ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการเสวนาสิทธิประโยชน์ทั้งภาครัฐและวิสาหกิจเพื่อสังคม พร้อมอุดหนุนสินค้าและบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคม ภายในงาน “Government - SE Matching day : รัฐรวมพลังจับคู่ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน" ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค. 2565 เวลา 09.30 -1 5.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ) โดยสามารถลงทะเบียนเข้ารวมกิจกรรมได้ที่ ช่องทางการติดต่อ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) www.osep.or.th 02-2462344-8 info@osep.mail.go.th สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม - สวส. LINE : https://lin.ee/oxPnD2E

กรุงเทพฯ 22 สิงหาคม 2565 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในงานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 36 มหกรรมคุณภาพภาครัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 33 มหกรรมคุณภาพภาคราชการและโรงพยาบาลประจำปี 2565 และ มหกรรมคุณภาพข้ามสายงาน ครั้งที่ 5 ร่วมด้วย คณะกรรมการจัดงานสมาคมส่งเสริมคุณภาพแห่งประเทศไทย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) และบุคลากรจากหน่วยงานภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคราชการ และโรงพยาบาลโดยมี นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting ดีพร้อม ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมคุณภาพแห่งประเทศไทย ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 36 ปีแล้ว รวมถึง มหกรรมคุณภาพภาครัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 33 มหกรรมคุณภาพภาคราชการและโรงพยาบาลประจำปี 2565 และ มหกรรมคุณภาพข้ามสายงาน ครั้งที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การทำกิจกรรมคุณภาพในหน่วยงานแพร่หลายยิ่งขึ้นและมีการพัฒนาคุณภาพงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยแพร่และสนับสนุนกิจกรรมคุณภาพในทุก ๆ ภาคอุตสาหกรรม ภาคราชการ ภาครัฐวิสาหกิจ ทั้งการผลิตและการบริการ ตลอดจนเปิดโอกาสให้กลุ่มคุณภาพรุ่นใหม่ ๆ ได้มีเวทีสำหรับการเสนอผลงานอย่างต่อเนื่อง และเพื่อคัดเลือกกลุ่มคุณภาพยอดเยี่ยมจากภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคราชการ และโรงพยาบาลเพื่อเป็นตัวแทนระดับประเทศไปเข้าร่วมเสนอผลงานในมหกรรมคุณภาพนานาชาติ ทั้งนี้ ในปีนี้มีกลุ่มคุณภาพที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม และผ่านการคัดเลือกรอบแรกทั้งสิ้น 102 กลุ่ม แบ่งออกเป็น ภาคอุตสาหกรรม 45 กลุ่ม ภาครัฐวิสาหกิจ 6 กลุ่ม กลุ่มภาคโรงพยาบาล 48 กลุ่ม และกลุ่มคุณภาพข้ามสายงาน 3 กลุ่ม ผลการดำเนินกิจกรรมในปีที่ผ่านมาของกลุ่มคุณภาพที่มานำเสนอในปีนี้ หน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้กับองค์กรได้กว่า 100 ล้านบาท อาทิ กลุ่ม PTT CRUDE OIL TRADING จาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 176 ล้านบาท กลุ่ม Moving for Better จาก บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 18 ล้านบาท กลุ่ม Apple team จาก บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ 10.5 ล้านบาท โดยเป็นการนำเสนอผลงานคุณภาพรูปแบบ Hybrid Meeting (On-site และ On-line) ผ่านระบบ Zoom Meeting และสามารถรับชมผ่าน Facebook Live เป็นระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 22 - 26 สิงหาคม 2565 ###PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 21 สิงหาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารดีพร้อม (DIPROM) ลงพื้นที่ช่วยชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต ภายใต้ โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม หรือ อาชีพดีพร้อม พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือการลงทะเบียนและประเมินผลผ่านระบบ job.diprom เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ณ ศาลาการเปรียญ วัดทองธรรมชาติ คลองสาน ต่อเนื่องวันที่สอง อธิบดีณัฐพล ลงพื้นที่ช่วยชุมชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต พร้อมพบปะและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยประชาชนรู้สึกขอบคุณดีพร้อมที่มีกิจกรรมดี ๆ มาช่วยให้ชาวชุมชนในพื้นที่คลองสานเห็นแนวทางการลดค่าครองชีพและนำอาชีพเสริมไปปรับใช้ ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัวต่อไป ขณะเดียวกัน อธิบดีณัฐพล ยังเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดีพร้อมประเมินผลการดำเนินงานผ่านระบบ job.diprom ซึ่งเป็นระบบในการลงทะเบียนและประเมินความพึงพอใจของประชาชนที่เข้ารับบริการจากโครงการอาชีพดีพร้อม และเป็นฐานข้อมูลในการสำรวจความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการของดีพร้อมต่อไป