จ.นนทบุรี 3 ธันวาคม 2565 - นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เยี่ยมชมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในงานอุตสาหกรรมแฟร์ พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการร้านค้าที่มาร่วมออกร้านในงานดังกล่าว ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9 - 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงานอุตสาหกรรมแฟร์ จัดขึ้นเป็นวันที่ 3 ภายใต้แนวคิด “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” เพื่อต่อยอดผลสำเร็จของโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม ด้วยการเสริมทักษะในการประกอบธุรกิจให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองและมีอาชีพใหม่ โดยได้ระดมสุดยอดร้านค้าจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 1,200 ราย นำสินค้าดี มีคุณภาพ มาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน อาทิ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อาหารและเกษตรแปรรูป ของใช้ของตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดตลาดไอเดียสำหรับประชาชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดการประกอบธุรกิจที่มั่นคง ซึ่งงานจะจัดถึงวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ### PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว

ขอเชิญชวน SMEs ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น สมัครเข้าร่วม กิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น สำหรับผู้สูงอายุ (Senior LIFE) ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม เทคโนโลยี โดยการนำแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) เพื่อให้เกิดมูลค่าเชิงพาณิชย์มากขึ้น สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ สถานประกอบการได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เชิงสร้างสรรค์ สำหรับผู้สูงอายุ กิจการละ 1 ผลิตภัณฑ์ สถานประกอบการได้รับการวินิจฉัยและหารือแนวทาง ร่วมกับผู้ประกอบการ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 1 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ สถานประกอบการได้รับคำปรึกษาแนะนำ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ฯ จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ครั้ง ตลอดโครงการ สมัครด่วน วันนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

จ.นนทบุรี 2 ธันวาคม 2565 - นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) พร้อมทั้งพบปะผู้ประกอบการ คพอ. ที่เข้าร่วมงานดังกล่าว ร่วมด้วย นายวุฒิชัย ประชาพร ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม นายณัฐพล แสงฟ้า นายกสหพันธ์สมาคมผู้ประกอบการไทย (FA SME) และสมาคมการค้าส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการ ณ ห้องแอมเบอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทั้งนี้ ดีพร้อม ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้เป็นนักธุรกิจที่พร้อมจะพัฒนาและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนสามารถอยู่รอดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยในปี 2565 ดีพร้อมได้จัดฝึกอบรม คพอ. จำนวน 385 รุ่น 12,207 ราย โดยมุ่งเน้นพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศให้เป็นนักธุรกิจที่พร้อมจะพัฒนาและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมถึงรู้หลักในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ###PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว

จ.นนทุบรี 2 ธันวาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารดีพร้อม (DIPROM) เยี่ยมชมสินค้าและให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการร้านค้าที่มาออกงานใหญ่แห่งปี อุตสาหกรรมแฟร์ ภายใต้แนวคิด “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” เพื่อต่อยอดผลสำเร็จของโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม ด้านการเสริมทักษะในการประกอบธุรกิจ ให้สามารถพึ่งพาตนเองและมีอาชีพใหม่ พร้อมทั้งระดมสุดยอดผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 1,200 ราย นำสินค้าดี มีคุณภาพ มาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน อาทิ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อาหารและเกษตรแปรรูป ของใช้ของตกแต่งบ้าน รวมถึงการเปิดตลาดไอเดียสำหรับประชาชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดการประกอบธุรกิจที่มั่นคง โดยงานจะจัดถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2565 ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9 - 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ###PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

