กรุงเทพฯ 2 มีนาคม 2566 - นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (อสอ.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน DIPROM ไทยเลิศ 12 อัศจรรย์แหล่งผลิต ผลิตภัณฑ์ไทยชั้นเลิศ ภายใต้โครงการยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อทดสอบตลาด (Market Test) ผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน รวมถึงเปิดโอกาสและช่องทางใหม่ให้กลุ่มผู้ประกอบการทั้ง 12 ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ทดสอบตลาดผ่านช่องทางการขายในตลาดทุกรูปแบบ โดยมี นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตมากกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นางสาวประเทือง พฤกษาพิทักษ์กุล เลขานุการกรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ณ ลาน EDEN ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ถนนพระรามที่ 1

ดีพร้อม ดึงภาคเอกชน ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงเพื่อพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ นําร่องโชว์เคส 6 แหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เฟสแรก จาก 12 อัศจรรย์แหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ไทยชั้นเลิศ มาต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง มีอัตลักษณ์ของชุมชนตนเองที่มีความโดดเด่น มีคุณค่า และมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคสู่การเป็น “ผลิตภัณฑ์ไทยชั้นเลิศ” (Top Premium Product) ผ่านกลยุทธ์ “Partnership Coaching” มี 4 กูรูธุรกิจ ร่วมให้คําแนะนําเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ได้แก่ คุณสุพิชชา กาญจนวิสิษฐผล ทายาทผลิตภัณฑ์ซอสหอยนางรมตราเเม่ครัว คุณกรธิดา ธนะกมลาประดิษฐ์ แบรนด์น้าจิ้มสุ กี้ซันซอส คุณต่อจันทร์ แคทริน บุณยสิงห์ (เชฟเช้า) เจ้าของคาเฟ่ ‘Bite Me Softly’ และคุณสุปรีดา โสตะวงศ์ (นิค) เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีทแฟชั่น ‘Auntys Haus’ โดยผู้ประกอบการจะได้รับการติดอาวุธทางธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มีผลประกอบการในระดับดี ผลิตภัณฑ์อยู่ในความต้องการของตลาด และผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ออกไปแข่งขันในตลาดในต่างประเทศได้ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน และคาดว่าผู้ประกอบการจะมีรายได้จากการจําหน่ายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อรายไม่น้อยกว่าร้อยละ 30

สำหรับในเฟสแรกนี้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์พรีเมียม จาก 6 ชุมชนนําร่อง ประกอบด้วย 1. ชุมชนศรีพราน ผลิตภัณฑ์อินโตฟาร์ม ซึ่งแปรรูปเมล่อนสดให้กลายเป็นของฝาก อาทิ แยมเมล่อน ไอศกรีมเจลลาโต้เมล่อน 2. ชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย เป็นการชุบชีวิต “ขนมกระแดกงา” ขนมโบราณให้กลายเป็นขนมรูปแบบใหม่ยืดอายุผลิตภัณฑ์โดยไม่ใส่วัตถุกันเสีย และการต่อยอดนําเครื่องสังคโลกปรับโฉมสู่ “ชุดดริปกาแฟสังคโลก” 3. ชุมชนบ้านแหลม ด้วยการพัฒนาเครื่องจักรสานจากผักตบชวามาเป็นของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และ “ชาใบเตย หอม” ที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี 4. ชุมชนบ้านตม ซึ่งพัฒนาเครื่องหอมอโรม่า ถุงหอม เทียนหอม เพื่อนําไปใช้ในธุรกิจสปา และผลิตภัฒฑ์จากดอกไม้ทานได้ อาทิ สาโท ฟ้าอําไพ ที่แรกและที่เดียวที่นําดอกเฟื่องฟ้ามาหมักรวมกับผลไม้รสเปรี้ยวของไทย 5. ชุมชนบ้านเดื่อ การพัฒนาไอเดียนํามะเดื่อมาแปรรูปเป็น “คราฟเบียร์มะเดื่อ” เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหรือกลุ่มชาวต่างชาติ และ 6. ชุมชนบ้านวอแก้ว เป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมให้เป็นผลิตภัณฑ์ของฝาก อาทิ พุดดิ้งนมสดคาราเมล ครีมชีส และกรีก โยเกิร์ต

ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าว ยังมีการเสวนากิจกรรมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ชุมชนดีพร้อม” กับผู้บริหารดีพร้อมและผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนรุ่นใหม่จากหลายสาขาอาชีพ พร้อมทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากวิสาหกิจชุมชนทั้ง 6 ชุมชนอีกด้วย ### PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว