โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
“ดีพร้อม” อัปสกิลบุคลากรหัตถกรรมสิ่งทอไทย ปั้นดีไซเนอร์รุ่นใหม่ โชว์ผลสำเร็จชุมชนต้นแบบ 12 คอลเลกชั่นจาก 4 ภูมิภาค สร้างอัตลักษณ์สิ่งทอชุมชนร่วมสมัยให้โตไกลสู่สากล ตามนโยบาย “อธิบดีณัฏฐิญา”
“ดีพร้อม” อัปสกิลบุคลากรหัตถกรรมสิ่งทอไทย ปั้นดีไซเนอร์รุ่นใหม่ โชว์ผลสำเร็จชุมชนต้นแบบ 12 คอลเลกชั่นจาก 4 ภูมิภาค สร้างอัตลักษณ์สิ่งทอชุมชนร่วมสมัยให้โตไกลสู่สากล ตามนโยบาย “อธิบดีณัฏฐิญา”
กรุงเทพฯ 11 กันยายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานประชุมนานาชาติหัตถกรรมสิ่งทอไทย 2568 (Thai Craft Connect Symposium 2025) ร่วมด้วย นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผู้แทนจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์สาขาแฟชั่น ผู้แทนจากกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนจากกรมหม่อนไหม ผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) นักออกแบบทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมการประชุมฯ ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 5 โรงแรมเอส 31 สุขุมวิท งานประชุมนานาชาติหัตถกรรมสิ่งทอไทย 2568 (Thai Craft Connect Symposium 2025) เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ ภายใต้โครงการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แฟชั่นและหัตถกรรมสิ่งทอระหว่างประเทศ จัดขึ้นเพื่อแสดงผลงานการสร้างสรรค์พัฒนาสินค้าหัตถกรรมสิ่งทอไทยต้นแบบชุมชนจาก 4 ภูมิภาค จำนวน 12 คอลเลกชั่น ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ ทักษะ และขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่นผ่านการเชื่อมโยงผู้คนในพื้นที่ที่มีความเชี่ยวชาญเชิงวัฒนธรรมในอดีต นักออกแบบรุ่นใหม่ชาวไทย และนักออกแบบต่างประเทศ ซึ่งร่วมกันตีความทุนวัฒนธรรมไทยในมิติใหม่ผ่านการออกแบบที่ร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ใช้ทุนวัฒนธรรมและสร้างอัตลักษณ์สิ่งทอชุมชน” นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างการรับรู้และแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อนำไปต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหัตถกรรมสิ่งทอชุมชน อันจะก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลและโตไกลได้อย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมการการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ” ดำเนินงานตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้กลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ 1) ให้ทักษะใหม่ 2) ให้เครื่องมือทันสมัย 3) ให้โอกาสโตไกล และ 4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน ผ่านการพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ที่ผสมผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยเข้ากับมุมมองและความเชี่ยวชาญของนักออกแบบต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้าง Soft Power DNA ของดีพร้อม ที่เน้นการผสมผสานอัตลักษณ์กับ “การสร้างสรรค์และต่อยอด” ให้เกิดเสน่ห์ คุณค่า และเพิ่มมูลค่า ตลอดจน “โน้มน้าว” ให้เกิดการยอมรับ เปิดใจ และต้องการ “เผยแพร่” ให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก ซึ่งกิจกรรมนี้ มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม จำนวน 106 รายทั่วประเทศ นำเข้าสู่กระบวนการให้องค์ความรู้ในทุกมิติ ศึกษาดูงาน สัมมนาเชิงปฏิบัติการระหว่างนักออกแบบไทยและต่างประเทศ ในพื้นที่ชุมชนต้นแบบ 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย 1) ภาคเหนือ ได้แก่ ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านป่าตาล จ.เชียงใหม่ และ ชุมชนต้นแบบกลุ่มปัน(PUN) จ.เชียงใหม่ 2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ กลุ่มชุมชนทอผ้าพื้นเมืองเชียงหวาง จ.อุดรธานีขวัญตา handicraft จ.หนองบัวลำภู และฅญาบาติก จ.นครราชสีมา 3) ภาคกลาง : กลุ่มทอผ้าศรีอุทุมพร (วัดโพรงมะเดื่อ) จ.นครปฐม กลุ่มทอผ้าวงเดือน ผ้าจกไท-ยวน จ.นครปฐม และ กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านเกาะแรต จ.นครปฐม และ 4) ภาคใต้ ได้แก่ ดาหลา ปาเต๊ะ จ.สตูล บ้านยวนบาติก จ.สตูล และสตูลบาติก จ.สตูล จนเกิดการสร้างสรรค์พัฒนาสินค้าหัตถกรรมสิ่งทอไทยต้นแบบชุมชนจาก 4 ภูมิภาค จำนวน 12 คอลเลกชั่นที่นำมาจัดแสดงในงานวันนี้
15 ก.ย. 2568
“ดีพร้อมเลิศรัฐ” !! สุดยอดหน่วยงานคว้า “รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด” รางวัลเลิศรัฐ ปี 68 สะท้อนความสำเร็จองค์กรแห่งความเป็นเลิศการวางแผนยุทธ์ศาสตร์และสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
“ดีพร้อมเลิศรัฐ” !! สุดยอดหน่วยงานคว้า “รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด” รางวัลเลิศรัฐ ปี 68 สะท้อนความสำเร็จองค์กรแห่งความเป็นเลิศการวางแผนยุทธ์ศาสตร์และสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
จ.นนทบุรี 12 กันยายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมรับ “รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA)” ในงานประกาศผลรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 (ภาครัฐอัจฉริยะขับเคลื่อนอนาคต Smart Government & Smart Services: Driving for the Future) โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ให้เกียรติมอบรางวัลและกล่าวแสดงความยินดี พร้อมทั้งกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พลังขับเคลื่อนภาครัฐไทยสู่อนาคต ร่วมด้วย นางสาวอังสนา โสมาภา ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการทั้งระดับกระทรวง กรม ภูมิภาค และสื่อมวลชนจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลดังกล่าว ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 “รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) รายหมวด” หมวด 2 ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งรางวัลดังกล่าว มาจากผลการดำเนินงาน ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่มีแต่ให้” ด้วยกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการจัดทำยุทธศาสตร์ที่รองรับบริบทของการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดทำแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งกำหนดตัวชี้วัดในการติดตามประเมินผลที่ชัดเจน และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ พร้อมถ่ายทอดตัวชี้วัดดังกล่าวไปสู่ผู้ปฏิบัติงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรให้ดีพร้อมสามารถปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างดี โดย ”ดีพร้อม“ มีผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ทั้งในด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน ผ่านกลไกสำคัญต่าง ๆ อาทิ ส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม สนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ รวมถึงสร้างอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลดต้นทุนโลจิสติกส์แบบครบวงจร และยกระดับอุตสาหกรรม S-Curve โดยมีการติดตามและประเมินผลผ่านระบบ DIPROM E-Services เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการทบทวนและจัดทำแผนปฏิบัติราชการเชิงรุกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผลลัพธ์การดำเนินงานที่เป็นเลิศตามนโยบายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนา Soft Power ในสาขาอาหารและแฟชั่น โดยได้พัฒนาทักษะชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน และเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการด้านแฟชั่นถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย และพัฒนาแบรนด์สินค้าและขยายโอกาสทางการตลาดสู่สากล ทั้งนี้ “รางวัลเลิศรัฐ” (Public Sector Excellence Awards : PSEA) ถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่มอบให้หน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จ มีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงานรัฐทั้งปวง แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 1) รางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ 2) รางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม และ 3) รางวัลเลิศรัฐสาขา โดยการมอบรางวัลเลิศรัฐให้แก่หน่วยงานภาครัฐ นับเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาระบบราชการที่สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาการให้บริการและการพัฒนาองค์การของภาครัฐ เพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศในการปฏิบัติราชการที่สามารถปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการเพื่อพลิกโฉมการบริการที่มีมาตรฐาน และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างยั่งยืน