ซึ่งการประเมินผลจากระบบดังกล่าวจะทำให้การประเมินผลเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลอย่างชัดเจนเพื่อให้โครงการอาชีพดีพร้อมเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ โครงการอาชีพดีพร้อมเป็นการดำเนินงานเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการเพิ่มทักษะและรายได้ให้ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านรูปแบบหลักสูตรการพัฒนา 4 หลักสูตรหลัก ๆ ได้แก่ หลักสูตรที่ 1 กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต หลักสูตรที่ 2 กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการบริการ หลักสูตรที่ 3 กิจกรรมพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และหลักสูตรที่ 4 กิจกรรมพัฒนาต่อยอดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพชุมชน ให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และอาชีพในชุมชน อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตและมีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 20 สิงหาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวเปิดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิตในรูปแบบการอบรมฝึกอาชีพระยะสั้น จำนวน 4 ฐาน พร้อมพัฒนาระบบ job.diprom รองรับการดำเนินงานภายใต้ โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม หรือ อาชีพดีพร้อม ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ศาลาการเปรียญ วัดทองธรรมชาติ คลองสาน กิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมที่เริ่มจัดวันแรกในพื้นที่เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยการพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต ประกอบด้วย 2 หลักสูตร ดังนี้ 1. หลักสูตรลดรายจ่าย และ 2. หลักสูตรเพิ่มรายได้ ซึ่งจะเป็นการลดค่าครองชีพให้กับครอบครัว รวมถึงสามารถสร้างรายได้และอาชีพเสริมให้กับชุมชน โดยกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม หรือ อาชีพดีพร้อม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเพิ่มทักษะการประกอบการธุรกิจให้กับชุมชน ซึ่งจะสามารถช่วยยกระดับศักยภาพชุมชน เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และอาชีพในชุมชน อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตและมีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สำหรับโครงการอาชีพดีพร้อม ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง กรอบวงเงิน 1,249 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเพิ่มทักษะและรายได้ให้ชุมชนกว่า 400 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งเป้าในการพัฒนาประชาชนกว่า 700,000 ราย และคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านบาท โดยดำเนินการผ่านรูปแบบหลักสูตรการพัฒนา 4 หลักสูตรหลัก ๆ ได้แก่ หลักสูตรที่ 1 กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต หลักสูตรที่ 2 กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการบริการ หลักสูตรที่ 3 กิจกรรมพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และหลักสูตรที่ 4 กิจกรรมพัฒนาต่อยอดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ดีพร้อมได้ดำเนินโครงการ “DIPROM ยกระดับสินค้าชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก นำสู่รายได้คืนถิ่นชุมชน ซึ่งเป็นการนำร่องในพื้น 7 จังหวัด ได้แก่จ.สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สงขลา ชลบุรี และยะลา ซึ่งสามารถสร้างทักษะอาชีพให้กับประชาชนได้กว่า 2,000 ราย ขณะเดียวกัน ยังฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศภายหลังวิกฤตโควิด-19 ให้สามารถฟื้นตัวกลับมาอย่างเข้มแข็ง ด้วยการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ถึง 24.7 ล้านบาท หรือคิด 8.82 เท่า ของงบประมาณที่ดำเนินการดังกล่าว ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

จ.นนทบุรี 18 สิงหาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลการใช้เทคโนโลยีการเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ 2565 และกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ร่วมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) และผู้ประกอบการ เข้าร่วมพิธีดังกล่าว โดยมี นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้าจัดประกวดการใช้เทคโนโลยีการเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ DIPROM Agro-Machinery Award 2022 อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยี การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้กลับคืนสู่ท้องถิ่นชุมชน รวมถึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นกว่า 40% ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา "เครื่องจักรชุมชนดีพร้อม" ด้วยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะส่งผลงานเครื่องจักรและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าประกวด จำนวน 179 ทีม เช่น