โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
“ปลัดณัฐพล” นั่งหัวโต๊ะถกหลักเกณฑ์เฟ้นหาอุตฯ ยอดเยี่ยม ปี 68 ชูความสำเร็จสถานประกอบการตามแนวทางอุตสาหกรรมวิถีใหม่ มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ สอดรับนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจ ยุคใหม่ ของ รวอ.เอกนัฏ
“ปลัดณัฐพล” นั่งหัวโต๊ะถกหลักเกณฑ์เฟ้นหาอุตฯ ยอดเยี่ยม ปี 68 ชูความสำเร็จสถานประกอบการตามแนวทางอุตสาหกรรมวิถีใหม่ มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ สอดรับนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจ ยุคใหม่ ของ รวอ.เอกนัฏ
กรุงเทพ 7 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมฯ ร่วมด้วย นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ณ ห้องประชุมชุณหะวัณ ชั้น 3 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม การประชุมครั้งนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 ที่กำหนดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม - สิงหาคม 2568 โดยมีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) การประชาสัมพันธ์และการรับสมัคร (2) สรุปผลการสัมมนาชี้แจงหลักเกณฑ์ (3) การกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของสถานประกอบการ ที่มีความประสงค์จะสมัครคัดเลือกรางวัลฯ จะต้องเป็นสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภทรางวัลขึ้นไป ภายในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และหากเคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมแล้ว จะต้องเว้นช่วงระยะเวลา 5 ปี (4) สรุปรายชื่อสถานประกอบการที่มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 27 ราย และ (5) การกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกรางวัลฯ ได้กำหนดให้ครอบคลุม 6 ด้าน คือ 1) มีการกำหนดกลยุทธ์และนโยบาย 2) มีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ 3) มีความสามารถในการปรับตัวและฟื้นคืนธุรกิจจากภาวะวิกฤต 4) มีความสามารถในการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5) มีความสามารถในการสร้างคุณประโยชน์ และ 6) มีผลลัพธ์จากการดำเนินงานทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังมีรางวัลพิเศษมอบให้แก่สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2568 คือ “ทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador” ซึ่งจะเป็นตัวแทนของกระทรวงอุตสาหกรรมในการประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ผ่านการดำเนินโครงการ/กิจกรรม รวมถึงช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และบริการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม “รางวัลอุตสาหกรรม” ถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่ทรงคุณค่าของภาคอุตสาหกรรมไทย ที่สถานประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกควรจะได้รับ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี อันจะนำไปสู่การปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้อยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป สอดคล้องตามแนวทางอุตสาหกรรมวิถีใหม่ มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจ มิติที่ 2 การดูแลสังคมและชุมชน มิติที่ 3 การรักษาสิ่งแวดล้อม และมิติที่ 4 การกระจายรายได้สู่ชุมชน - การรักษาชีวิต สร้างประโยชน์ พัฒนาชุมชนรอบอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่” ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
13 พ.ค. 2568
ดีพร้อม มอบวุฒิบัตรบุคลากร ยกระดับ "Front Desk" สู่ผู้วินิจฉัยธุรกิจมืออาชีพ พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยเติบโต ตามนโยบาย รมว. เอกนัฏ
ดีพร้อม มอบวุฒิบัตรบุคลากร ยกระดับ "Front Desk" สู่ผู้วินิจฉัยธุรกิจมืออาชีพ พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยเติบโต ตามนโยบาย รมว. เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 2 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "ทักษะการวินิจฉัยสถานประกอบการและการให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้น" พร้อมมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม โดยมี นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม เข้าร่วม ณ ห้องโมโนเคิล ชั้น 1 โรงแรมกราฟ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว มีระยะเวลาการฝึกอบรม 10 วัน เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ "ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม หรือ DIPROM BSC" ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านหน้าหรือ "Front Desk" ในการบริการให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการ โดยมีกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ครอบคลุมทักษะสำคัญในการวินิจฉัยสถานประกอบการในมิติต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ด้านการตลาด ด้านการผลิต และด้านบัญชี-การเงิน รวมทั้งแบ่งกลุ่มลงพื้นที่วินิจฉัยสถานประกอบการจริง 3 กิจการ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และเหล็ก เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ รวบรวม และประมวลผลข้อมูล และวิเคราะห์ประเด็นปัญหา พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางแก้ไข โดยใช้หลักการวินิจฉัย "SHINDAN" ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญระดับสากล ร่วมกับการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และอุปสรรค (SWOT Analysis) ของธุรกิจ ถือเป็นการเปิดมุมมองและสร้างทักษะเชิงลึกให้กับบุคลากร ให้เข้าใจระบบการทำงานของสถานประกอบการอย่างแท้จริง สามารถวินิจฉัยสถานประกอบการได้อย่างแม่นยำ ครอบคลุม และนำไปสู่การเสนอแนวทางการแก้ปัญหา ปรับปรุง และพัฒนาได้ตรงประเด็น นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมยังนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในรูปแบบ "คอมมูนิตี้" เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ตามกรอบนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้กลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ซึ่งเป็นการผนึกเครื่องมือที่จำเป็นมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ เพื่อให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