15 ก.ย. 2568
ดีพร้อม จับมือ มาเยคาว่า (ประเทศไทย) เดินหน้าขับเคลื่อนการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain) และเครื่องจักรแปรรูปเนื้อสัตว์ ช่วยส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่สากล
ดีพร้อม จับมือ มาเยคาว่า (ประเทศไทย) เดินหน้าขับเคลื่อนการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain) และเครื่องจักรแปรรูปเนื้อสัตว์ ช่วยส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่สากล
กรุงเทพฯ 8 กันยายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมประชุมหารือการส่งเสริมภาคการเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ร่วมกับ บริษัท มาเยคาว่า (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม บริษัท มาเยคาว่า จำกัด (MYCOM) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดย นายมาเยคาว่า คิซากุ (Mr. Maekawa Kisaku) ปัจจุบันถือเป็นผู้นำด้านการผลิตคอมเพรสเซอร์อุตสาหกรรม ออกแบบและติดตั้งระบบทำความเย็นสำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงพัฒนาระบบทำความเย็นที่ประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยสาร CFC โดยใช้สารทำความเย็นจากธรรมชาติ มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมีการผลิตเครื่องจักรแปรรูปเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะหุ่นยนต์เลาะกระดูกอัตโนมัติที่มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง ซึ่งให้บริการแก่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ การประชุมครั้งนี้ เป็นการหารือต่อเนื่องจากการที่ “ดีพร้อม” ได้ไปดูโรงงานผลิตของ บริษัท มาเยคาว่า จำกัด ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูปของไทย โดยการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติควบคู่ไปกับการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain) ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งเสริมการลงทุน และการยกระดับมาตรฐานการผลิตของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก ความร่วมมือนี้จะสนับสนุนให้ SMEs ไทย สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ และก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูปของไทย ให้มีขีดความสามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ด้วยการยกระดับห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะบุคลากรให้มีความรู้ในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน
15 ก.ย. 2568
“ปลัดณัฐพล” สั่งการ “อธิบดีณัฏฐิญา“ ลงพื้นที่เมืองล้านนา เปิดตัวศูนย์ออกแบบ Thai-IDC ขยายบริการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ภูมิภาค เดินหน้าปั้นนักออกแบบมือโปร พร้อมให้บริการครบวงจร
“ปลัดณัฐพล” สั่งการ “อธิบดีณัฏฐิญา“ ลงพื้นที่เมืองล้านนา เปิดตัวศูนย์ออกแบบ Thai-IDC ขยายบริการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ภูมิภาค เดินหน้าปั้นนักออกแบบมือโปร พร้อมให้บริการครบวงจร
จ.เชียงใหม่ 9 กันยายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมแสดงความยินดีในเปิดกิจกรรม “พัฒนาศักยภาพศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (DIPROM Thailand Industrial Design Center DIPROM Thai-IDC Get set Go)” โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธาน นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นผู้กล่าวรายงานและร่วมเปิดกิจกรรมดังกล่าว ร่วมด้วย นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ผู้แทนจากหน่วยงานหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 อ.เมืองเชียงใหม่ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวแสดงความยินดีในการเปิดตัวศูนย์ออกแบบ Thai-IDC ดีพร้อม และเปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้ปรับตัวเข้าสู่วิถีใหม่ โดยเน้นยกระดับศักยภาพการดำเนินธุรกิจของภาคอุตสาหกรรมทุกมิติ รวมถึงเชื่อมโยงการบริการให้บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะการนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ด้วยการใช้ “หัว” และ “ใจ” ในการให้บริการพร้อมปั้นอุตสาหกรรมให้เติบโตคู่ชุมชนอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยได้มอบหมาย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งดำเนินการขับเคลื่อนและสนับสนุนพลังสร้างสรรค์ ด้วยการพัฒนารูปแบบการให้บริการและบุคลากรของศูนย์ DIPROM Thai-IDC เพื่อเป็นเพื่อนคู่คิดผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ พร้อมเชื่อมโยงการบูรณาการกับหน่วยงานเครือข่ายตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจากการรับจ้างผลิตสู่การออกแบบและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ รวมถึงยกระดับศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดีพร้อมเร่งยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป โดยเฉพาะการปฏิรูปการทำงานในรูปแบบใหม่ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการให้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ และสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดีพร้อมได้ขยายเครือข่ายศูนย์ให้บริการควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรนักออกแบบ ซึ่งการเปิดศูนย์ DIPROM Thai-IDC ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (DIPROM Center 1) จ.เชียงใหม่ เพื่อให้บริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยบุคลากรของดีพร้อมที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำ ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายศูนย์ DIPROM Thai-IDC ระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค รวมทั้งการพัฒนารูปแบบและบริการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และความสามารถของบุคลากรดีพร้อมในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ อีกทั้ง การให้บริการเครื่องมือและเครื่องจักรต่าง ๆ ที่สนับสนุนการออกแบบอย่างครบวงจร รวมถึงสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากลต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์ DIPROM Thai-IDC มีให้บริการในส่วนกลางและภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 13 แห่ง เพื่อเชื่อมโยงหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐ - เอกชน และองค์กรต่าง ๆ เพื่อบูรณาการบริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์อย่างครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้บริการด้านการออกแบบแก่ผู้ประกอบการ สร้างเครือข่ายนักออกแบบ และเกิดผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 320 ล้านบาท
15 ก.ย. 2568
“ปลัดณัฐพล” แอ่วเหนือ ชื่นชม “อธิบดีณัฏฐิญา” เปิดบ้าน “ดีพร้อม” โชว์ศักยภาพ “DIPROM Center 1 Open House 2025” ยกระดับผู้ประกอบการพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ใช้กลไก 4 ให้ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจพื้นที่กว่า 700 ล้านบาท
“ปลัดณัฐพล” แอ่วเหนือ ชื่นชม “อธิบดีณัฏฐิญา” เปิดบ้าน “ดีพร้อม” โชว์ศักยภาพ “DIPROM Center 1 Open House 2025” ยกระดับผู้ประกอบการพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ใช้กลไก 4 ให้ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจพื้นที่กว่า 700 ล้านบาท
จ.เชียงใหม่ 9 กันยายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสดีพร้อม “เปิดบ้านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (DIPROM Center 1 Open House 2025) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวรายงานการขับเคลื่อนนโยบายดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ : ให้เครื่องมือที่ทันสมัย เปิดบ้านศูนย์ฯ ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 อ.เมืองเชียงใหม่ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้นโยบาย MIND ใช้ “หัว และ ใจ” โดยเฉพาะการบูรณาการทำงานร่วมกันของภาครัฐ-เอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อสร้างพลังความร่วมมือที่เข้มแข็งตามแนวทาง “MIND AS One” รวมพลังหลอมรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว นำไปสู่การยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้บนเวทีโลก ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) รับนโยบายข้างต้น จึงจัดกิจกรรม “เปิดบ้านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1” (DIPROM Center 1 Open House 2025) ในครั้งนี้ ที่สะท้อนถึงศักยภาพหน่วยงานในระดับภูมิภาคของดีพร้อม ซึ่งมีบทบาทเป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงทั้งในมิติภารกิจ (Function) ประเด็น (Agenda) และพื้นที่ (Area) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ยกระดับผู้ประกอบการ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ตลอดจนยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสร้างเครือข่าย สร้างแรงบันดาลใจ และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การขยายตลาด กระตุ้นให้เกิดการลงทุน และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะยาวอีกด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดีพร้อมดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งปฏิรูปการทำงานในรูปแบบใหม่ ที่สามารถตอบสนองต่อประเด็นเชิงมหภาคของภาคอุตสาหกรรม ผ่านหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาค โดยพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมีศักยภาพที่หลากหลาย ทั้งด้านทรัพยากร วัฒนธรรม และการค้าการลงทุน “ดีพร้อม” จึงมุ่งพัฒนากลไกสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในภูมิภาคนี้ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรม “เปิดบ้านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1” (DIPROM Center 1 Open House 2025) ซึ่งเป็นการนำเสนอแนวทางที่สอดรับกับกลยุทธ์ “4 ให้” ประกอบด้วย 1) “ให้ทักษะใหม่” ผ่านการเสวนาและบรรยายพิเศษ (Panel Discussion & Keynote Speech) เพื่อนำเสนอนโยบายภาครัฐ เทรนด์เศรษฐกิจโลก และโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ 2) “ให้เครื่องมือที่ทันสมัย” ผ่านการบริการต่าง ๆ ของศูนย์ภาคที่ 1 (Service Hub) ไม่ว่าจะเป็นให้คำปรึกษาแนะนำ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทดลองผลิต และเข้าถึงแหล่งเงินทุนของดีพร้อม 3) “ให้โอกาสโตไกล” ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย (Networking Service) เพื่อสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้พบกับพันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจ และ 4) “ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน” ผ่านนิทรรศการและการจัดแสดงผลสำเร็จการดำเนินงานที่สอดคล้องกับกระแสการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย (1) ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) (2) ความยั่งยืน (Sustainability) (3) สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และ (4) ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC - Creative LANNA) ทั้งนี้ จากการดำเนินงานทั้ง 4 ด้าน ที่ผ่านมา ดีพร้อม สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนกว่า 700 ล้านบาท พัฒนาวิสาหกิจไทย จำนวน 647 ราย และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 48,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งตอกย้ำบทบาทของดีพร้อมที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยอีกด้วย
12 ก.ย. 2568
“รองอธิบดีสุรพล” เข้าร่วมเปิดเวทีประกวด 12 ฝัน ปั้นนักธุรกิจอาหาร มุ่งส่งเสริมศักยภาพ ผปก. รุ่นใหม่ จัดโดย กรมคุมประพฤติ X สถาบันอาหาร กระทรวงอุตฯ หนุนก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่อย่างยั่งยืน
“รองอธิบดีสุรพล” เข้าร่วมเปิดเวทีประกวด 12 ฝัน ปั้นนักธุรกิจอาหาร มุ่งส่งเสริมศักยภาพ ผปก. รุ่นใหม่ จัดโดย กรมคุมประพฤติ X สถาบันอาหาร กระทรวงอุตฯ หนุนก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่อย่างยั่งยืน
กรุงเทพฯ 5 กันยายน 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดกิจกรรมประกวดแผนธุรกิจด้านอาหาร ในโครงการ “สร้างฝันธุรกิจอาหาร” โดยได้รับเกียรติจาก นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบรางวัลฯ พร้อมด้วย พันตำรวจตรีสุรียา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร การจัดกิจกรรมดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่กรมคุมประพฤติ ให้ความสำคัญของการสร้างอาชีพที่สุจริตและมั่นคง โดยต่อยอดจากโครงการ Street Food สร้างอาชีพ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งช่วยจุดประกายให้ผู้เข้าร่วมสามารถพัฒนาตนเองและกลับมาใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีคุณภาพ แต่ยังพบว่า มีหลายรายที่ขาดความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งทุน ทางกรมคุมประพฤติจึงได้ริเริ่มโครงการนี้เพื่อเสริมทักษะให้ครบวงจร ทั้งด้านการตลาด การจัดทำแผนธุรกิจ และการนำเสนอแก่สถาบันการเงิน โดยเป้าหมายไม่ใช่เพียงการเลี้ยงชีพ แต่เป็นการให้เครื่องมือเพื่อสร้างโอกาสและความภาคภูมิใจในชีวิต โครงการนี้จะช่วยปูรากฐานให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านอาหารอย่างมั่นคง และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก ซึ่งโครงการนี้มีผู้เข้ารับการอบรมออนไลน์ด้านธุรกิจอาหารกว่า 51 ราย โดยมีผู้ส่งแผนธุรกิจเข้าประกวดทั้งหมด 32 แผนธุรกิจ และผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย ทั้งหมดจำนวน 12 แผนธุรกิจ ซึ่งจะได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อปรับใช้ในธุรกิจจริง พร้อมทั้งมีโอกาสชิงเงินรางวัลเพื่อนำไปต่อยอดกิจการในอนาคต โดย กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมมือกับ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นพลังสำคัญในการเสริมทักษะอาชีพและสร้างโอกาสคืนคนคุณภาพสู่สังคม ผ่านความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม
11 ก.ย. 2568
“ดีพร้อม” เปิดพื้นที่ “Community Fair 2025” เชื่อมตลาด ผปก. ชุมชนภาคเหนือล่างและกลางบน ให้โอกาสโตไกล สร้างรายได้ กระตุ้น ศก. ในพื้นที่ให้ยั่งยืน ตามนโยบาย “อธิบดีณัฏฐิญา”
“ดีพร้อม” เปิดพื้นที่ “Community Fair 2025” เชื่อมตลาด ผปก. ชุมชนภาคเหนือล่างและกลางบน ให้โอกาสโตไกล สร้างรายได้ กระตุ้น ศก. ในพื้นที่ให้ยั่งยืน ตามนโยบาย “อธิบดีณัฏฐิญา”
จ. นครสวรรค์ 6 กันยายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “DIPROM Community Fair 2025 (เหนือล่าง/กลางบน)” ร่วมด้วย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครสวรรค์ ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน โดยมี นางเกษสุดา ดอนเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขึ้นกล่าวรายงาน ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์ งาน “DIPROM Community Fair 2025" เป็นกิจกรรมที่ดีพร้อมมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 (DIPROM Center 3) ที่มีศักยภาพและผลิตภัณฑ์โดดเด่น โดยเปิดโอกาสในการเพิ่มช่องทางการตลาด ส่งตรงสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการดำเนินงานเพื่อสอดรับกับกลยุทธ์ “ให้โอกาสโตไกล” หนึ่งในนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้กลยุทธ์ “4 ให้ 1 ปฏิรูป” ได้แก่ ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรไทย เข้าถึงตลาด เครือข่ายธุรกิจ แหล่งเงินทุน และองค์ความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ งานดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 กันยายน 2568 โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเด่นจากผู้ประกอบการ 16 กิจการ จาก 8 จังหวัด อาทิ ปลาแรดป็อป ผงกล้วยดิบ ชาโกโก้ ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่ ลพบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้คำปรึกษาทางธุรกิจ บริการ DIPROM Pay และโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
10 ก.ย. 2568
“ดีพร้อม” โชว์โมเดล L'ÉCOLE Asia Pacific โรงเรียนศิลปะเครื่องประดับชั้นนำ จุดประกายแรงบันดาลใจสู่วงการแฟชั่นและดีไซน์ไทย
“ดีพร้อม” โชว์โมเดล L'ÉCOLE Asia Pacific โรงเรียนศิลปะเครื่องประดับชั้นนำ จุดประกายแรงบันดาลใจสู่วงการแฟชั่นและดีไซน์ไทย
เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 4 กันยายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมด้วย ดร.วรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าศึกษาดูงานและเยี่ยมชมสถาบันการเรียนรู้ด้านศิลปะเครื่องประดับร่วมสมัย L'ÉCOLE Asia Pacific ณ ถนนซาลิสเบอรี จิมซาจุ่ย เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน L'ÉCOLE Asia Pacific, School of Jewelry Arts สถาบันการเรียนรู้ด้านศิลปะเครื่องประดับร่วมสมัย ภายใต้การสนับสนุนของ Van Cleef & Arpels ได้ก้าวขึ้นมาเป็น ศูนย์กลางองค์ความรู้ระดับโลก ที่หลอมรวมศาสตร์ด้านการออกแบบเครื่องประดับ ประวัติศาสตร์ศิลป์ และเทคนิคการสร้างสรรค์ที่ประณีต โดยเปิดกว้างให้ทั้งนักออกแบบ ศิลปิน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไปได้เข้าถึงองค์ความรู้ผ่านหลักสูตรเชิงลึก นิทรรศการ และเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติ จุดเด่นของ L'ÉCOLE Asia Pacific คือ มาตรฐานการออกแบบระดับสากล ถ่ายทอดโดยผู้เชี่ยวชาญและครูศิลป์จากยุโรปและเอเชีย การเรียนรู้เทคนิคชั้นสูง ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ วัสดุศาสตร์ ไปจนถึงการประดิษฐ์ชิ้นงานจริง รวมถึงการเชื่อมโยงศิลปะกับตลาด ด้วยแนวคิด Design-Driven Marketing ที่ช่วยให้งานศิลป์และเครื่องประดับสามารถสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้ พร้อมทั้งสามารถการสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติ เปิดโอกาสให้นักออกแบบและผู้ประกอบการได้พบปะ แลกเปลี่ยนกับนักวิชาการ ดีไซเนอร์ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ “รองอธิบดีดวงดาว” ให้แนวคิดจากการเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ว่าสามาาถนำไปต่อยอดให้ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทย ในการประยุกต์องค์ความรู้และไอเดียไปใช้ในการยกระดับศักยภาพได้ในหลายมิติ ได้แก่ การพัฒนาเทคนิคงานประณีต (Craftsmanship) เพิ่มคุณภาพและมูลค่าของเครื่องประดับและแฟชั่นไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลก การสร้างอัตลักษณ์ใหม่ (Identity Building) โดยสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวผสานทุนทางวัฒนธรรมไทยเข้ากับมาตรฐานสากล การตลาดเชิงดีไซน์ (Design Marketing) เพิ่มขีดความสามารถในการเจาะตลาดพรีเมียมและตลาดโลก ผ่านการเล่าเรื่องและการออกแบบที่ทรงพลัง รวมถึงการพัฒนาบุคลากรเชิงสร้างสรรค์ ช่วยให้นักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ SMEs ไทยก้าวสู่เวทีแฟชั่นและศิลปะร่วมสมัยนานาชาติได้อย่างงดงาม ทั้งนี้ L'ÉCOLE Asia Pacific ไม่ได้เป็นเพียงสถาบันการเรียนรู้ด้านเครื่องประดับ แต่เป็นแรงบันดาลใจ และต้นแบบการพัฒนาศักยภาพเชิงสร้างสรรค์ที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มคุณค่าและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องประดับไทยในตลาดโลก นับเป็นก้าวสำคัญของการต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ไทยในระดับสากลอย่างยั่งยืนต่อไป
08 ก.ย. 2568
“ดีพร้อม” สร้างแรงบันดาลใจจากศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ PMQ Hong Kong สู่การยกระดับอุตสาหกรรมออกแบบไทย
“ดีพร้อม” สร้างแรงบันดาลใจจากศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ PMQ Hong Kong สู่การยกระดับอุตสาหกรรมออกแบบไทย
เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 4 กันยายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมด้วย ดร.วรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าศึกษาดูงานและเยี่ยมชมศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง หรือ Police Married Quarters Hong Kong (PMQ Hong Kong) ณ ถนนอเบอร์ดีน เซ็นทรัล PMQ Hong Kong เป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ใจกลางฮ่องกง เป็นพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาใหม่จากอาคารประวัติศาสตร์ ให้กลายเป็น Creative Hub ที่รวบรวม นักออกแบบ ศิลปิน ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ และนักพัฒนาเทคโนโลยี เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานและเชื่อมโยงธุรกิจ จุดเด่นของ PMQ Hong Kong คือ เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่มีสตูดิโอกว่า 100 สตูดิโอ สำหรับนักออกแบบและผู้ประกอบการด้านแฟชั่น งานหัตถกรรม เครื่องประดับ และเทคโนโลยีสร้างสรรค์ มาสร้างสรรค์ผลงาน อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการนานาชาติและเทศกาลศิลปะที่เปิดพื้นที่ให้ผู้สร้างสรรค์ได้พบปะกับผู้ซื้อ นักลงทุน และนักวิจารณ์จากทั่วโลก รวมถึงการเวิร์กช็อปและกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ ทั้งด้านการออกแบบ การพัฒนาธุรกิจ และการใช้เทคโนโลยี พร้อมระบบบริหารจัดการพื้นที่ที่ยั่งยืน สนับสนุนทั้งการเช่าในราคาที่เหมาะสม และการสร้างชุมชนของผู้ประกอบการสร้างสรรค์ให้เติบโตไปด้วยกัน ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยสามารถนำรูปแบบความสำเร็จของ PMQ Hong Kong เป็นต้นแบบการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ในประเทศไทย ประกอบด้วย 1) พัฒนาศูนย์สร้างสรรค์ท้องถิ่น (Creative Hub) ในไทย เพื่อเป็นพื้นที่บ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ SMEs ด้านแฟชั่น ศิลปะ และดิจิทัลคอนเทนต์ 2) สร้างระบบเครือข่าย (Creative Network) เชื่อมโยงนักออกแบบไทยกับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสด้านการค้าและการลงทุน 3) จัดนิทรรศการและเวิร์กช็อประดับนานาชาติในไทย เพื่อต่อยอดศักยภาพ Soft Power และสร้างการรับรู้ต่อผลงานของนักออกแบบไทยในสายตาชาวโลก และ 4) ยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นและออกแบบไทย จากงานเชิงหัตถกรรมและท้องถิ่น สู่การออกแบบเชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ทั้งนี้ PMQ Hong Kong ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการออกแบบร่วมสมัย แต่ยังเป็นตัวอย่างของการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการจัดการพื้นที่เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยการเรียนรู้จาก PMQ Hong Kong จะช่วยให้ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยสามารถต่อยอดแนวคิดไปพัฒนา Creative Hub ในประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีนานาชาติ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป
08 ก.ย. 2568
“ดีพร้อม” เปิดติว สูตรเด็ดเชฟอาหารไทยมืออาชีพ ผลักดันพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารรสชาติไทย โตไกลสู่ตลาดโลก ผ่านทูตวัฒนธรรม
“ดีพร้อม” เปิดติว สูตรเด็ดเชฟอาหารไทยมืออาชีพ ผลักดันพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารรสชาติไทย โตไกลสู่ตลาดโลก ผ่านทูตวัฒนธรรม
จ.ปทุมธานี 4 กันยายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) “หลักสูตรอาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ (Authentic Thai Cuisine)” ภายใต้โครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สุมนมาลย์ เนียมหลาง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นายวิชิต เครือสุข รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้แทนหน่วยงานพันธมิตร และสื่อมวลชน ณ ห้องนครรังสิต 1 โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต การฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ หรือ Master Thai Chef Program จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และยกระดับทักษะบุคลากรด้านอาหารไทย โดยบูรณาการความร่วมมือกับศูนย์สร้างสรรค์อุตสาหกรรมอาหารไทย (THACCA) และโครงการ One Family One Soft Power (OFOS) ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหารไทยต้นตำรับ 50 เมนู เมนูอัตลักษณ์ท้องถิ่น 10 เมนู การจัดจานอาหาร เทคนิคบริหารจัดการครัว การควบคุมคุณภาพ ตลอดจนมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยอาหารตามหลักสากล โดยใช้ระยะเวลารวมกว่า 242 ชั่วโมง แบ่งเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านระบบ OFOS และ DIPROM E-Learning จำนวน 92 ชั่วโมง และการฝึกอบรมภาคสนาม 150 ชั่วโมง ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานจะได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 4 จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) รวมทั้งได้รับการส่งเสริมให้มีใบรับรองผู้สัมผัสอาหาร (Food Handler Standard) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและช่วยเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากลและส่งเสริมให้ประชาชนทุกครัวเรือนเข้าถึงการพัฒนาทักษะอาชีพได้อย่างเท่าเทียม นำไปสู่การมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็น “ทูตวัฒนธรรม” ถ่ายทอดอัตลักษณ์อาหารไทยสู่เวทีโลกต่อไป
08 ก.ย. 2568