เครื่องกวนอัตโนมัติ ตู้อบ เครื่องอัดขึ้นรูป เครื่องบรรจุของเหลว เครื่องเกลาข้อหวายหรือลบข้อหวาย เครื่องสาวไหมอัตโนมัติ เครื่องควบคุมการตากแห้ง เครื่องแยกเนื้อมะม่วงสุก เครื่องซีลสายพานพร้อมระบบเติมไนโตรเจน เครื่องตรวจสอบน้ำหนักกึ่งอัตโนมัติ ระบบบำบัดควันและระบบแจ้งเตือนมลพิษ เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับเสียงตอบรับจากวิสาหกิจชุมชนเป็นอย่างดี และสอดคล้องตามความต้องการของผู้รับบริการส่งผลให้เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพในการดำเนินธุรกิจเกษตรชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 140 ล้านบาท สำหรับการประกวดครั้งนี้ มีผู้ได้รับรางวัล ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลุ่มด้านเทคนิค จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลชนะเลิศ 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องกวนอัตโนมัติ พร้อมระบบสายพานลำเลียง 2) รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องตรวจสอบน้ำหนักกึ่งอัตโนมัติ และ 3) รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องกวนแยมอัตโนมัติ 2. กลุ่มด้านการพัฒนาธุรกิจ จำนวน 3 รางวัล ดังนี้ 1) รางวัลชนะเลิศ 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องอัดปลาร้าก้อน 2) รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 1 แบบอย่าง ได้แก่ ถังกวนเฉาก๊วย และ 3) รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องแยกเนื้อมะม่วงสุก และ 3. กลุ่มด้านวิชาการ จำนวน 2 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลดีพร้อมแชร์ 1 แบบอย่าง ได้แก่ ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ 2 ระบบ สั่งงานแบบไร้สาย และ 2) รางวัลดีพร้อมเทค 1 แบบอย่าง ได้แก่ เครื่องอัดใบไม้ทำภาชนะ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ดีพร้อม ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อตอบโจทย์กำลังการผลิตและเกิดความคุ้มค่ากับระดับการผลิตของวิสาหกิจ รวมถึงสามารถลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปจนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้กับสินค้าเกษตรทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอีกด้วย ###PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขอเชิญร่วมสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ "คว้าโอกาสธุรกิจ เกาะติดเทรนด์ “กัญชา-สุรา-อาหารแห่งอนาคต" ให้ดีพร้อม" ครบเครื่องทุกเรื่องเกี่ยวกับกัญชา สุรา เบียร์ ไม่ว่าปลูก ผลิต หรือจำหน่าย พร้อมติดตามเทรนด์อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ความท้าทายที่ธุรกิจอาหารไทยไม่ควรพลาด พบทุกคำตอบและตอบทุกข้อสงสัยจากนักวิชาการ-กูรูผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน สัมนาออนไลน์ ผ่านทางระบบ Zoom Meeting วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 13.00 - 14.00 น. หัวข้อ “ครบทุกเรื่องกัญชา : ปลูก-ใช้-ขาย ทำอย่างไร? ให้ปลอดภัยและถูกต้อง” คุณณีรนุช อาภาจรัส ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมอนามัย ศ.ดร.ภญ.บังอร ศรีพานิชกุลชัย คณะเภสัชศาสตร์ คณะกรรมการขับเคลื่อนการวิจัยและ พัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลา 14.00 - 16.00 น. หัวข้อ “มหัศจรรย์ Cannabis : ปรับมุมคิด ทำธุรกิจกัญชาแบบสร้างสรรค์” คุณอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท โคราชไมโครบรู จำกัด คุณมารุต ชุ่มขุนทด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Class Café เวลา 16.00 – 16.30 น. หัวข้อ “สุราก้าวหน้า : กฎใหม่! ธุรกิจสุรา โอกาสของผู้ผลิตรายย่อยจริงหรือ?” ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย แอดมินแฟนเพจ Surathai เวลา 16.30-18.00 น. หัวข้อ “ร่วมวงธุรกิจน้ำเมา ตลาดนี้…เงินสะพัด!” คุณอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ กรรมการ บริษัท ไอเอสทีบี จำกัด คุณณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์ บริษัท นนทบุรีบรูอิ้ง จำกัด (เดวา ฟาร์ม) คุณทวีชัย ทองรอด ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์สุราขาว สังเวียน จ.สุพรรณบุรี วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 เวลา 13.00-13.30 น. หัวข้อ “Future Food จุดเปลี่ยนธุรกิจอาหาร โอกาส ความท้าทายที่ต้องรับมือ!” คุณวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์อาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เวลา 13.30-15.00 น. หัวข้อ “เปลี่ยนเทรนด์เป็นกำไร กลยุทธ์ความสำเร็จธุรกิจ Future Food” คุณกันตพงษ์ ธนโชติวรพงศ์ Co-Founder บริษัท มอร์ฟู้ดส์ อินโนเทค จำกัด คุณแพรวพราย ก้องเกียรติไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคคูนิก จำกัด คุณศิริเพ็ญ สุนทรมั่นคงศรี กรรมการบริหารบริษัท เซซามิลค์ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถาม 08-4555-0802 กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม #กัญชา #สุรา #เบียร์ #อาหารแห่งอนาคต #ธุรกิจอาหาร #ธุรกิจเครื่องดื่ม #sme #ผู้ประกอบการ #เอสเอ็มอี #สัมมนาออนไลน์

กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2565 - นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม อก.1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีณัฐพล ได้นำเสนอแนวทางดำเนินงานโครงการที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง โครงการ "พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม" วงเงิน 1,249 ล้านบาท เพื่อสร้าง "อาชีพดีพร้อม" ให้ประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ 700,000 คน พร้อมเปิดวีดิทัศน์เผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการ “พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม” ภายใต้กลไก 7 วิธี ปั้นชุมชนดีพร้อม ที่ได้รับอนุมัติงบกลางจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ทั้งนี้ ปกอ. ได้ปรบมือแสดงความชื่นชมโครงการดังกล่าว พร้อมมอบหมายให้หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ทีมผู้ตรวจ และผู้บริหารของ อก. ให้การสนับสนุนการดำเนินงาน ซึ่งถือเป็นโครงการที่ได้รับงบกลางจำนวนมาก ในวงเงิน 1 ใน 3 ของงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมดของ อก. ในปี 2566 โดยเน้นการขับเคลื่อนการดำเนินงานในการสำรวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ พร้อมติดตามประเมินผลการดำเนินงานและผลลัพธ์ของโครงการ โดยปฏิบัติตามระเบียบพัสดุในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ ธพว. ร่วมลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์สินเชื่อต่าง ๆ ของ อก. ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีกด้วย ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน

กรุงเทพฯ 17 สิงหาคม 2565 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมผู้บริหารดีพร้อม (DIPROM) ครั้งที่ 75-4/2565 ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom Meeting การประชุมในครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญแจ้งในที่ประชุมทราบ ประกอบด้วย 1. การชี้แจงและติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้รับการจัดสรรให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 2. การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยที่มีอัตราดอกเบี้ย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนหมุนเวียนฯ มีศักยภาพในการดำเนินงานมากขึ้น โดยประกอบด้วย 2 รูปแบบ 1) สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการระยะเวลาการกู้ยาว (Loan for SMEs by Tenor) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่แบบขั้นบันได เริ่มต้นที่ร้อยละ 5 ต่อปี 2) สินเชื่อพิเศษเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ดีพร้อม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการของดีพร้อม ที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเป็นแหล่งเงินทุนในการหมุนเวียนกิจการและต่อยอดธุรกิจ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่แบบขั้นบันได เริ่มต้นที่ร้อยละ 3 ต่อปี ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีมติร่วมกันให้แต่ละหน่วยนำเสนอรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อขอรับสินเชื่อทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น และ 3. การเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณและผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เงินกันเหลื่อมปี) และปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของแต่ละหน่วยงานในดีพร้อม ###PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 17 สิงหาคม 2565 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมสักการะพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมวางพวงมาลัยไหว้ศาลพระภูมิประจำกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ บริเวณชั้น 6 และชั้นดาดฟ้า อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) เนื่องในโอกาส การเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้และทักษะอาชีพพื้นฐานที่จำเป็น ด้านการผลิตและการบริการ ด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ เป้าหมายการพัฒนา 700,000 คน สร้างกลไกเข้าถึงการสร้างมูลค่าในวัสดุท้องถิ่นเพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนในพื้นที่ ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