จ.นนทบุรี 2 ธันวาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปี 2565 รีแบรนด์กระทรวงอุตสาหกรรม สู่ MIND ขับเคลื่อนโยบายปี 2566 ติดปีกภาคธุรกิจ มุ่งอุตสาหกรรมวิถีใหม่ ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมดี อยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน” เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากผ่านนโยบาย 4 มิติ ส่งเสริมธุรกิจ ดูแลสังคม รักษาสิ่งแวดล้อม และกระจายรายได้สู่ชุมชน ย้ำการทำงานด้วย “MIND” มุ่งยกระดับภาคอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ด้วย ‘หัว’ และ ‘ใจ’ ดร.ณัฐพล กล่าว่า กระทรวงอุตสาหกรรมขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ตามแนวคิด “อุตสาหกรรมดี อยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน” คือ 1. ใช้หลักการ "อุตสาหกรรมดี ชุมชนดี หน่วยงานดี" เพื่อสร้างทัศนคติรวมถึงประสบการณ์ที่ดีให้กับประชาชนและสถานประกอบการให้มีความเชื่อมั่น เชื่อถือ และไว้วางใจ พร้อมปรับปรุงการให้บริการอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วน สามารถตรวจสอบได้ สร้างความโปร่งใสในการทำงาน ด้วยการปลูกฝังการทำดีด้วย 'หัว' และ 'ใจ" ของข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ พร้อมผลักดัน “ชุมชนรักโรงงาน โรงงานรักชุมชน และสร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชน” เพื่อให้ชุมชนและอุตสาหกรรมอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่อง 2. ทุกนโยบาย มาตรการ และกลไก มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ คือ มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจ เพิ่มความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรม มิติที่ 2 การประกอบการที่กระทรวงดูแล ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ประชาชน มิติที่ 3 การตอบโจทย์ประเทศไทยและประชาคมโลก การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และ มิติที่ 4 การรักษาวิถีชีวิต สร้างประโยชน์ พัฒนาชุมชนรอบอุตสาหกรรม และต่อยอดอาชีพดีพร้อมให้คนรุ่นใหม่สามารถต่อยอดอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวหรืออัตลักษณ์ชุมชน กระตุ้นผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) และให้รางวัลกับคนทำดี โดยมี นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมในครั้งนี้ ร่วมด้วย นายสุรพล ชามาตย์ นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมพล โนดไธสง นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวิชญ์ นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ กระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เข้าร่วมรับฟังนโยบาย ณ ห้องเดอะ พอร์ทอล บอลรูม (The Portal Ballroom) ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี และผ่านระบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก ###PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน

ปัจจุบันโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจขับเคลื่อนเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัล ดังนั้นประชาชนต้องเข้าใจสิทธิและข้อจำกัดซึ่งได้ถูกกำหนดโดยภาครัฐ โดยควบคุมการใช้สื่อดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถปฏิบัติงานและดำเนินชีวิตได้ถูกต้องตามกฎระเบียบ และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งกฎมายดิจิทัลที่ควรศึกษา ประกอบด้วย พระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 พระราชบัญญัติสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565

AR & VR ต่างกันอย่างไร AR (Augmented Reality) เทคโนโลยีที่นำวัตถุ 3 มิติมาจำลองเข้าสู่โลกจริงของเรา หลักการทำงานคือใช้ Sensor ในการตรวจจับภาพ เสียง การสัมผัส หรือการรับกลิ่น จากนั้นก็จะสร้างภาพ 3 มิติขึ้นมาตามเงื่อนไขที่ได้รับ ประมวลผลจากซอฟต์แวร์ ผู้ใช้งานจะต้องมองผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่แสดงภาพได้ VR (Virtual Reality) เทคโนโลยีที่จำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือนจริง พยายามทำให้เหมือนจริงผ่านการรับรู้ของเราไม่ว่าจะเป็น การมองเห็น เสียง การสัมผัส หรือการรับกลิ่น ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมที่จำลองขึ้นมาได้ผ่านอุปกรณ์ ความแตกต่างระหว่าง AR กับ VR AR จะเป็นการนำวัตถุ 3D มาทับซ้อนบนโลกจริง ผ่านการประมวลผลจากซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ควบคู่กัน ซึ่งเราจะไม่มีการโต้ตอบ กับอนิเมชั่นดังกล่าว ในขณะที่ VR แสดงโลกเสมือนจริงขึ้นมาผ่านอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้ตัดขาดจากโลกความเป็นจริงและเข้ามายังอีกโลกหนึ่ง โดยผ่านการรับรู้ด้านการมองเห็น เสียง และการสัมผัส โดยผู้ใช้ VR นั้นจะสามารถทำการโต้ตอบภายในโลกเสมือนจริงได้อย่างเต็มอารมณ์ AR จึงต่างกับ VR ตรงที่ AR จะไม่มีการตอบโต้ แต่ VR จะสามารถตอบโต้ภายในโลกเสมือนจริงได้นั่นเอง ที่มา : เว็บไซต์ Cloud HM by UIH, เว็บไซต์ BA-NA-NA, เว็บไซต์ Teedd360