13 พ.ค. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” แท็คทีมดีพร้อม เตรียมจัดตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ เพื่อยกระดับศักยภาพเกษตรอุตสาหกรรมและวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สร้างฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“อธิบดีณัฏฐิญา” แท็คทีมดีพร้อม เตรียมจัดตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ เพื่อยกระดับศักยภาพเกษตรอุตสาหกรรมและวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สร้างฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กรุงเทพฯ 2 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานประชุมเตรียมการนำเสนอข้อมูลในการประชุมหารือการจัดทำ (ร่าง) คำชี้แจงการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสุชาดา โพธ์เจริญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม นางอรพิน อุดมธนะธีระ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ นายกิตติโชค ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองเกษตรอุตสาหกรรม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อทบทวน (ร่าง) คำชี้แจงการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ให้มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อพิจารณา (ร่าง) คำชี้แจงประกอบการแบ่งส่วนราชการฯ ดังกล่าว โดยมีกำหนดจัดการประชุมในวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ประกอบด้วย สรุปคำขอและเหตุผลความจำเป็นในการปรับปรุงโครงสร้าง กสอ. สำหรับการจัดตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ ได้แก่ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม (กอ.) และศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (ศว.) การขอปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ โครงสร้าง และอัตรากำลัง กสอ. รวมถึงประโยชน์ รายละเอียดปริมาณงาน ค่าน้ำหนักเป้าหมายผลการดำเนินงาน รายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน และตัวชี้วัดผลการปฏิบัติราชการของทั้ง 2 หน่วยงานที่ขอจัดตั้งใหม่ “อธิบดีณัฏฐิญา” ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในส่วนภารกิจงานของทั้ง 2 หน่วยงาน โดย กองพัฒนาเกษตรฯ ให้นำศาสตร์อุตสาหกรรมและแนวคิด BCG ไปประยุกต์ใช้กับภาคเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน สำหรับศูนย์วิจัยฯ จะเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การทำงานในเชิงพื้นที่กับจังหวัด ซึ่งมีลักษณะการดำเนินงานคล้ายกับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค แต่จะเน้นอุตสาหกรรมรายสาขามากยิ่งขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงกับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ภูมิภาค (DIPROM Thai-IDC Ready) ตลอดจนการขับเคลื่อนไมซ์เซ็นเตอร์ (MICE Center) อาทิ การจัดงานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมที่สามารถชูอัตลักษณ์ในเรื่องของ Soft Power ขึ้นมา หรือเชื่อมโยงกับซอฟต์พาวเวอร์ที่ ”ดีพร้อม” ดำเนินการอยู่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาใน Supply Chain ของซอฟต์พาวเวอร์ให้เข้มแข็ง ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” สำหรับการบริหารจัดการในส่วนพื้นที่ต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (Thailand Convention and Exhibition Bureau: TCEB) เพื่อสร้างเครือข่ายในการดำเนินงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
13 พ.ค. 2568
“รสอ.ดุสิต” ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เร่งช่วยเหลือรถตุ๊กตุ๊ก จังหวัดภูเก็ต รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“รสอ.ดุสิต” ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เร่งช่วยเหลือรถตุ๊กตุ๊ก จังหวัดภูเก็ต รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 1 พฤษภาคม 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม โดยมี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็นประธานฯ ร่วมด้วย ผู้บริหารจากกรมการขนส่งทางบก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สหกรณ์สี่ล้อเล็กภูเก็ต จำกัด และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ N 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ที่ประชุมฯ ได้ร่วมพิจารณาประเด็นการเปลี่ยนแปลงรถยนต์โดยสารขนาดเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊กในจังหวัดภูเก็ต จากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถไฟฟ้า ของสหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด เพื่อความประหยัด ปลอดภัย และสนองนโยบายของภาครัฐด้านสิ่งแวดล้อม โดยรถยนต์โดยสารขนาดเล็ก มีระยะเวลาการใช้งานมานานกว่า 40 – 50 ปี เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ และไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้ ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น สมาชิกของสหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด กว่า 200 ราย จึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ พร้อมส่งเสริมทักษะการซ่อมบำรุง และดัดแปลงรถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถไฟฟ้า โดยที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่สหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด และให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา เรื่อง การจดทะเบียนรถยนต์โดยสารขนาดเล็กดัดแปลง และการควบคุมปริมาณและแบ่งโซนพื้นที่ให้บริการของรถยนต์โดยสารขนาดเล็กในจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งกำหนดให้มีการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และวางแผนการแก้ไขปัญหาต่อไป กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่สอดคล้องตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มพูนทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรตลอด Supply Chain ซึ่งสอดคล้องตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