จ.นนทบุรี 13 สิงหาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมเปิดงาน ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดในครั้งนี้ ร่วมด้วย คณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี คณะผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด อธิบดีณัฐพล ได้นำทีมคณะ มท.1 เยี่ยมชมบูธของ ดีพร้อม (DIPROM) ในฐานะภาคีเครือข่ายที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ได้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมีในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “ไทยใต้หล้า สืบศาสตร์ศิลป์ ผ้าถิ่นลายไทย” โดยบูธของดีพร้อม แบ่งเป็น 3 โซน ดังนี้ โซนที่ 1 การจัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยจัดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เป็นการจัดแสดงผ้าไหมทอลายช่อกนกกุสุมา ส่วนที่ 2 การจัดแสดงการสาธิตการทอผ้า การสาวไหม ย้อมเส้นไหมด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ และการการสาธิตเครื่องเงิน พร้อมทั้งการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาจากกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้ง 4 ภาค และผู้ประกอบการจากชุมชนดีพร้อม ได้แก่ 1. การสาธิตการทอผ้า สาวไหม ย้อมเส้นไหม ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ 2. การประยุกต์และต่อยอดอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาเพื่อสร้างมูลค่าและสร้างรายได้ และ 3. การสาธิตเครื่องเงิน ตอกลาย และตีประเกือม (ประคํา) แผ่นโลหะเงิน ขณะเดียวกัน ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าต่าง ๆ ได้แก่ ผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ผ้าฝ้ายชาติพันธุ์ ผ้าบาติก กระเป๋าผ้าทอสีธรรมชาติ ผ้าย้อมคราม ผ้ามัดย้อม ผ้าสีธรรมชาติกรีนโปรดักส์ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมแต้มหมี่ และ ส่วนที่ 3 การแสดงเดินแบบผ้าไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนา ของดีพร้อม ภายใต้แนวคิด “แฟชั่นผ้าไทยชุมชนดีพร้อม” โดยการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ 1. Wellness Spa Concept เป็นชุดผ้าไทยที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและทรัพยากรที่มี 2. ชุดผ้าไทยจาก 4 ภูมิภาค และ 3. ชุดชาติพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP จากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน จำนวน 40 บูธ ซึ่งได้รับการพัฒนาและสนับสนุนจากดีพร้อม โซนที่ 2 กิจกรรม DIY (Do it yourself) เป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านความคิดสร้างสรรค์ในการ ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้จากวัสดุเหลือใช้และวัสดุอื่น ๆ โดยวิทยากรที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้าน จากมูลนิธิหัตถศิลป์สยามและจากหน่วยงานต่าง ๆ หลักสูตรการอบรม ประกอบด้วย การประดิษฐ์หุ่นกระบอกไทยจิ๋ว เทคนิคการปักเลื่อมเลื่อมและอุปกรณ์ตกแต่งเสื้อผ้า งานศิลปะบนแผ่นไม้ การประดิษฐ์ดอกไม้แขวนผนัง การทําน้ำยาซักผ้าไหม (สูตรถนอมเส้นใยไหม) และการทํากระเป๋าผ้าปักริบบิ้น โซนที่ 3 เป็นการประชาสัมพันธ์แนวทางการดําเนินงานและการพัฒนา OTOP ของดีพร้อม และการดําเนินงานอื่น ๆ รวมถึงมีมีบูธของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย เพื่อให้บริการคําปรึกษาแนะนําในด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการและบูธของศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) อีกด้วย สําหรับงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ปี 2565 จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบรอบ 90 พรรษา และด้วยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อ การอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้น้อมนําเอาแนวพระราชดําริดังกล่าวไปขยายผลในการพัฒนา และส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนกันอย่างกว้างขวาง รวมถึงโครงการหนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังได้ร่วมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและสิ่งทอต่อยอดการพัฒนาลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศศักดาและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทย ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนพัฒนาต่อยอดด้านช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP พร้อมเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างสมดุลและยั่งยืนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น อีกทั้ง เป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยภายในงาน ประกอบด้วย 1) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระพันปีหลวงที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ 2) การจัดแสดงไฮไลท์ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนตลาด กลางเส้นไหม และเส้นใยธรรมชาติ 3) การจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และหน่วยงานภาคีต่าง ๆ และ 4) การจําหน่ายสินค้า OTOP รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ระหว่างวันที่ 12 -20 สิงหาคม 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว