้สกรู แถมยังมีความแข็งแรงและเคลื่อนย้ายสะดวกอีกด้วย ในส่วนของสินค้าใหม่สามารถสร้างยอดขายในช่วงปี 2564 ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทสามารถขยายเข้าไปในกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นในสถานการณ์โควิด ในอนาคต คุณบรรจง ได้วางแผนไว้ว่าจะนำความรู้ด้านการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ที่อาจารย์ที่ปรึกษาเคยสอนไว้ในตอนเปิดตลาดสินค้านวัตกรรมชั้นวางของถอดประกอบไร้นอต ไปประยุกต์ใช้กับสินค้าในอุตสาหกรรมเดิมอย่างโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ รถเข็นระบบลำเลียง เพื่อเดินหน้าเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างเป็นระบบ ซึ่งในยุคโควิดน่าจะตอบโจทย์และมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีและเชื่อว่าหากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมีโครงการดีๆ มาช่วยต่อยอดก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพของธุรกิจให้เข้มแข็งและพร้อมแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น คุณบรรจง อรชุนกะ บริิษััท ไอ เอ เทค จำกััด 75/83 หมู่่ที่ 11 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหนึ่ง จัังหวััดปทุมธานีี 12120 โทรศัพท์ 09 9635 2253 http://www.i-at.co.th/main/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
21 มี.ค. 2565
ป้าแกลบ ฟรุ๊ต โปรดักส์
ยกระดับผลไม้เมืองจันท์ ทำ เงินล้านในวิกฤตด้วยออนไลน์ จันทบุรีคือเมืองผลไม้ขึ้นชื่อที่อุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งชื่อเสียงดังไกลทั้งในและต่างประเทศ ว่าในช่วงวิกฤตผลไม้ล้นตลาด ราคาทุเรียนตกต่ำ จุดประกายให้คุณวรรณี บุญสวัสดิ์ หรือป้าแกลบ” ชาวบ้านอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เกิดแนวคิดนำทุเรียนมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจนเป็นที่มาของแบรนด์ป้าแกลบ ภายใต้ บริษัท ป้าแกลบ ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด นำส่งผลไม้แปรรูป เช่น ทุเรียนทอด ทอฟฟี่ทุเรียน ทุเรียนกวน ฯลฯ จำหน่ายอยู่ในร้านของฝากทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ สร้างรายได้หลักล้านบาทต่อเดือน หลังก่อตั้งธุรกิจในปี 2549 แบรนด์ป้าแกลบค่อยๆเติบโต จนกลายเป็นที่รู้จักของตลาดคนรักทุเรียน จากการค้นคว้า พัฒนา และปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในด้านคุณภาพ รสชาติ ความปลอดภัย ราคา กำลังการผลิต ตลอดจนการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ จนกระทั่งธุรกิจต้องประสบกับสถานการณ์โควิด -19 ทำให้ร้านของฝากซึ่งเป็นตลาดหลักต้องปิดตัวลงชั่วคราว คุณสุรดา บุญสวัสดิ์ ทายาทรุ่นสอง จึงพลิกวิกฤตให้เป็น โอกาสด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาการรวมกลุ่ม SMEs และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูปภาคตะวันออก ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางออกกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมและนำองค์ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์มาปลดล็อกธุรกิจจากวิกฤต “หลังร้านของฝากต่างๆ ต้องปิดตัวลงเพราะ สถานการณ์โควิด เราก็มาคิดกันว่าทำยังไงให้ธุรกิจไปต่อได้เพื่อทีมงาน 10 ชีวิต ที่อยู่กับเราจะได้ไม่ต้องถูกเลิกจ้าง ไม่อยากให้เขาต้องเดือดร้อน ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่ได้โฟกัสเรื่องตลาดออนไลน์เลย จนได้มาอบรมกับทางโครงการฯ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมทำให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น จึงเริ่มนำสินค้าไปจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Shopee และทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก เราสามารถทำยอดขายในช่องทางออนไลน์ได้สูงถึง 1-2 ล้านบาทต่อเดือน จึงผ่านวิกฤตมาได้” ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและเห็นโอกาสจากตลาดออนไลน์มากขึ้น จึงได้วางกลยุทธ์ธุรกิจใหม่โดยจากเคยพึ่งพาหน้าร้านเป็นหลักก็จะขยายมาทางออนไลน์มากขึ้น เดิมเคยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ตัวเองประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็น OEM และขายส่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำไปบรรจุและติดแบรนด์เอง ในอนาคตก็จะขยายมาทำตลาดขายส่งมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจและยังส่งออกไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้นด้วยเพื่อให้แบรนด์ผลไม้เมืองจันท์ที่ชื่อ “ป้าแกลบ” ยังอยู่ในใจคนรัก ทุเรียนและเติบโตแข็งแกร่งในทุกวิกฤต คุณสุรดา บุญสวััสดิ์์ บริิษััท ป้าแกลบ ฟรุ๊ต โปรดัักส์์ จำกััด 4/3 หมู่ที่ 8 ตำบลเขาบายศรีี อำเภอท่่าใหม่่ จัังหวััดจัันทบุรีี 22120 โทรศัพท์ 08 6366 3097 https://www.paklaeb.com/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
21 มี.ค. 2565
น้ำพริกจัดเต็ม
จัดจ้าน ถึงเครื่อง ถึงรส โอกาสที่มาจากการแสวงหา ก่อนที่จะมาเป็น “น้ำพริกจัดเต็ม” คุณพัชนรี โตสินธุ์ เริ่มจากการทำร้านบะหมี่จัดเต็มมาก่อนแต่ระยะหลังยอดขายไม่สู้ดี ทั้งที่พยายามปรับตัวสู้ทุกทิศทางกระทั่งมาเห็นโอกาสจากสิ่งที่ต้องทำอยู่ทุกวัน นั่นคือการเจียวกากหมูเพื่อทำน้ำมันกระเทียมเจียวเลยนึกอยากลองทำน้ำพริกกากหมูกิน หลังจากอ่านเจอกระทู้ตามน้ำพริก กากหมูในพันทิป ด้วยความที่เป็นคนมือหนักทำอาหารแบบเน้นเครื่องมาแต่ไหนแต่ไร ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจจากที่ทำขายเฉพาะกลุ่มคนใกล้ชิด พัชนรีก็เริ่มเดินหน้าทำน้ำพริกกากหมูขายทั่วทิศแบบจริงจังด้วย เชื่อว่าเกือบทุกบ้านจะต้องมีน้ำพริกเป็นอาหารติดตู้เย็นไว้อย่างน้อย 1 กระปุก จึงคิดว่าน้ำพริกกากหมูน่าจะมีโอกาสเติบโต โดยสร้างความแตกต่างเน้นไปที่ความเป็นโฮมเมดแบบถึงเครื่องและถึงรส ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เด่นของน้ำพริกจัดเต็ม คือ น้ำพริกกากหมูที่มีจุดเด่นคือใส่กากหมูชิ้นใหญ่ กรอบ ไม่มีกลิ่นหืน ไม่อมน้ำมัน รสชาติจัดจ้านถึงใจและน้ำพริกปลากรอบ ที่ใช้ปลาซิวแก้วทอดกรอบตัวเล็ก นำมาตำ แค่เบาๆเพื่อตัวปลาคงรูปและไม่ป่นเป็นผงละเอียด ทั้งสองผลิตภัณฑ์ปรุงโดยแม่ครัวมือหนักที่มีประสบการณ์ในการทำอาหารแบบหนักเครื่อง ไม่หวงของ เน้นความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เหมือนทำให้คนในครอบครัวรับประทาน น้ำพริกจัดเต็มวางจำหน่ายตามร้านขายข้าวแกงและร้านขายสินค้าสุขภาพ 67 ร้าน รวมทั้งช่องทาง ออนไลน์ ทั้งเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ชอบอาหารรสจัด เน้นอิ่มสะดวก เพราะมีเวลาในการทำอาหารน้อยโดยนำน้ำพริกจัดเต็มไปรับประทานคู่กับอาหารเมนูต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติในแต่ละมื้อ “เราสนใจเข้าร่วมอบรมกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม เพราะต้องการนำความรู้ไปต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สู้กับคู่แข่งในตลาดได้ในระหว่างที่อบรมก็ได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น การทำเวิร์กช็อปเพื่อนำข้อมูลไปสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์การทำธุรกิจกับเพื่อนๆในโครงการ ซึ่งเราได้นำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้กับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดช่องทาง ออนไลน์เพิ่ม คือ Shopee และ Lazada รวมทั้งการ พัฒนาบรรจุภัณฑ์” ซึ่งในช่วงของการเข้าร่วมโครงการทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ส่งทีมงานเข้ามาช่วยให้คำแนะนำด้านการตลาดออนไลน์ใน 4 หัวข้อ ได้แก่ วางกลยุทธ์สู่การขายสินค้า Online, ปั้น Content ให้ปังบนโลกออนไลน์เทคนิคการถ่ายภาพสินค้าใน Trend ปัจจุบัน และการ Present สินค้าอย่างไรให้โดนใจลูกค้า นอกจากนี้ยังช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าของแบรนด์ผ่าน Social Media ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จากการเข้าร่วมโครงการส่งผลให้ยอดขายน้ำพริกกากหมูและน้ำพริกปลากรอบจัดเต็มเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 200 เปอร์เซ็นต์และการช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ไปยัง Social Media ของกรมฯทำให้สินค้ามีการรับรู้ออกไปในวงกว้าง จนทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำพริกจัดเต็มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น เพราะความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเรื่องของความมุ่งมั่นและตั้งใจ 4 ปีที่ผ่านมา คุณพัชนรี แสวงหาความรู้อยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันคู่แข่งในตลาดและจากนี้ไปก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้เป็นจริง นั่นคือการพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐาน เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต คุณพััชนรีี โตสิินธุ์ น้ำพริิกจััดเต็็ม 49/557 หมู่่ที่ 2 ซอยแจ้้งวััฒนะ28 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็็ด จัังหวััดนนทบุรีี 11120 โทรศัพท์ 06 1249 7415 ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
ฌามาร์
จากฟาร์มแพะต่อยอดสู่ “ฌามาร์” ความงามที่เลือกได้ การเรียนรู้พัฒนาและต่อยอดจากสิ่่งที่มีอยู่ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ “ฌามาร์” (CHAMAR) เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมไปถึง ณัชชานาน ฟาร์ม ซึ่่งเป็นฟาร์มแพะในเมืองตั้งอยู่ที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ก็มีผู้คนแวะเวียนไปเยี่ยมชมและซื้อผลิตภัณฑ์กันอยู่ไม่ขาดสาย จุดเริ่มต้นของแนวคิดการพัฒนาจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์นั้น คุณพีระ และ คุณอรวรรณ แดงประดับ เจ้าของฟาร์มแพะณัชชานานและผู้ก่อตั้งแบรนด์ฌามาร์เล่าว่ามาจากประสบการณ์การเลี้ยงแพะตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เมื่อลาออกจากราชการจึงเริ่มซื้อแพะนำมาเลี้ยงสะสมไว้และทำจริงจังมากขึ้นในปี 2553 จากนั้นอีก 3 ปี ก็เริ่มนำนมแพะออกขายเป็นนมพาสเจอไรซ์ ต่อมาได้เรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องการแปรรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงเกิดแนวคิดการทำเป็นเครื่องสำอาง และผลิิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมไปถึึงจดทะเบียนจััดตั้งธุรกิิจและแบรนด์์ในปี 2558 ผลิิตภััณฑ์์เครื่่องสำอางจากนมแพะแบรนด์์ฌามาร์์ ผ่่านการรัับรองและได้้รัับเครื่่องหมาย อย. มีีจุดเด่่นตรงที่มีความเป็นธรรมชาติิสูง ซึ่งเป็นธรรมชาติิจากนมแพะที่ให้ความนุ่่มและกลิ่่นหอมของนม โดยสิินค้้ามีีหลากหลาย กว่่า 20 ชนิิด ส่่วนที่่ได้้รัับความนิิยมจากลูกค้้าคืือ โลชั่นบำรุงผิว สบู่่ และครีีมอาบน้ำ ปัจจุบันมีีวางจำหน่่ายทั้งที่หน้้าฟาร์์มการออกบู๊ธแสดงสิินค้้า วางขายตามร้้านขายของฝากในแหล่่งท่่องเที่่ยว เช่่น พััทยา รวมถึึงช่่องทางออนไลน์์ในแพลตฟอร์์มต่่างๆ คุณอรวรรณเล่่าว่่า ได้้รัับคำแนะนำ จากหน่่วยงาน ภาครัฐมาต่่อเนื่่องและเข้้าร่วมกิิจกรรมที่กรมส่่งเสริิมอุุตสาหกรรม (กสอ.) จััดขึ้น ทั้งเรื่่องการพััฒนาผลิิตภััณฑ์์ฌามาร์์ จากฟาร์มแพะต่อยอดสู่ “ฌามาร์” ความงามที่เลือกได้ ที่มีีการนำไปวิจัยต่อการวิจัยตลาด การออกแบบตราสิินค้้า รวมไปถึึงการขยายตลาดออนไลน์์ที่่ได้้เรีียนรู้้การทำโฆษณาออนไลน์์และนำคลิิปวิดีีโอโฆษณาไปลงเผยแพร่ในช่่องทางออนไลน์์ ทำให้้คนรู้จัักในวงกว้้าง ส่่วนตอนนี้เองเรื่องการเขีียนแผนธุรกิิจก็็ได้้รัับไอเดีียและทำให้้ได้้รู้จัักตััวเองมากขึ้น ซึ่งการเข้้าร่่วมโครงการกัับทางกรมส่่งเสริิมอุตสาหกรรมได้้มีีผู้้เชี่่ยวชาญเข้ามาให้้คำแนะนำการทดลองนำน้ำนมแพะเข้้าสู่กระบวนการฟรีีซดราย (Freeze Dry) แล้้วบดละเอีียดจนเป็นผง เพื่่อใช้้เป็นส่วนผสมในการผลิตแทนการใช้้สารสกััดวิิธีีการนี้ทำให้ผู้้ใช้้ผลิิตภััณฑ์์ได้้รัับประสิิทธิิภาพจากการบำรุงผิิวได้้เป็นที่น่าพอใจ อีีกทั้งผลที่่ได้้รัับจากการเข้้าร่วมโครงการ รัับคำแนะนำด้้านการเขีียนแผนธุรกิิจ ทำให้้ธุรกิิจมีีช่่องทางในการจััดจำหน่่ายผลิิตภััณฑ์์ผ่่านแพลตฟอร์์มต่่างๆ เพิ่่มขึ้นนอกเหนืือจากการจำหน่่ายเฉพาะหน้้าร้้านเพีีงอย่่างเดีียว “สิ่่งที่่ได้้เรีียนรู้้มาเป็นประโยชน์์อย่่างมาก ทำให้้เราสามารถเปลี่ยนแปลงพััฒนาตััวเองได้้เร็วขึ้น เพราะหาก ทำกันเองก็็น่่าจะใช้้เวลานานกว่่านี้ทั้งตราสิินค้้าดูดีีขึ้น แพ็็กเกจจิ้งสวยงามและเป็นที่รู้จัักมากขึ้น ส่วนในอนาคต จะยัังคงพััฒนาต่่อทั้งเรื่่องผลิิตภััณฑ์์เครื่่องสำอางด้้านการตลาดและมีีแนวคิิดอยากจะเพิ่มคุณค่าให้กับนมแพะ เช่่น ทำเป็นอาหารเสริม ซึ่งหากได้้รัับคำแนะนำเพิ่มเติิมน่่าจะต่อยอดได้้มากขึ้น” ซึ่งหลัังจากที่่ทางแบรนด์์ได้้เรีียนรู้้และพััฒนาผ่่านโครงการของกรมฯ ผลลััพธ์์ที่ได้้คืือการสร้้างมูลค่่าเพิ่ม ให้กับสิินค้้า สามารถต่อยอดธุรกิิจฟาร์์มแพะให้ครบวงจรมากขึ้น ส่่งผลต่่อยอดขายและรายได้้ของบริษัทที่่เพิ่่มขึ้นจากเดิิมแม้้จะอยู่่ในช่วงของสถานการณ์์โควิด คุณพีีระ และ คุณอรวรรณ แดงประดัับ แบรนด์์ฌามาร์ 255 หมู่ที่ 8 ตำบลปากท่่อ อำเภอปากท่่อ จัังหวััดราชบุรีี 70140 โทรศัพท์ 08 9250 5679, 09 3903 9192 http://www.chamar.biz/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
เจเอสซี โกลบอล
เจเอสซีี โกลบอล ปรับองค์กรอัจฉริยะ ลดต้นทุน สร้างธุรกิจยั่งยืน หากไม่ปรับตัวธุรกิจก็คงถูกดิสรัปต์ คือตัวเร่ง สําคัญที่ทําให้บริษัท เจเอสซี โกลบอล (ไทยแลนด์) จํากัด ซึ่งก่อตั้งและดําเนินการโดย คุณจิรพล ชูชาติ ประธาน บริษัท (CEO) และทายาทรุ่นที่ 2 คุณชาครินทร์ ชูชาติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (C00) ลุกมาปรับตัวเอง ในหลายมิติ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีและระบบ อัตโนมัติมาพัฒนากระบวนการผลิตให้อัจฉริยะ เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพลดคนลดเวลาลดต้นทุนและค่าเสียโอกาส จนสามารถคืนกลับเป็นเม็ดเงินสูงถึงหลักล้านบาทต่อปี ------------------------------- บริษัท เจเอสซี โกลบอล (ไทยแลนด์) จํากัด คือ ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายน้ำมันหล่อลื่นภาคอุตสาหกรรม ที่ใช้กับเครื่องจักร หุ่นยนต์ และยานยนต์ทุกประเภท ภายใต้แบรนด์ Neolube (นีโอลูบ) อยู่ในธุรกิจมากว่า 15 ปี ได้รับการยอมรับจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนํา มากกว่า 800 แห่งทั่วประเทศไทย ด้วยตระหนักถึงการทํางานในโลกยุคใหม่ที่ยากและท้าทายขึ้นเรื่อย ๆ และเล็งเห็นถึงความสําคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรในทุกมิติโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมการจัดการกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล (IoT & Embedded Technology) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จนนํามาสู่การติดตั้งท่อส่ง Base Oil ไปยังถังผสม พร้อมใช้ระบบ PLC มาควบคุมระบบปั้มอัตโนมัติมีการนําเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เข้ามาเชื่อมต่อการทํางานในกระบวนการผลิต ควบคุมการทํางานทุกจุดได้อย่างแม่นยําด้วยระบบอัจฉริยะ ------------------------------ จึงช่วยลดขั้นตอนการทํางาน ลดการใช้คน ลดต้นทุน และเพิ่มความแม่นยําในการผลิตได้มากยิ่งขึ้น “เราเข้าร่วมโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มาอย่างต่อเนื่อง และค่อย ๆ ปรับปรุงพัฒนาไปทีละด้าน จนมาถึงขั้นตอนการนําเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์และลดต้นทุนในกระบวนการผลิต เพื่อลดปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Error) ในขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งหลังจากร่วมกิจกรรมดังกล่าว บริษัทฯ นํามาต่อยอดพัฒนาจนได้โซลูชั่นที่ช่วยลดความผิดพลาดในการทํางาน ใช้เวลาสั้นลง ช่วยลดต้นทุนการผลิต ต้นทุนด้าน การบริหารจัดการวัตถุดิบ ตลอดจนค่าเสียโอกาสที่เกิดจากความผิดพลาด ซึ่งโดยรวมแล้วเราสามารถลดต้นทุน ลงไปได้ถึงประมาณ 1,300,000 บาทต่อปี และจากการลงทุนระบบทั้งหมดคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ที่ประมาณ 1.5 ปี" คุณชาครินทร์กล่าว ------------------------------- เป้าหมายต่อไป เพื่อรับมือกับความท้าทายในโลกยุคใหม่ เจเอสซี โกลบอล จึงเลือกกระจายความเสี่ยงด้วยการเริ่มพัฒนาสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น จากน้ำมันสําหรับลูกค้าอุตสาหกรรมก็มาทําน้ำมันสําหรับยืดอายุการใช้งานปืนและน้ำมันที่ใช้กับอุปกรณ์ตัดผม (Hair Cipper) เป็นต้น ซึ่งทั้งสองตลาดยังไม่ค่อยมีผู้เล่นในประเทศไทย เพื่อหารายได้จากช่องทางใหม่ ๆ มาเพิ่มศักยภาพให้กับองค์กร พร้อมปูทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai ใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย คุุณชาคริินทร์์ ชููชาติิ บริิษััท เจเอสซีี โกลบอล (ไทยแลนด์์) จำำกััด 37/39 หมู่่ที่่ 1 ต.มาบไผ่่ อ.บ้้านบึึง จ.ชลบุุรีี 20170 โทรศัพท์ 08 0494 9452 ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
มะพร้าวน้ำหอมอัดเม็ด “COCO เชย”
แปรรูปแบบชิกๆ เด็ก-วัยรุ่นทานได้ สายเฮลตี้ทานดี จังหวััดสมุทรสาครมีีความโดดเด่่นเรื่่องการปลูกมะพร้้าวน้ำหอม เพราะเป็็นพื้นที่ที่มีีดิน 3 น้ำ คืือ น้ำจืืด น้ำกร่อย และน้ำเค็็ม ส่่งผลให้้มะพร้้าวน้ำหอมของที่นี่มีเอกลัักษณ์์ไม่่เหมืือนใคร เนื้อมะพร้้าวเหนีียวนุ่ม น้ำมีีความหวานโดยธรรมชาติ กลิ่นหอมคล้้ายกัับใบเตย วิสาหกิิจชุมชนมะพร้้าวน้ำหอมบ้้านกลางคลองตาปลั่งก่่อตั้งเมื่่อปี 2559 เพื่่อดำเนินการส่่งต่่อมะพร้้าวน้ำหอมของเกษตรกรไปสู่่มือผู้้บริโภค แรกเริ่่มก็ข็ายมะพร้้าวน้ำหอมเป็นลูกๆ ในลัักษณะมะพร้้าวควั่่นเขีียว มะพร้้าวควั่่นตลาด มะพร้้าวควั่่นขาว มะพร้้าวเจีียหัวโต ต่อมาผู้้นำอย่่างคุณศุภกร จุสวัสดิ์ ก็ริเริ่มเพิ่่มมูลค่่าผลผลิิตด้้วย การแปรรูป เพราะเมื่่อผ่าผลนำำน้ำมะพร้้าวออกขายก็ต้องคิิดต่่อว่่าเนื้อมะพร้้าวจะเอาไปทำอะไรต่่อที่ไม่่เสีียของ แถมยัังยืดอืายุสินค้้าได้ด้วยจนมาลงตัวที่วุ้นมะพร้้าวอ่อน พุดดิ้งมะพร้้าวอ่่อน มะพร้้าวแก้้ว แบรนด์์ “COCO เชย” สดจากสวนเชยแต่่ไม่่เชย โดยมีีผลิตภััณฑ์์ล่่าสุดที่ได้้รัับการตอบรัับถล่่มทลายเป็น มะพร้้าวน้ำหอมอััดเม็ด “เราไปปรึึกษากัับศูนย์์ส่่งเสริิมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 