13 พ.ค. 2568
“ดีพร้อม” เปิดบ้าน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์
“ดีพร้อม” เปิดบ้าน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์
กรุงเทพฯ 10 เมษายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล เป็นประธาน พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน ”มนต์เลิฟงานวัด มนต์รักดีพร้อม“ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่งดงาม แสดงออกถึงความเป็นไทย โดยการสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล และมีการให้พรจากผู้อาวุโส ได้แก่ นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายมาณพ ชิวธนาสุนทร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสุชาดา โพธิ์เจริญ อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางอุไรวรรณ จันทรายุ อดีตผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน นางยุพรัตน์ ศตวิริยะ อดีตผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถอุตสาหกรรม และ นางสาวประเทือง พฤกษาพิทักษ์กุล อดีตเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมการละเล่นแบบไทย ให้เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย หรือ ดีพร้อม ได้ร่วมสนุก อาทิ การสอยดาว สาวน้อยตกน้ำ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ไทยของครอบครัวดีพร้อมอย่างมีความสุข อบอุ่น สนุกสนาน และจะเป็นการสร้างพลังในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป
10 พ.ค. 2568
“รสอ.สุรพล” ติดตามความคืบหน้าการจัดแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการ กสอ. ครั้งที่ 2/2568
“รสอ.สุรพล” ติดตามความคืบหน้าการจัดแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการ กสอ. ครั้งที่ 2/2568
กรุงเทพฯ 7 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมคณะทำงานจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วย ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting ประธานที่ประชุม ได้แจ้งผลการเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดที่จะจัดให้มีการเรี่ยไรจัดการแข่งขันกอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ณ สนามกอล์ฟ วินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ กรุงเทพมหานคร ต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องที่เสนอต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานรัฐ (อกร.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการได้ จึงให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ นำเสนอรูปแบบในการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการ กสอ. 2025 ในด้านต่างๆ เพื่อให้คณะทำงานร่วมกันพิจารณา เช่น แบบฟอร์มการรับสมัคร เสื้อแข่งขันนักกีฬา รางวัลผู้แข่งขัน สิทธิประโยชน์สำหรับผู้บริจาคสนับสนุนกิจกรรม การเตรียมรูปแบบการเปิดงาน ทั้งนี้ ประชุมมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานย่อย ซึ่งประกอบด้วย คณะทำงานย่อยด้านอำนวยการ และคณะทำงานย่อยด้านการประสานงานและอำนวยความสะดวก เพื่อให้การจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ ติดตามความคืบหน้าการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และจัดทำรายงานสรุปผลการจำหน่ายใบสมัคร เพื่อนำเสนอคณะทำงานจัดการแข่งขันฯ ต่อไป
08 พ.ค. 2568
”ปลัดณัฐพล“ ติดปีกชุมชน “ดีพร้อม” นครพนม ให้ทักษะแปรรูปผัก ผลไม้ สมุนไพรท้องถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชนตำบลรามราช ท่าอุเทน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
”ปลัดณัฐพล“ ติดปีกชุมชน “ดีพร้อม” นครพนม ให้ทักษะแปรรูปผัก ผลไม้ สมุนไพรท้องถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชนตำบลรามราช ท่าอุเทน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.นครพนม 30 เมษายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “DIPROM Community ที่นี่มีแต่ให้ : ให้ทักษะเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนนครพนม” หลักสูตร "แซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน) “ ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.สุภวิทย์ พรรณวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายอำนาจ เฮี้ยะหลง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน นายวิษณุกรณ์ ภูชุม สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายประกอบ นิวงษา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลรามราช นายนพพร แก้วนิวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านรามราช และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจากส่วนกลางและภูมิภาค ประชาชนในพื้นที่ ต.รามราช 17 หมู่บ้าน เข้าร่วมอบรม จำนวน 150 คน ณ อาคารโรงเรียนบ้านรามราช ตำบลรามราช อำเภอท่าอุเทน ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การยกระดับประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงจำเป็นต้องวางรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง โดย กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มองเห็นถึงหัวใจสำคัญดังกล่าวและมีความมุ่งเน้นในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีทิศทางสอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งใช้การพัฒาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การกระจายรายได้สู่ชุมชนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนำกลไกของซอฟต์พาวเวอร์มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบนพื้นฐานของทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม เลือกนำร่องในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยเฉพาะในมิติของ “ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร” ที่จะสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างงดงามผ่านการให้ทักษะที่ตรงจุด สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึงเปิดมุมมองในการประกอบอาชีพเสริมและนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจหลักได้จริง อันจะทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ (1) ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ (2) ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า (3) ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ (4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการ “ให้ทักษะ” “เพิ่มความรู้” และ “กระจายรายได้” ภายใต้หลักสูตร “หลักสูตรแซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)” แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในพื้นที่ ต.รามราช ทั้ง 17 หมู่บ้าน จำนวน 150 คน ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะ เพื่อสร้างเชฟชุมชนอาหารไทยสู่เชฟมืออาชีพทั่วประเทศ ผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงด้านการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของ จ.นครพนมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การทำลูกชุบ การทำเยลลี่หนึบ เค้กกล้วยหอมนึ่ง และน้ำสมุนไพร โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับองค์ความรู้และฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบพื้นถิ่นให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น อันเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในมรดกวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำไปต่อยอดอาชีพเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
04 พ.ค. 2568
วันคล้ายวันสถาปนา 83 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม
วันคล้ายวันสถาปนา 83 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงอุตสาหกรรม ครบรอบ 83 ปี ซึ่งมีผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายศุภกิจ บุญศิริ นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ นายกฤศ จันทร์สุวรรณ นายวัชรุน จุ้ยจำลอง และนายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม งานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 83 ปีกระทรวงอุตสาหกรรม มีพิธีพรามณ์และพิธีสงฆ์ เริ่มจากไหว้ศาลพระภูมิ การบวงสรวงองค์พระนารายณ์ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และการสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มีผู้บริหารของหน่วยงานระดับกรม รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วม ได้แก่ นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ รักษาการ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งแประเทศไทย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และอดีตผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ นายมนู เลียวไพโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอภิจิน โชติกะเสถียร นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงาน รวมทั้งผู้บริหารสถาบันเครือข่ายร่วมแสดงความยินดีกับกระทรวงอุตสาหกรรมในโอกาสครบรอบ 83 ปีในปีนี้
04 พ.ค. 2568
“ปลัดณัฐพล” ปักหมุดนครพนม สั่งการ “ดีพร้อม” “ให้ทักษะ” ดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นปลาแม่น้ำโขง สร้างรายได้ ต่อยอดอาชีพชุมชนตำบลบ้านค้อ โพนสวรรค์ หวังเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ปลัดณัฐพล” ปักหมุดนครพนม สั่งการ “ดีพร้อม” “ให้ทักษะ” ดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นปลาแม่น้ำโขง สร้างรายได้ ต่อยอดอาชีพชุมชนตำบลบ้านค้อ โพนสวรรค์ หวังเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.นครพนม 30 เมษายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “DIPROM Community ที่นี่มีแต่ให้ : ให้ทักษะเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนนครพนม” หลักสูตร "แซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)“ ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.สุภวิทย์ พรรณวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอำนาจ เฮี้ยะหลง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.วิรัล มะเดี่ยว ผู้อำนวยการโรงเรียนค้อวิทยาคม นายเดือน อนุญาหงส์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครพนม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจากส่วนกลางและภูมิภาค และประชาชนในพื้นที่ ต.