โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” จับมือคนคอน พัฒนาปลาเค็มร้า ของดีชุมชนบ้านทอนตะเกียง
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” จับมือคนคอน พัฒนาปลาเค็มร้า ของดีชุมชนบ้านทอนตะเกียง
จ.นครศรีธรรมราช 7 มิถุนายน 2567 – นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มร้าปากน้ำกลาย โดยมี นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้เข้าร่วมอบรม เข้าร่วม ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มร้าปากน้ำกลาย ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา "กลุ่มปลาเค็มร้าปากน้ำกลาย" ก่อตั้งขึ้นหลังจากการเข้าอบรมโครงการ "ฝึกอบรมอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนตำบลกลาย" เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์จริยธรรมบ้านในไร่ หมู่ 11 ตำบลกลาย ซึ่งเป็นการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไปที่มีความสนใจ โดยมีการบรรยายและสอนกรรมวิธีการทำปลาเค็มร้า ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการส่งเสริมการตลาด ซึ่งภายหลังจากการอบรมในโครงการ ได้กลับมาทดลองทำรับประทานเองในครอบครัว พร้อมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาสูตรเฉพาะจนลงตัว จึงได้มีการชักชวนกันมาตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มร้าปากน้ำ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ การสร้างงานและสร้างรายได้เสริมเพิ่มเติมจากรายได้หลักของคนในชุมชน ภายใต้การส่งเสริมสนับสนุนของ นายยุทธยา พิมเสน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกลาย ตั้งแต่เริ่มคิดเริ่มทำ ให้คำชี้แนะปรึกษาแนวทางการดำเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ จนได้มีการรวมทุนกัน โดยมีสมาชิกจำนวน 15 คน การลงพื้นที่ในวันนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มร้าปากน้ำซึ่งมีความต้องการพัฒนาสินค้าในชุมชน ในการทำ “ปลาเค็มร้าปากน้ำกลาย” ของดีขึ้นชื่อชุมชนบ้านทอนตะเกียง ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เลือกสรรวัตถุดิบที่หาได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ปลากุเลา และปลากระบอก จากพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่หาปลาบริเวณปากน้ำกลาย สืบสานการใช้ภูมิปัญญาถนอมอาหารรุ่นปู่ย่าที่ถ่ายทอดกันมา ต่อยอดด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ในการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และในขณะนี้มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ทางกลุ่มได้ทำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด ได้แก่ ปลากุเลาเค็มร้า ปลากระบอกเค็มร้า ปลากุเลาแดดเดียว ปลากระบอกแห้ง ไตปลาบรรจุขวด ไตปลาแห้งสูตรเตาถ่าน หลนปลาเค็ม เป็นต้น โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาเค็มร้าปากน้ำกลายมีความต้องการในการพัฒนาสูตรสินค้าให้มีความโดดเด่น มีมาตรฐาน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ต้องการให้ภาครัฐเข้าไปสนับสนุนในเรื่องของเครื่องจักร อุปกรณ์การผลิต โดยเฉพาะตู้แช่ปลาขนาดใหญ่ และการปรับปรุงโรงตากปลา นอกจากนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะเดินหน้าขยายความร่วมมือตามนโยบาย DIPROM Connection กับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ พัฒนาผลิตภัณฑ์ปลาเค็มร้าปากน้ำกลายและเชื่อมโยงด้านการตลาดกับไปรษณีย์ไทยเพื่อขยายช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเตรียมแผนสำหรับขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อพัฒนาต่อยอดให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนดังกล่าวเป็นศูนย์เรียนรู้ปลาเค็มร้า ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนสินค้าชุมชนเป็นการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกระจายรายได้สู่ชุมชน และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง นำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนและมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับประเทศ
11 มิ.ย. 2567
เชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงพืชเศรษฐกิจสู่แนวทาง BCG Model (BCG Network)
เชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงพืชเศรษฐกิจสู่แนวทาง BCG Model (BCG Network)
เชิญผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงพืชเศรษฐกิจสู่แนวทาง BCG Model (BCG Network) ภายใต้โครงการ : การยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดำเนินการโดย : ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ระยะเวลาโครงการ มิถุนายน - กันยายน 2567 กลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบการ ผู้ปลูก/ผลิต ผู้แปรรูป และผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โกโก้ คุณสมบัติของผู้สมัคร เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ผู้ปลูก/ผลิต และแปรรูปโกโก้ สถานประกอบการมีการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือ ทะเบียนพาณิชย์ ประกอบกิจการในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ มีความประสงค์และมีความพร้อม ในการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมโกโก้ภาคเหนือ สู่แนวทาง BCG Model (BCG Network) กิจกรรมตลอดโครงการ ร่วมวิเคราะห์ความต้องการ ศักยภาพ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส อุปสรรค และกำหนดรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสม เพื่อผลักดันโกโก้สู่พืชเศรษฐกิจของพื้นที่ไปสู่สากล สร้างความสัมพันธ์ของการเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการโกโก้ภาคเหนือ ร่วมปลูกจิตสำนึก สร้างความเข้มแข็งในการเป็นเครือข่าย และการทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจร่วมกัน ร่วมพัฒนาเครือข่ายและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมโกโก้สู่แนวทาง BCG Model (BCG Network) ในลักษณะการพัฒนาโครงการนำร่อง (Pilot Project) โมเดลนำร่อง (Pilot Model) อาทิ การเจรจา/จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) การศึกษาดูงาน การเพิ่มผลิตภาพการผลิต การลดต้นทุน การส่งเสริมการขาย และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 12 มิถุนายน 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณหัสนัย 09 5631 3331 คุณพัฒน์ 08 6918 5553 คุณฐิติญาดา 09 9094 9646
10 มิ.ย. 2567
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สวนโกโก้ป้าเตี้ยงหัวคู
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สวนโกโก้ป้าเตี้ยงหัวคู
จ.นครศรีธรรมราช 6 มิถุนายน 2567 – นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่สวนโกโก้ป้าเตี้ยงหัวคู แปลงใหญ่สวนโกโก้สระแก้ว โดยมี นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงธิดา จันทร์พุ่ม อุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ แปลงใหญ่สวนโกโก้สระแก้ว ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา การรวมกลุ่มโกโก้แปลงใหญ่ตำบลสระแก้ว ตั้งขึ้นตามความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ตำบลสระแก้วและพื้นที่ตำบลใกล้เคียง เพื่อร่วมกันผลิตโกโก้คุณภาพ แก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ตัดปัญหาพ่อค้าคนกลาง นอกจากนี้ ยังทำให้เกษตรกรได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพสินค้า ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 40 ราย ลักษณะเด่นของโกโก้แปลงใหญ่ตำบลสระแก้ว คือ เป็นโกโก้พันธุ์ดั้งเดิมที่มีอายุมากกว่า 40 ปี เหมาะสำหรับการแปรรูปช็อคโกแลตเนื่องจากมีปริมาณน้ำมันสูง รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ผลโต เปลือกบางไส้เล็ก เมล็ดโต เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ตำบลสระแก้วและพื้นที่ตำบลใกล้เคียงแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบในเรื่องผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรและวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ สามารถนำองค์ความรู้และทรัพยากรในพื้นที่มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ ให้มีคุณลักษณะตรงกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการพัฒนาคุณภาพ ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ให้มีมาตรฐานตรงกับความต้องการของผู้บริโภค การลงพื้นที่ในวันนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มสวนโกโก้ป้าเตี้ยงหัวคูซึ่งมีต้องการการสนับสนุนในด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต โดยเฉพาะเครื่องโม่เมล็ดแห้ง 20 กิโลกรัม นอกจากนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 ได้เตรียมการจัดหลักสูตรการหมักโกโก้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านโกโก้ให้กับผู้ประกอบการต่อไป ซึ่งการสนับสนุนจากภาครัฐจะส่งผลให้มีการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของเศรษฐกิจฐานรากรองรับอนาคต นำไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพ มีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและการกระจายได้รายสู่ชุมชนภายในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เพิ่มขึ้น
07 มิ.ย. 2567
"รสอ.วาที" ติวเข้มบุคลากรเงินหมุนเวียนฯ พร้อมมอบนโยบายเพื่อยกระดับศักยภาพการทำงานอย่างมีประสิทธิผล
"รสอ.วาที" ติวเข้มบุคลากรเงินหมุนเวียนฯ พร้อมมอบนโยบายเพื่อยกระดับศักยภาพการทำงานอย่างมีประสิทธิผล
จ.นครนายก 6 มิถุนายน 2567 - นายวาที พีระวรานุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เป็นประธานเปิดงานสัมมนา หลักสูตร "การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรม ในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567" พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านเงินทุนหมุนเวียนฯ จากส่วนกลางและภูมิภาค ณ รอยัล ฮิลล์ กอล์ฟ รีสอร์ต แอนด์ สปา ตำบลสาลิกา อำเภอเมืองนครนายก การสัมมนาดังกล่าว เป็นการมอบนโยบายการปฏิบัติงานเงินทุนหมุนเวียนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อยกระดับการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกในการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการตามนโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต ภายใต้กลยุทธ์ ปรับเพิ่มการเข้าถึงโอกาส (RESHAPE THE ACCESSIBILITY) ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยการดำเนินงานของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยในปีนี้จะเป็นการยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การบริหารหนี้ค้างชำระโดยติดตามลูกหนี้ในปีแรกอย่างใกล้ชิด และเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้อย่างเต็มที่ พร้อมหามาตรการลดหนี้คงค้างและหาผู้รับสินเชื่อรายใหม่ เพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการขยายกิจการให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์การให้บริการเงินทุนหมุนเวียนฯ และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รสอ.วาทีฯ ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมถึงการปรับโครงสร้างทีมงานให้สร้างแรงจูงใจในการทำงาน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์สินเชื่อ และบริหารจัดการลูกค้าเงินทุนหมุนเวียนฯ ให้มีศักยภาพในการประกอบการธุรกิจผ่านเครื่องมือและกลไกต่าง ๆ ของดีพร้อม เพื่อให้มีความสามารถในการชำระหนี้ตามกฎหมายต่อไป
07 มิ.ย. 2567
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” เปิดอบรมแปรรูปอาหาร ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน
“รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา” เปิดอบรมแปรรูปอาหาร ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน
จ.นครศรีธรรมราช 6 มิถุนายน 2567 – นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “แปรรูปอาหาร” ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน โดยมี นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 นางดวงธิดา จันทร์พุ่ม อุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวัฒนา แก้วประจุ ผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ภาค 7 นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอท่าศาลา คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้เข้าร่วมอบรม เข้าร่วมงานดังกล่าว ณ ศาลาอเนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลกลาย อำเภอท่าศาลา การอบรมในวันนี้ จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผนวกกับวิถีและอัตลักษณ์ท้องถิ่น ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ และเติมเต็มโอกาสในการสร้างรายได้จากต้นทุนที่มีในพื้นที่ ส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุมชนเพื่อนำไปสู่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเชื่อมโยงการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม Soft power การจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “แปรรูปอาหาร” ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 200 คน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ โดยการสร้างองค์ความรู้และพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ประยุกต์ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ยกระดับวิสาหกิจชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนต่อไป โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการนำองค์ความรู้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอาชีพ กระจายรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง
07 มิ.ย. 2567
เชิญสมัครเข้าร่วม “กิจกรรมยกระดับสถานประกอบการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลให้ดีพร้อม
เชิญสมัครเข้าร่วม “กิจกรรมยกระดับสถานประกอบการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลให้ดีพร้อม
เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ภาคการผลิต เข้าร่วม กิจกรรมยกระดับสถานประกอบการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลให้ดีพร้อม ภายใต้โครงการ : การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและดิจิทัล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดำเนินการโดย : ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สิ่งที่ท่านจะได้รับ การให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ด้านการลดต้นทุน หรือลดการสูญเสีย (SMEs ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นไปตามเงื่อนไขเกณฑ์การคัดเลือกฯ และสิ้นสุดตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด) ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง และ ตรัง สมัครออนไลน์ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 16 มิถุนายน 2567 รับจำนวนจำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม วันวิสาข์ คงเพ็ชร 08 7550 9074
07 มิ.ย. 2567
เชิญผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนามาตรฐานสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย
เชิญผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนามาตรฐานสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย
เชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนามาตรฐานสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย (เกษตรปลอดภัย GAP และผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์) ประจำปีงบประมาณ 2567 ดำเนินการโดย : กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ระยะเวลาโครงการ มิถุนายน - กันยายน 2567 พื้นที่ดำเนินการ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สระบุรี และสมุทรปราการ หรืออื่น ๆ ที่ผ่านการเห็นชอบจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับ อบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านมาตรฐานเกษตรปลอดภัย GAP และผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และการจัดการระบบเกษตรอุตสาหกรรมที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค จำนวน 1 ครั้ง ได้รับการวินิจฉัยและวิเคราะห์ศักยภาพ เพื่อพัฒนามาตรฐานเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ จำนวน 1 ครั้ง ได้รับคำปรึกษาด้านการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการจัดทำมาตรฐาน ด้านเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ สารตกค้างหรือผลิตภัณฑ์ 6 ครั้งต่อ กิจการ ณ สถานประกอบการหรือสถานที่ที่เหมาะสม หรือ online ได้รับเกียรติบัตรการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนามาตรฐาน้กษตรปลอดภัย ด่วน รับสมัคร 35 กิจการ เท่านั้น รับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มิถุนายน 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ฝ่ายนวัตกรรมอาหาร คุณเครือวัลย์ 02 422 8688 ต่อ 9402 kruawan@nfi.or.th
07 มิ.ย. 2567
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมหลักสูตร ก้าวสู่ปรึกษาด้าน BCG เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมหลักสูตร ก้าวสู่ปรึกษาด้าน BCG เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
เชิญผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม หลักสูตร ก้าวสู่ปรึกษาด้าน BCG เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ดำเนินการโดย : กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เชิญชวนสถานประกอบการที่สนใจเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับการพัฒนาที่ปรึกษาไปพร้อมกับการพัฒนาสถานประกอบการ เข้าร่วมกิจกรรม “การฝึกภาคปฏิบัติ (On the job training) เพื่อพัฒนาที่ปรึกษาด้าน BCG เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” คุณสมบัติ เป็นกิจการที่ต้องการพัฒนาหรือปรับปรุงกิจการตามแนวทาง BCG Model เป็นสถานประกอบการที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา และชลบุรี สามารถให้ที่ปรึกษาเข้าฝึกปฏิบัติ ณ สถานประกอบ จำนวน 3 วัน ได้แก่ ครั้งที่ 1 : วันที่ 8, 9, 11, 16 ก.ค. 67 (เลือก 1 วัน) ครั้งที่ 2 : วันที่ 27 ก.ค. - 9 ส.ค. 67 (เลือก 1 วัน) ครั้งที่ 3 : วันที่ 13, 14, 19, 20, 21 ส.ค. 67 (เลือก 1 วัน) สิ่งที่สถานประกอบการจะได้รับ การวินิจฉัยและค้นหาโอกาสในการปรับปรุงกิจการด้าน BCG การวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดมาตรการปรับปรุงเบื้องต้น การประมาณการผลลัพธ์จากการปรับปรุงตามแนวทางของ BCG Model ผู้แทนบริษัทฯ เข้าร่วมอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในหลักสูตรนี้ จำนวน 1 ที่นั่ง สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณณัฐพร (09 8292 9676) คุณอัจจิมา (08 6907 4886)
06 มิ.ย. 2567
“รมว.พิมพ์ภัทรา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุมผู้บริหารระดับสูง อก. กำชับ เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในการขนย้ายกากอุตสาหกรรม พร้อมเผย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกใบอนุญาต รง.4 ได้เสร็จทันเป้าหมาย ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
“รมว.พิมพ์ภัทรา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุมผู้บริหารระดับสูง อก. กำชับ เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในการขนย้ายกากอุตสาหกรรม พร้อมเผย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกใบอนุญาต รง.4 ได้เสร็จทันเป้าหมาย ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
กรุงเทพฯ 5 มิถุนายน 2567 - นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ครั้งที่ 9 /2567 โดยมีนายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพิมพ์ภัทรา ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผ่านการออกใบอนุญาต รง.4 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากจีดีพีอุตสาหกรรมลดต่ำลงต่อเนื่อง จึงขอมอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมหามาตรการเพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการและทำแผนไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมครั้งถัดไป ทั้งนี้ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงปัญหาทางด้านแรงงานที่ส่งผลกระทบต่อโรงงานหลายแห่งจนต้องปิดตัวลง ดังนั้นในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องมีการคาดการณ์ตัวเลขโรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนี้ยังได้กำชับให้มีการสำรวจ สวัสดิการข้าราชการ อัตราตำแหน่งของอุตสาหกรรมจังหวัด รวมถึงตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังว่างลง และดำเนินการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้เพื่อเป็นเครือข่ายการทำงานของกระทรวงได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้สรุปผลสำเร็จจากการเดินทางเยือนมณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าพบหารือนักลงทุนจีน สาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบอัจฉริยะ กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม อนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง และจีนรายมณฑล นอกจากนี้ ทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ยังได้สรุปการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียม จำนวน 12,948 ตัน กลับไปฝังกลบที่ จังหวัดตาก ว่า ขณะนี้ได้ขนกลับไปแล้ว 47% หรือประมาณ 6,052 ตัน ใช้พื้นทีในโรงพักคอยไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการรองรับจึงได้มีการขยายพื้นที่ออกไปอีก 1,000 ตารางเมตร โดยได้ทำการบดอัดดิน ปูด้วย HOPE และแผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ เช่นเดียวกับการดำเนินการก่อนหน้า ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในปัจจุบันยังสามารถรับมือได้ ด้านความพร้อมของบ่อฝังกลบอยู่ระหว่างการประเมิน ตรวจสอบ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการยอมรับและสร้างความเข้าใจในการนำกากตะกอนแร่แคดเมียมไปฝังกลบ อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจุบันการขนย้ายกากแคดเมียม ต้องใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ 100% ด้วยข้อจำกัดในปริมาณรถ ซึ่งหากยังไม่สามารถหาจำนวนรถได้เพียงพอต่อการขนส่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการขนย้ายมากกว่ากำหนดการเดิมคือ 17 มิถุนายน ไปอีกประมาณ 10 วัน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน รมว.อุตสาหกรรม ได้สอบถามถึงการเร่งรัดออกใบอนุญาต รง.4 ให้แล้วเสร็จตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการยืนยันจากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ว่า คาดว่าจะแล้วเสร็จอย่างแน่นอนภายในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรมได้กำชับว่า จากนี้ไปขอให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม จัดทำแผนพร้อมรายงานอย่างต่อเนื่อง หากพบปัญหาอุปสรรคจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป ส่วนเรื่องการของงบกลางเพื่อขนย้ายสารเคมีจากโรงงาน วิน โพรเสส จังหวัดระยอง และเอกอุทัย ที่อำเภออุทัย และอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางอธิบดีกรมโรงงานฯ ได้นำเสนอแผนงบประมาณการจัดการของเสียในที่ประชุมเป็นครั้งแรก ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรม ได้ขอให้จัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและให้มาร่วมกันหารือเพื่อวางแนวทางต่อไป “เป็นโอกาสที่ดีที่ให้กรมโรงงานฯ ได้แสดงผลงานในสถานการณ์วิกฤตนี้ ท่านทำได้ดีแล้ว หลายปัญหาก็ได้รับการคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ท่านต้องสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญหาจะได้ช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ดิฉันเชื่อว่าท่านสามารถจัดการปัญหาวิกฤตเหล่านี้ได้ เนื่องจากเป็นปัญหาเดิม ๆ และครั้งนี้มีการลงดาบให้เห็นว่าถ้าใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ดังนั้นจึงควรออกแบบระบบให้รัดกุม ควบคุมได้ดีขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของกรมโรงงานฯ ที่สำคัญเรื่องการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ที่เรามองต่างมุมกันอยู่ เราต้องทำงานโดยยึดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ ” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว
06 มิ.ย. 2567
“ดีพร้อม” ประชุมบอร์ดบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่ 5/2567 ดันแผนพีอาร์สร้างการรับรู้ทั่วประเทศ
“ดีพร้อม” ประชุมบอร์ดบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่ 5/2567 ดันแผนพีอาร์สร้างการรับรู้ทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 4 มิถุนายน 2567 - นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่ 5/2567 พร้อมด้วย นายวาที พีระวรานุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเจตนิพิฐ รอดภัย ที่ปรึกษากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว ได้ร่วมกันพิจารณาแผนปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของเงินทุนหมุนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ในช่วงระยะเวลา 15 มิ.ย. 2567 – 30 ก.ย. 2568 การดำเนินงานประกอบด้วย การจัดทำแผนเชิงป้องกันการเปิดลูกหนี้ค้างชำระเกิน 1 ปีเพิ่มขึ้น โดยให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึก เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้ผ่านเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้น พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภายนอกในการส่งต่อผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อเข้าถึงบริการสินเชื่อของเงินทุนหมุนเวียนฯ และจัดให้มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อสร้างการรับรู้ไปยังผู้ประกอบการในภาคการผลิต ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้เพิ่มประเด็นในส่วนของการบูรณาการด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุกร่วมกับหน่วยงานส่วนภูมิภาคและหน่วยงานภายนอก เพื่อขยายฐานการรับรู้ในบริการและผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ
05 มิ.ย. 2567