AI Chatbot กับ Chatbot ต่างกันอย่างไร เราสรุปความแตกต่างเป็น 3 ด้านด้วยกัน ดังต่อไปนี้ AI Chatbot ด้านการตอบคำถาม สามารถตอบคำถามได้ละเอียดกว่าแชทบอทธรรมดา รวมไปถึงคำถามเฉพาะทางของแต่ละธุรกิจ เพื่อช่วยให้ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ด้านการทำความเข้าใจในภาษา สามารถทำความเข้าใจคำถามที่มีความซับซ้อนมากกว่าคีย์เวิร์ดหรือเจตนาสั้น ๆ และสามารถทำความเข้าใจคำที่พิมพ์ผิดได้ ด้านการปิดการขาย สามารถปิดการขายได้เอง แต่จำเป็นที่จะต้องมีการเซ็ตข้อมูลเพื่อให้ระบบ AI ทำการปิดการขายได้ Chatbot ด้านการตอบคำถาม สามารถตอบคำถามเฉพาะที่มีการกำหนดคีย์เวิร์ดเอาไว้ในระบบเท่านั้น ด้านการทำความเข้าใจในภาษา จะเข้าใจเฉพาะคีย์เวิร์ดที่มีการกำหนดเอาไว้เท่านั้น ด้านการปิดการขาย ไม่สามารถปิดการขายได้เอง ต้องให้แอดมินมาทำการปิดการขายให้ หวังว่าทุกท่านเจอกับการโต้ตอบจากแอปต่าง ๆ แล้ว คงจะพอเดากันได้ ว่าเป็น AI Chatbot หรือ Chatbot ที่กำลังคุยกับเราอยู่ ที่มา : aigencorp, skooldio

กลุ่มสารสนเทศโลจิสติกส์ ขอเชิญชวนสถานประกอบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน กิจกรรมเสริมสร้างความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เงื่อนไข : สถานประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคล สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับตลอดโครงการ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะให้คำปรึกษา และวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึก จำนวน 8 ครั้ง สถานประกอบที่เข้าร่วมกิจกรรม สามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ (Logistics Cost) เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 15% สมัครฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด วันนี้ - 30 ธ.ค. 65 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กลุ่มสารสนเทศโลจิสติกส์ กองโลจิสติกส์ 02-430-6875-6 กด 6

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs, วิสาหกิจชุมชน, OTOP, เกษตรกร, บุคคลทั่วไปที่สนใจเป็นเกษตรอุตสาหกรรม เข้าร่วม กิจกรรมการปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม (Agro Beyond Academy : ABA) พบกับหลักสูตรเสริมเขี้ยวเล็บให้นักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมรุ่นไหนก็ยิ่งใหญ่ได้เกษตรกล้าคิด กล้าข้ามจุดเดิม เสริมแกร่งให้เกษตรกรไทย เปิดรับสมัครพร้อมกัน 25 รุ่น ทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน รับจำนวนจำกัด รุ่นละ 40 คนเท่านั้น ฟรี...ไม่มีค่าใช้จ่าย พบกับหลักสูตรเข้มข้น ฝึกอบรม จำนวน 30 ชม. 1. การบริหารจัดการธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 2. การตลาดธุรกิจสมัยใหม่ 3. การบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ 4. การทำแผนธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง แก่ผู้ประกอบการ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และเชื่อมโยงเครือข่ายอย่างยั่งยืน กำหนดการจัดงาน : ระหว่างเดือนธันวาคม 65 - เดือนมีนาคม 2566 รับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สนใจสมัครร่วมกิจกรรมคลิกที่ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คุณศรัญญา (ญา) เบอร์ติดต่อ 088 452 4373 คุณพิรุณพร (หยก) เบอร์ติดต่อ 094 983 9650