บ้านค้อ 20 หมู่บ้าน เข้าร่วมอบรม จำนวน 150 คน ณ หอประชุมพยุงทอง โรงเรียนค้อวิทยาคม ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การยกระดับประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง จำเป็นต้องวางรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงหัวใจสำคัญของเป้าหมายนี้ จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า เพื่อสอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้กลไกของซอฟต์พาวเวอร์เป็นการพัฒนาโดยใช้พื้นฐานของทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม เลือกปักหมุดในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมผ่านการให้ทักษะที่ตรงจุดและสามารถนำไปสร้างอาชีพ และต่อยอดเป็นธุรกิจได้จริง โดยเฉพาะในมิติของ “ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร” ที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างงดงาม และเกิดการกระจายสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ (1) ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ (2) ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า (3) ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ (4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการ “ให้ทักษะ” ภายใต้หลักสูตร “หลักสูตรแซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)” แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในพื้นที่ ต. บ้านค้อ ทั้ง 20 หมู่บ้าน จำนวน 150 คน ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะ เพื่อสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพทั่วประเทศผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงด้านการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของ จ.นครพนมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การทำน้ำพริกสมุนไพรปลาน้ำโขง การทำข้าวเหนียวมูน 3 สีหน้าสังขยา และการทำแหนมหมูใบตองโบราณ โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับองค์ความรู้และฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบพื้นถิ่นให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น อันเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในมรดกวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำไปต่อยอดอาชีพเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
04 พ.ค. 2568
ก.อุตฯ เยี่ยมชม "กะละแมทูลใจ" นครพนม ขึ้นแท่นของฝาก ครม. สร้างเป็น Soft Power ปั้นแบรนด์ท้องถิ่น เตรียมบุกตลาดสากล
ก.อุตฯ เยี่ยมชม "กะละแมทูลใจ" นครพนม ขึ้นแท่นของฝาก ครม. สร้างเป็น Soft Power ปั้นแบรนด์ท้องถิ่น เตรียมบุกตลาดสากล
29 เมษายน 2568 นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ (เฮง เฮง กะละแม) จังหวัดนครพนม กะละแมสูตรโบราณของพื้นที่ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าพื้นถิ่นและของฝากที่ระลึกเพื่อต้อนรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2/2568 ที่จังหวัดนครพนม โดยมี นายธนชัย คำบ้อง รองประธานกลุ่มฯ เป็นตัวแทนเครือข่ายกะละแมธาตุพนม นำเสนอข้อมูลการดำเนินงานและนำคณะเยี่ยมชมกระบวนการผลิต ณ สถานประกอบการวิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม “ชื่นชมกะละแมทูลใจที่มีส่วนช่วยชุมชนในการพัฒนาเครือข่ายรับซื้อใบตองและไม้กลัด ช่วยสร้างงานและอาชีพแก่ชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยินดีสนับสนุนโดยนำกลไก soft power มาช่วยสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์กะละแมนครพนม ค้นหาอัตลักษณ์ที่แตกต่าง เพื่อสร้างแบรนด์และเรื่องราว (Storytelling) เพื่อให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และยังมีอีกหลายส่วนที่สามารถพัฒนาได้ เช่น การปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน การปรับกระบวนการโลจิสติกต์ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมกับการพัฒนาสุขอนามัย (Food Safety, GMP) โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ใบตอง และบรรจุภัณฑ์อย่างอื่นที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา (shelf life)ให้นานยิ่งขึ้น รวมถึงการทดสอบตลาดขายในโมเดิร์นเทรด“ นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ให้คำแนะนำในการต่อยอดกะละแมแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งที่ผ่านมา วิสาหกิจกะละแมทูลใจ ได้รับการส่งเสริมจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ออกแบบพัฒนาเครื่องหยอดกะละแมกึ่งอัตโนมัติ ทำให้ช่วยลดระยะเวลาห่อบรรจุ เพิ่มรายได้ 21,000 บาท/วัน รวมทั้งเครื่องกวนกะละแมกึ่งอัตโนมัติ ทำให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 50 สามารถเพิ่มมูลค่ายอดขาย 10,605 บาท/วันด้านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ให้การสนับสนุนในเรื่องการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และเข้าร่วมโครงการค่าใช้จ่ายแปรรูปสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม 1 จังหวัด 1 ชุมชน (OPOAI-C) พัฒนาข้าวพองไส้กะละแม และไอศกรีมกาละแม ทั้งนี้ ”กะละแมทูลใจ“ ต้องการยืดอายุสินค้า จาก 1 สัปดาห์ เป็น 1 เดือน และต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น จากกะละแมรสชาติดั้งเดิม รสผลไม้ และรสผสมข้าวเม่า โดยต่อยอดขยายแบรนด์ “เฮง เฮง กะละแม” เพื่อจำหน่ายกะละแมสูตรที่แตกต่างและในรูปแบบแพคเกจจิ้งใหม่ เจาะตลาดออนไลน์และตลาดสากล โดยกะละแมทูลใจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ เนื้อเหนียวนุ่ม สีดำเข้ม หวานมัน ห่อด้วยใบตองรีดเตาถ่าน และกลัดด้วยไม้ไผ่เล็ก ๆ ทั้งยังสอดแทรก “ผญา” หรือคติสอนใจแบบอีสานบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมท้องถิ่น นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม พร้อมเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานในสังกัด และให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการกะละแมในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐาน ด้านโรงงาน น้ำเสีย-ของเสีย หากมีการผลิตมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกะละแมที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ก้าวสู่เกษตรแปรรูป และเป็นเกษตรอุตสาหกรรมในอนาคต”
02 พ.ค. 2568