ว่่าต้้องการยกระดัับมะพร้้าวผลสดและได้้เข้้าร่วมกิจกรรมเพิ่มศัักยภาพวิิสาหกิิจชุมชนด้้านการพััฒนา ผลิิตภััณฑ์์เกษตรแปรรูป อาจารย์ก็ให้้คำำแนะนำมาและเราก็็เลืือกทำมะพร้้าวน้ำหอมอััดเม็็ด ซึ่่งสามารถพััฒนา เป็นของฝากหรือลุยตลาดต่่างประเทศได้้ พอจบกิิจกรรมเราก็็ได้้มะพร้าวน้ำหอมอััดเม็็ดมา โดยอาจารย์์ท่่านได้้ช่่วยคิิดสโลแกนให้้ว่่า I Can't Believe It's Not Milk เพราะมัันคล้้ายนมอัดเม็ด แต่่เราไม่มีีส่่วนผสมของนมเลยเราเป็นนมพืชวีแกนอััดเม็ดจากมะพร้้าว” ความจริิงเคยมีีผู้้ประกอบการรายอื่นนำำมะพร้้าวแกงมาอััดเม็็ด แต่่มะพร้้าวน้ำหอมยัังไม่่มีีใครทำ ผู้้บริิโภคจึึงให้้ความสนใจเป็นพิิเศษด้้วยกลิ่นที่หอมชััดเจน ที่สำคััญคือปราศจากน้ำตาลความหวานได้้จากน้ำมะพร้้าวตามธรรมชาติล้้วนๆ เหมาะที่จะเป็นอาหารว่่าง ขนมขบเคี้ยว เด็็กรัับประทานได้้ วััยรุ่่นรัับประทานดีี โดยเฉพาะกลุ่่มคนที่รักสุขภาพในยุคนี้ ผลลััพธ์์จากการเข้้าร่วมโครงการในครั้้งนี้้ได้้ช่่วยเพิ่่มศัักยภาพทางการแข่่งขัันให้กับวิสิาหกิิจชุมชน มะพร้้าวน้ำหอมบ้้านกลางคลองตาปลั่่งเป็นอย่่างมาก นอกจากจะได้รับคำแนะนำำ จนสามารถสร้้างผลิิตภัณฑ์์ใหม่่ในรูปแบบมะพร้้าวน้ำหอมอััดเม็็ด ซึ่งเพิ่มรายได้ให้กับทางกลุ่มถึง 30 เปอร์์เซ็็นต์์ ซึ่งทางกลุ่มคาดว่่าถ้้าสถานการณ์์ดีีขึ้น รายได้้ส่่วนนี้้น่่าจะเพิ่่มขึ้นมากถึึง 50 เปอร์์เซ็็นต์์ นอกจากนี้การแปรรูปเป็นมะพร้้าวน้ำหอมอััดเม็ดยังช่วยในเรื่่องการยืดอืายุผลผลิิตอีีกด้้วย ปัจจุบัันมะพร้้าวน้ำหอมอััดเม็็ดขนาด 15 กรััม บรรจุ 12 เม็ดต่อซอง จำหน่่ายผ่่านเพจเฟซบุ๊ก และงานอีีเวนต์ต่างๆ ด้วยการตอบรัับที่ดีีเกินคาดลูกค้้าซื้้อแล้วกลัับมาซื้้อซ้ำ ทำ ให้้ต้้องเพิ่มกำำลัังการผลิิต ทั้งนี้้อุปสรรคสำคััญคืือวััตถุดิิบพร้อม แต่่เครื่่องจัักรไม่่พร้อม เนื่องจากทางกลุ่่มฯ ยัังไม่่มีีเครื่่องอััดเม็็ดเป็นของตนเอง จึึงต้้องอาศััยไปผลิิตที่ศูนย์์ส่่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 ในเบื้้องต้้นหากภาครััฐช่วยส่่งเสริิมด้้านเครื่องไม้้เครื่องมือ นอกเหนือจากแนะนำำเทคนิคการขายออนไลน์์ ก็็จะช่วยให้้กิจการของชุมชนไปได้้เร็วยิ่งขึ้น คุณศุภกร จุลสวััสด วิสาหกิิจชุมชน มะพร้้าวน้ำหอม บ้้านกลางคลองตาปลั่ง 1 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้้านแพ้้ว อำเภอบ้้านแพ้้ว จัังหวััดสมุทรสาคร 74120 โทรศัพท์ 09 8994 5646 ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
ลิมาเซ่
น้ำมะนาวพร้อมปรุง-พร้อมดื่ม หอมนำ เปรี้ยวเด่น เพิ่มมูลค่าพืชพื้นบ้านปัตตานี ลิมาเซ่่ เป็็นผลิิตภัณฑ์์ที่เกิดจากการแปรรูปมะนาวหนััง พืืชเศรษฐกิิจพื้นบ้้านของจัังหวััดปัตตานีีฝีมือของ คุณเกศสิริ ยาโม แห่่งวิิสาหกิิจชุมชนกลุ่่มมะนาวสร้้างตนเองหลัังประสบปัญหาไข้้หวััดนกทำให้้ขายไก่่ไม่่ได้้ จึึงคิดเปลี่ยนอาชีีพใหม่่มาจำหน่่ายมะนาวสดและคั้นน้ำมะนาวขายในตลาด ปรากฏว่่าน้ำมะนาวพร้อมปรุงเป็นที่นิยมด้วยความเปรี้ยวและหอมโดดเด่่น ผู้้คนนำำไปปรุงใส่่น้ำบูดูและน้ำพริิกแต่่ปัญหาก็็ยัังคงตามมาอีีก คืือผลิิตภััณฑ์์มีีอายุอยู่่ได้้ เพีียงอาทิตย์์เดีียว คุณเกศสิริิในฐานะศิษย์์เก่่า มหาวิิทยาลััยสงขลานคริินทร์์ จึึงเข้้าหาสถาบัันการศึึกษาที่่เรีียนจบมา เพื่่อขอคำปรึึกษาในการยืืดอายุสิินค้้า ผลลััพธ์์ที่ได้้ นอกจากน้ำมะนาวพร้อมปรุงที่สามารถเก็็บได้้นานถึึง 3 เดืือนแล้้ว ยัังได้้สูตรน้ำมะนาวพร้อมดื่่มผสมน้ำผึ้้งมาพััฒนาเป็็นสิินค้้าเพิ่่มอีีกตััว ก่่อนจะสร้้างแบรนด์์ “ลิิมาเซ่่” ซึ่่งเป็นภาษามลายูท้องถิ่น 2 คำำผสมกััน แปลว่่า มะนาวเปรี้ยว “ไม่่ว่่าจะทำอะไรก็็ตาม ทุกอย่่างย่อมมีีปัญหาแต่่เราต้้องรีีบลุกขึ้้นมาโดยเร็วที่สุดและศึึกษาหาความรู้้เพื่่อหาวิธีีไปแก้ปัญหาตอนที่่เราทำธุรกิิจใหม่่ๆ เราก็็เข้้าอบรมกัับกรมส่่งเสริมอุตสาหกรรม เริ่่มตั้งแต่่โครงการเสริมสร้้างผู้้ประกอบการใหม่่ หรืือ NEC เรื่อยมาจนปี 2564 กัับกิิจกรรมเพิ่มศัักยภาพวิิสาหกิิจชุมชนด้านการพัฒนา ผลิิตภััณฑ์์เกษตรแปรรูปในพื้้นที่่ 3 จัังหวััดชายแดนภาคใต้้ จัังหวััดสงขลา สตูล ปัตตานีี ยะลา และนราธิิวาส “เจ้้าหน้้าที่ของศูนย์์ส่่งเสริิมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 ลงพื้นที่มาช่่วยเหลืือตลอด ตั้งแต่่เราทำอยู่หลัังบ้้าน จนวัันนี้เราสร้้างโรงงานเป็็นของตนเอง นอกจากความรู้้ที่นำไปปรัับใช้้จนกิิจการเติิบโตขึ้น สามารถปลดหนี้ได้้สำเร็็จ การมาของเจ้้าหน้้าที่ยัังสร้้างกำำลัังใจให้้เรา รวมทั้งการได้้แลกเปลี่ยนมุมมองกัับเพื่่อนผู้้ประกอบการที่เริ่มธุรกิจมาจากศูนย์์เหมือนกััน” ผลิตภััณฑ์์หลัักของลิิมาเซ่่ คืือ น้ำ มะนาวพร้อมปรุงที่ได้้มาตรฐาน อย. และ Halal มีีจำหน่่ายทั้้งในรูปแบบถุง และแบบขวดในตลาดเทศบาลเมืองปัตตานีีร้้านทางไทย ที่ห้้างโอเดี้ยน ซึ่งปัจจุบัันเปิดรัับตััวแทนจำหน่่ายสิินค้้าเพิ่่มอยู่่ ส่่วนน้ำมะนาวพร้อมดื่มมีี 2 ขนาด คือ ขวดพีีพีี 150 ml. ขวดแก้้ว 250 ml. สำหรัับจำหน่่ายยามออกบู๊๊ธพบปะลูกค้้า รัับสั่่งพรีีออร์์เดอร์์และเป็นเครื่่องดื่มในมื้้ออาหารว่่างของหน่วยงานราชการ ขณะนี้้กำลัังดำเนิินการขอมาตรฐานสิินค้้าอยู่ ในอนาคต แบรนด์์ลิิมาเซ่่มีีแผนที่่จะแปรรูปเพิ่่มมูลค่่าของมะนาวอย่่างต่่อเนื่อง โดยขยายไลน์์ผลิิตภััณฑ์ให้้ครบวงจร นอกจากน้ำมะนาวสูตรเข้้มข้้นยัังเตรีียมสร้้างอาคารผลิิตใหม่่เพื่่อผลิตสิินค้้าไลน์์แห้้งอย่่างเปลือกมะนาว 3 รส เยลลีีมะนาว และวุ้้นกรอบมะนาว เพื่่อขยายตลาดออนไลน์์อย่่างจริิงจัังและพร้้อมรัับซื้้อมะนาว เพื่่อสร้างอาชีีพ สร้้างรายได้้ให้้กัับเกษตรกรในพื้้นที่ด้วยความเต็็มใจ คุณเกศสิิริิ ยาโม วิิสาหกิิจชุมชนกลุ่่มมะนาว สร้้างตนเอง 16/5 หมู่ที่ 2 ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จัังหวััดปัตตานีี 94120 โทรศัพท์ 09 5769 2171, 08 6290 6584 ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
MUCH
ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสวนส้มร่มเกล้า ที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไร จนกลายมาเป็นแบรนด์สินค้าสำหรับคนรักสุขภาพ ปัจจุบัันเทรนด์์รัักสุขภาพยัังคงเติิบโตขึ้้นต่่อเนื่่อง ยิ่่งสถานการณ์์โควิิด-19 ที่่เกิิดขึ้้นมาก็็ยิ่่งทำำให้้ผู้้คนหัันมาดูแลเอาใจใส่่ด้้านสุขภาพของตนเองและคนที่รักมากขึ้น บริษัิท เจนเทิ่ลวิิน จำำกััด เป็นหนึ่่งในผู้้ผลิิตผลิิตภััณฑ์์เกษตรแปรรูปภายใต้้แบรนด์์ MUCH ตอบโจทย์์เทรนด์์ ดัังกล่่าวได้้เป็นอย่่างดีี โดยต่่อยอดมาจากผลผลิิตของสวนส้้มร่่มเกล้้าในเขต อ.พบพระ จ.ตาก ที่่มอบความใส่่ใจเริ่มตั้งแต่่ต้้นทางคืือการเพาะปลูกและตลอดกระบวนการผลิิต ด้วยความตั้้งใจที่จะเพิ่่มมูลค่่าให้กับผลผลิิตในสวนส้้ม ร่่มเกล้้าซึ่งเป็นของคุณพ่่อคุณแม่่ ทำให้้ คุณชิิชนก จิิตปรีีดากร หรือ นุ่่น ตััดสิินใจก่่อตั้งบริิษััท เจนเทิ่ลวิิน จำำกััด ขึ้นและเดิินหน้้าเติิมเต็็มความรู้้ด้้านการเป็นผู้้ประกอบการ เริ่่มด้วยการเข้้าร่วมกิิจกรรมพััฒนาเกษตร อุตสาหกรรมต้้นแบบอััจฉริิยะ (Genius Academy) ซึ่งจััดโดยกรมส่่งเสริิมอุตสาหกรรม (กสอ.) จากนั้นได้้เข้้าอบรมกัับกิิจกรรมอื่่นๆ อีีกหลายครั้้ง ตลอดจนส่่งตััวแทน ของบริษัิทฯ เข้้าร่วมเก็็บเกี่ยวความรู้้เพื่อนำำมาพััฒนาธุรกิิจอย่่างต่่อเนื่่อง “นุ่่นเติิบโตมาจากการดูแลของหน่่วยงานภาครััฐเลยก็็ว่่าได้้ คืือไม่่รู้้ว่่าจะเริ่่มต้้นอย่่างไรพอตั้งบริิษััท เมื่อปี 2560 ก็็เข้้าอบรม Genius Academy ของ กสอ. ก่่อนเลย จากนั้นมีีอบรมที่ไหนก็็เข้้าร่่วมตลอด มาเริ่มทำำธุรกิิจและวางจำำหน่่ายสิินค้้าจริิงๆ จัังๆ ก็็ในปี 2561” เธอกล่่าว จากผลผลิิตที่มีีมากกว่่าส้้มในสวนส้้มร่่มเกล้้ายัังมีีผลผลิิตอื่นๆด้วย เช่่น มะคาเดเมีีย อะโวคาโด มะม่วง รวมถึึงพืืชตระกูลเบอร์์รีีต่่างๆ จึึงเป็นที่มาของผลิตภััณฑ์์ เกษตรแปรรูป ไม่่ว่่าจะเป็็นมะคาเดเมีียอบรสธรรมชาติิ, นมมะคาเดเมีีย, แยมผิิวส้้ม และล่่าสุดยัังมีีอีีกหนึ่งผลิิตภััณฑ์์ก็คือ ธััญพืืชและผลไม้้รวมรสส้้ม (กราโนลา) ฉีีกแนวจากผลิิตภััณฑ์์กราโนลาที่มีีอยู่่ในท้องตลาดทั่่วไป “การพััฒนาผลิิตภััณฑ์์ต้้นแบบของโครงการ มีีแนวคิิดจากการที่ผู้้ประกอบการต้้องการพััฒนาผลิิตภััณฑ์์เพื่่อสุขภาพที่มีีแคลอรีีต่ำ โดยใช้้วััตถุดิิบ ทางการเกษตรจากสวนที่เพาะปลูกเอง จึึงได้้พััฒนาผลิิตภััณฑ์์กราโนลาซึ่งเริ่่มเป็นที่นิิยมในปัจจุบััน โดยต้้องการผลิตภััณฑ์์กราโนลาที่่มีรสชาติิดีี หอม หวานน้้อย กรอบแบบมีีเนื้้อสััมผัสเต็มคำของธััญพืืชและผลไม้ที่มาจากวััตถุดิิบที่่เพาะปลูกในสวน ซึ่งการใช้้วััตถุดิิบที่่เพาะปลูกเองสามารถช่่วยลดต้้นทุนการผลิตและยัังเป็นการช่่วยเพิ่่มูลค่่าทางเศรษฐกิิจให้้กัับทางบริิษััทด้้วย โดยในเวลานี้อยู่่ระหว่่างการพััฒนาสิินค้้าอีีกหลายรายการ เช่่น นมมะคาเดเมีีย จะผลิิตเป็นรูปแบบกล่่อง UHT กราโนลา คาดว่่าจะเปิิดตััวได้้ในปี 2565 และอื่่นๆ จะทยอยเปิดตัวออกมาอีีก อีีกทั้้งมีีเป้าหมายในการขยายตลาดให้้กว้้างมากขึ้น แม้้จะมีีวางจำหน่่ายแล้วทั้้งทางออฟไลน์์ในร้้านค้้าและซูเปอร์์มาร์์เก็ตชั้้นนำำ เช่่น 7-Eleven และออนไลน์์ แต่่ส่่วนใหญ่่ยัังกระจุกตััวอยู่่ในพื้้นที่กรุงเทพฯ จึึงต้้องการผลัักดััน MUCH ซึ่่งเป็นผลิิตภััณฑ์์เพื่่อสุขภาพที่อยู่ในกลุ่่ม นิชิ มาร์์เก็็ตไปสู่่ตลาดแมสมากขึ้น คุุณชิิชนก จิิตปรีีดากร บริิษััท เจนเทิ่ลวิิน จำำกััด 91/3 หมู่่ที่ 4 ตำบลคีีรีีราษฎร์์ อำเภอพบพระ จัังหวััดตาก 63160 โทรศัพท์ 09 4282 3962 https://muchromklao.com/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2565
เทพอินทราชัย แมนู แฟคเจอริ่ง
Upcycling สินค้าแฟชั่น ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก 40 ปีที่บริษัท เทพอินทราชัย แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิตเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นป้อนให้กับภาครัฐและภาคธุรกิจของประเทศเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับองค์กร จากการผลิตตามแบบในยุคบุกเบิกมาในยุคผู้บริหารเจเนอเรชันที่ 2 คุณยุทธนา เหล่าผดุงรัชกัร ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมและดีไซน์ รวมทั้งกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ที่นี่ถือเป็นโรงงานการ์เมนต์เพียงไม่กี่แห่งในประเทศที่ได้รับรางวัล Green Factory ด้วยความที่บริษัทมีไลน์การผลิตสินค้าที่ครบวงจร ตั้งแต่่หมวก กระเป๋า เสื้อยืด เสื้อโปโล เสื้อแจ็กเกต ฯลฯ จึงตอบโจทย์ลูกค้าในลักษณะ B2B ที่ต้องการความ หลากหลายของผลิตภัณฑ์ แบบสั่งที่เดียวได้ครบทุกไอเทม ขณะเดียวกันยังเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและแสวงหา ความแตกต่างมานำเสนอลูกค้าอยู่เสมอ เช่น การออกแบบ และผลิตเสื้อผ้าจากเส้นใยขวดพลาสติก (Recycled PET) ที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมในเวลานี้ เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว สินค้าแฟชั่นก็เปลี่ยนเร็วเช่นกันและต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นสร้างขยะให้กัับโลกไม่น้อย คุณยุทธนาในฐานะผู้นำองค์กรมีความตื่นตัว และสนใจรับข่าวสารของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งยังเข้าร่วมอบรมโครงการต่างๆ โดย ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ส่งเสริมการผลิตภายใต้ระบบ Lean ทำให้มีความสนใจที่จะนำ เศษวัสดุเหลือใช้ต่่างๆ กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ทิ้งไร้ค่าเป็นขยะ ทางบริษัทได้เข้าร่วมอบรมโครงการ Upcycling for Sustainable Lifestyle ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมทำให้บริษัทสามารถพัฒนา และสร้างมลค่า เพิ่มจากเศษวัสดุเหลือทิ้งที่มีเป็นจำนวนมากจากสายงานการผลิตหลัก โดยการน เศษผ้าเหลือทิ้งมาผ่านกระบวนการตีเป็นเส้นใยและส่งเส้นใยผ้าที่ได้ให้กับกลุ่มชุมชนทอผ้า ทอจนสำเร็จเป็นผืนผ้า โดยการจ้างเหมาทอรายวัน ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน หลังจากนั้นจึง นำผืนผ้าที่ได้กลับมาตัดเย็บด้วยเครื่องจักรที่บริษัท เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทเสื้อแจ็กเกต เสื้อกันหนาว นอกจากนี้ยังได้นำเศษวัสดุเหลือทิ้งจากการตัดเย็บกระเป๋าเก็บความร้อนและเย็นประเภทฟอยด์เพื่อทอและเย็บติดประดับบนเสื้อแจ็กเกตจนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ (Upcycling Products) ที่เพิ่มมูลค่าสูง และตรงกับความต้องการของตลาด โดยอาศัยกระบวนการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “พอกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมส่งข้อมูลมาว่ามีการอบรมโครงการ Upcycling for Sustainable Lifestyle ก็รู้สึกว่ามันตอบโจทย์เรา อาจารย์ที่ปรึกษาท่านแนะนำ ให้นำเศษผ้าเหลือใช้ที่เป็นขยะอุตสาหกรรมมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาทอเป็นผ้าผืนใหม่โดยฝีมือชาวบ้านที่มีภูมิปัญญาทอกี่กระตุกในจังหวัดปราจีนบุรี จนได้งาน Handicraft ที่มี Story ที่น่าสนใจ ในรูปแบบของเสื้อแจ็กเกตที่มีฟังก์ชัน คือ สามารถถอดแขนเป็นเสื้อกักหรือเสื้อแจ็กเกตก็ได้ เราดีใจที่ได้มีส่วนช่วยลดขยะ และทำให้มันมีค่ากลับมาเป็นตัวสินค้าอีกครั้ง ทั้งยังสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นด้วย” ผลจากการเข้าร่วมโครงการ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นแฟชั่่นและไลฟ์สไตล์แล้ว ยังช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า องบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ เทพอินทราชัย แมนูแฟคเจอริ่งยืนหยัดมาได้กว่่า 40 ปี คือการใส่ใจความต้องการของลูกค้าให้ความสำคัญกับคำว่าคุณภาพ พร้อมส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายุคนี้ ที่ตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทเองก็บรรจุเรื่องนี้ไว้ในนโยบายของบริษัท เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจประเทศชาติและโลกของเรา คุณยุทธนา เหล่าผดุงรัชกร คุุณยุุทธนา เหล่่าผดุงรััชกร บริิษััท เทพอิินทราชััย แมนูแฟคเจอริ่่ง จำำกััด 123 125 ซ.เพชรเกษม 68 แขวงบางแคเหนืือ เขตบางแค กรุงเทพ 10160 โทรศัพท์ 08 1875 9959, 0 2454 8188-90 http://www.tmpremiums.com/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
17 มี.ค. 2565
ภูริษาผ้าไทย
ชูอัตลักษณ์ผ้าทอแดนอีสาน เชื่อมแฟชั่นไทยสู่สากล ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติถักทอด้วยฝีมือชุมชนคนอีสานดีไซน์สู่ เสื้อผ้าแฟชั่นทันสมัย สวมใส่สบาย มีสไตล์ เป็นของตัวเอง อวดโฉมอยู่ในงานแสดงสินค้าระดับ ประเทศและช่องทางออนไลน์ ครองใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นผลงานของ ภูริษาผ้าไทย ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายแปรรูปจากจังหวัดหนองบัวลำภูที่มี คู่สามีภรรยา คุณวรพงษ์ และ คุณพัชรินทร์ ชัยรัตน์ เป็นผู้ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง จุดเริ่มต้นของภูริษาผ้าไทยมาจากคุณพัชรินทร์ซึ่ง เป็นลูกหลานชาวหนองบัวลำภู ได้เห็นผู้เป็นแม่ทอผ้ามาตั้งแต่เด็กๆ เธอเล่าว่า ผ้าของแม่สวยและขายได้ราคาดี ผู้คนมักซื้อไปเป็นของฝากผู้ใหญ่ เริ่มต้นจึงลองเอาผ้าของ แม่ไปขายที่งานกาชาดจังหวัด ปรากฏว่าขายดีจนมีของไม่พอขาย เลยเห็นโอกาส จึงชักชวนคนในชุมชนรวมตัวกันจัดตั้งเป็น กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นเมืองบ้านดินทรายอ่อน ในปี 2552 ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มอยู่ที่ 35 คน และเครือข่ายที่ทำงานร่วมกันอีกกว่า 150 ราย สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองทอมือย้อมสีธรรมชาติ จนได้รับการคัดสรรเป็น OTOP ระดับ 4 ดาวและ 5 ดาว ก่อนพัฒนาสู่แบรนด์ภูริษาผ้าไทยในเวลาต่อมา โดยนำผ้าจากทางกลุ่มมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และหลากหลาย เช่น เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรีผ้าคลุมไหล่ กระเป๋า และหน้ากากผ้า เป็นต้น แม้สินค้าจะเป็นที่ยอมรับของตลาดและมีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร แต่ภูริษาผ้าไทยยังคงพัฒนาตัวเองไม่หยุดนิ่ง เพื่อปูทางแบรนด์ไทยไปสร้างโอกาสในตลาดโลก จึงได้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมให้คำปรึกษาเชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โครงการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานสู่สากลของกรมส่งเสริม ภูริษาผ้าไทย ชูอัตลักษณ์ผ้าทอแดนอีสาน เชื่อมแฟชั่นไทยสู่สากลอุตสาหกรรมทำให้ได้อาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องผ้าเข้ามาช่วยแนะนำ เทคนิควิธีการทอและการจับคู่สีจากวัสดุธรรมชาติในชุมชน ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการของตลาดและตรงกับใจผู้บริโภคมากขึ้น และยังได้ไอเดียลดต้นทุนด้วยการนำเศษผ้าที่่เหลือจากการตัดเย็บมาพัฒนาต่อยอดเป็นเสื้อผ้า ของที่ระลึกและของใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย “ที่ผ่านมาเรามีเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บเยอะมาก อาจารย์เลยแนะนำว่าเศษผ้าพวกนี้สามารถสร้างมูลค่าได้โดยที่เราไม่ต้องไปลงทุนอะไรเพิ่มเลยเพราะเป็นของที่มีอยู่แล้ว แค่เปลี่ยนจากกองเศษผ้าเป็นกองทอง สร้างมูลค่าจากของที่่เราเคยมองข้ามเท่านั้นเอง เราเลยมาทำเป็นชุดยูกาตะตามที่อาจารย์แนะนำและพัฒนาต่อยอดเป็นเสื้อสตรี โดยผสมกับผ้าพื้นเมืองที่มีอยู่ ซึ่งออกมาสวยและลูกค้าก็ชอบมาก กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างโอกาสให้กับเรา” จากคำแนะนำที่ได้ทำให้ภูริษาผ้าไทยเห็นตลาดของตัวเองที่ชัดเจนขึ้น จึงพลิกกลยุทธ์มาใช้ช่องทางออนไลน์นำเสนอตัวเอง โดยการไลฟ์ขายสินค้าผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก จากยอดขายหน้าร้านที่ไม่มีเลยในช่วงโควิดกลับมาสามารถสร้างรายได้ในยุคโควิดและยังสร้างชื่อแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น ซึ่งปัจจุบันรายได้หลักมาจากออนไลน์ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเป้าหมายในอนาคตคุณพัชรินทร์กล่าวว่าอยากนำพาแบรนด์ไทยไปสู่สากลและหวังว่าหลังโควิดคลี่คลาย ชื่่อของ “ภูริษาผ้าไทย” จะมีโอกาสไปตลาดโลก สมความตั้งใจได้ คุณวรพงษ์์ ชััยรััต ภูริิษาผ้้าไทย 32 หมู่่ที่่ 8 บา้นศรีีเมืืองใหม่่ ตำำบลโคกม่่วง อำำเภอศรีีบุญเรืือง จัังหวััดหนองบััวลำภู 39180 โทรศัพท์ 08 7221 0295, 08 1592 6185 ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
17 มี.ค. 2565