โทรศัพท์ 1358
“ปลัดณัฐพล“ นำทีม “ดีพร้อม” บินตรงเมืองขามแก่น ร่วมงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 พร้อมโชว์ศักยภาพยกระดับอุตฯ สร้างสรรค์ ชู “วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ไม่สิ้นสุด” หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย
“ปลัดณัฐพล“ นำทีม “ดีพร้อม” บินตรงเมืองขามแก่น ร่วมงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 พร้อมโชว์ศักยภาพยกระดับอุตฯ สร้างสรรค์ ชู “วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ไม่สิ้นสุด” หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย
จ.ขอนแก่น 28 มิถุนายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ และนายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมเปิดงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 Isan Creative Festival 2025 (ISANCFbobe) และเยี่ยมชมนิทรรศการการเผยแพร่ผลงานอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) โดยมี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าว และนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต้อนรับ ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ขอนแก่น (TCDC) งานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” เพื่อแสดงศักยภาพของซอฟต์พาวเวอร์อีสานที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความงดงามและเสน่ห์ทางวัฒนธรรม แต่สามารถต่อยอดสู่การสร้างรายได้ การจ้างงาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จริง นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ทดลองอนาคตของเศรษฐกิจไทย วัฒนธรรม และการพัฒนาเมืองที่เปิดให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการคืนถิ่น การสร้างย่านสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกับนักออกแบบท้องถิ่น สะท้อนถึงศักยภาพที่เปล่งประกายสู่ระดับประเทศและระดับโลก อีกทั้ง ยังเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจที่ต่อยอดให้กลายเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ทั้งในระดับภูมิภาคและประเทศ ในโอกาสนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการแสดงเผยแพร่ผลงานการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ภาคอีสานของดีพร้อม โดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 5 6 และ 7 ภายในงานเทศกาลฯ ครั้งนี้ ผ่านแนวคิด "วงจรที่ไม่สิ้นสุด : ReThink - ReDesign - ReBorn" เป็นการนำเสนอการดำเนินงาน Circular Economy ผ่าน "วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์" โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน 1 : ReThink - คิดใหม่ ตั้งแต่ต้นน้ำเริ่มที่ความเข้าใจ โดยเป็นการชวนตั้งคำถามกับระบบเศรษฐกิจเดิมที่ใช้แล้วทิ้ง และเปิดมุมมองใหม่ว่าสิ่งของที่เราใช้มี "ชีวิต" ที่ยาวนานกว่าที่คิด โซน 2 : ReDesign - ออกแบบใหม่ กลางน้ำให้ใช้ซ้ำ เพื่อยืดชีวิตสิ่งของเพื่อความยั่งยืน โดยนำเสนอแนวคิดการออกแบบไม่ใช่แค่สวย หรือใช้ได้ แต่ต้องคิดถึงผลกระทบตลอดวงจรชีวิตของสินค้า ยิ่งคิดเพื่อให้ "ไม่ต้องทิ้ง" ได้มากเท่าไรยิ่งใกล้ Circular Economy มากเท่านั้น และ โซน 3 : ReBorn - คืนชีพให้วัสดุเดิมในรูปแบบใหม่ ให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านแนวคิดของเก่าไม่ต้องจบชีวิตที่ถังขยะ หากเราคืนชีพให้มันในรูปแบบใหม่ - ไม่ใช่แค่รีไซเคิล แต่คือการให้ "คุณค่าใหม่" ทั้งนี้ มีการนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพัฒนาจากดีพร้อมมาจัดแสดงภายในงาน อาทิ เฟอร์นิเจอร์จากเศษผ้าทอพื้นเมือง กระเป๋าแฟชั่นจากผ้าทอใบลาน เครื่องประดับจากเมล็ดพืชพื้นถิ่น (เมล็ดกระดิน) เครื่องประดับจากเศษผ้าไหม นำมาผสานความคิดใหม่ (ReThink) การออกแบบใหม่เพื่อความยั่งยืน (ReDesign) และการเกิดใหม่ของผลิตภัณฑ์ (ReBorn) ไม่ใช่แค่การรีโซเคิล แต่ คือการ "คิดใหม่ ออกแบบใหม่ และคืนชีพใหม่" ให้กับทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อโลกที่ยั่งยืน โดยตลอด 9 วันของการจัดงาน มีนักสร้างสรรค์จากภาคอีสานและภูมิภาคอื่น ๆ มาร่วมกว่า 900 คน เครือข่ายต่างประเทศกว่า 9 ประเทศ คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมงานกว่า 300,000 คน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
01 ก.ค. 2568
“รองอธิบดีดุสิต” นำทีมคัดเลือกผู้ประกอบการรับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี 2568 ด้านการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม
“รองอธิบดีดุสิต” นำทีมคัดเลือกผู้ประกอบการรับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี 2568 ด้านการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม
กรุงเทพฯ 25 มิถุนายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2568 ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม ครั้งที่ 2/2568 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 อาคารกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ณ ดีพร้อม พระราม4 (DIPROM Rama IV Campus) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้ร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานของสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกในเบื้องต้น โดยมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์การสมัคร คือ เป็นกิจการที่ดำเนินการผลิตมาแล้ว อย่างน้อย 3 ปี และปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐานสากล หรือมาตรฐานภายในประเทศในการดำเนินงาน เช่น ISO 9001, ISO 14001, TS 16949, GMP, HACCP, HALAL, ISO 22000ม SEDEX และ GI 3 รวม 11 กิจการ โดยได้มีการซักถาม และลงคะแนนตามเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก 6 หมวด ประกอบด้วย 1) ด้านความสามารถในการบริหารจัดการขององค์กร มุ่งสู่ความสำเร็จทางธุรกิจเกิดความสมดุลและยั่งยืนเชิงประจักษ์ 2) ด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีภายในองค์กร พร้อมนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต 3) ผลการดำเนินการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขององค์กร 4) ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยการทำกิจกรรมสอดรับกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน เพื่อดูแลสังคมโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม 5) องค์กรมีการผลักดันการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิด BCG Economy Model มาประยุกต์ใช้เพื่อความยั่งยืน และ 6) สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้คนในชุมชนรอบอุตสาหกรรม กระจายรายได้และส่งเสริมธุรกิจเพื่อชุมชน ทั้งนี้ สถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในครั้งนี้ จะเข้าสู่รอบ Site Visit โดยคณะทำงานฯ จะมีกำหนดการลงพื้นที่ เพื่อประเมินสถานประกอบการที่มีความเหมาะสมในการรับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประจำปี 2568 ภายใต้หลักแนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ครอบคลุมนโยบาย MIND 4 มิติ ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
27 มิ.ย. 2568
“อธิบดีณัฐฏิญา” แท็คทีมดีพร้อม เตรียมจัดบิ๊กอีเว้นท์ส่งท้ายปี มหกรรม “เสน่ห์ไทย” (Thai Vibe by DIPROM) โชว์อัตลักษณ์ แสดงศักยภาพ การเชื่อมโยงและต่อยอด Soft Power อาหารผ่านสาขาที่เกี่ยวข้องหนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล
“อธิบดีณัฐฏิญา” แท็คทีมดีพร้อม เตรียมจัดบิ๊กอีเว้นท์ส่งท้ายปี มหกรรม “เสน่ห์ไทย” (Thai Vibe by DIPROM) โชว์อัตลักษณ์ แสดงศักยภาพ การเชื่อมโยงและต่อยอด Soft Power อาหารผ่านสาขาที่เกี่ยวข้องหนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล
กรุงเทพฯ 25 มิถุนายน 2568 - นางสาวณัฐฏิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดงานมหกรรม “เสน่ห์ไทย” ภายใต้โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ครั้งที่ 1/2568 พร้อมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประธานคณะทำงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว เป็นการเตรียมการจัดงานมหกรรม “เสน่ห์ไทย” (Thai Vibe by DIPROM) THAILAND INDUSTRY EXPO 2025 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงผลสำเร็จของการดำเนินงาน Soft Power สาขาอาหาร โดยการนำเสนออัตลักษณ์และเสน่ห์ของอาหารไทยที่มีความหลากหลาย ซึ่งผ่านการพัฒนาจาก “ดีพร้อม” และถ่ายทอดในรูปแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยประสบการณ์จริง นอกจากนี้ ยังเป็นแสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่เชื่อมโยงและต่อยอดจาก Soft Power สาขาอาหาร ออกมาให้เห็นผ่านสาขาอื่น ๆ ด้วย อาทิ หัตถอุตสาหกรรม สิ่งทอและแฟชั่น และศาสตร์ของสุขภาพและความงาม โดยภายในงาน จะมีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เจ้าของแบรนด์ท้องถิ่น และ SMEs มีเวทีในการโชว์ศักยภาพอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับเทรนด์โลกเพื่อผลักดัน "Thai Soft Power" สู่นานาชาติ สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล โดยฝ่ายเลขานุการฯ ได้นำเสนอรูปแบบของการจัดงานฯ ภายใต้แนวคิด " Soft Power Thai : สู่โลกผ่านอาหาร แฟชั่น และศิลปะ" ซึ่งมีการกำหนดรูปแบบการนำเสนอภายในงานเบื้องต้น ได้แก่ (1) พื้นที่สำหรับแสดงให้เห็นถึงภารกิจของดีพร้อม (DIPROM) ในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยด้วยรากฐานจากชุมชนและส่งต่ออัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” (2) อาหารไทย 4 ภาค: เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์และเสน่ห์ของอาหาร 4 ภาคของไทย ผ่านรูปแบบ Street Food ยอดนิยม อาหารพื้นถิ่นที่น่าสนใจ และอาหารไทยประยุกต์รวมไว้ด้วยกัน (3) ความหลากหลายของแฟชั่นหรือหัตถอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับการส่งต่อและร้อยเรียงผ่านศิลปะของอาหารไทย (Thai Fashion / Thai Craft) เป็นการนำเสนอโดยอาจสื่อสารผ่านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบไทยสไตล์ โดยจะมีการเปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าชมงานได้ชมการสร้างสรรค์ ลงมือทำ และพบปะผู้ผลิตงานฝีมือต่าง ๆ (4) การนำเสนอความหลากหลายของเมล็ดกาแฟและโกโก้สายพันธุ์ไทยจากแหล่งปลูกทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอผ่านเมนูสร้างสรรค์ รวมถึงกิจกรรมการทดลองชงและชิม (5) การนำเสนอศาสตร์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความงาม และภูมิปัญญาแบบไทย ๆ ผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและวิธีการบำบัดแบบไทย โดยอธิบดีณัฏฐิญา ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดพื้นที่ภายในงานว่า สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน 4 ภาค มีการกำหนดแลนด์มาร์คและจุดเช็คอินที่สามารถดึงดูดความน่าสนใจจากผู้เข้าร่วมงานให้ไปเยี่ยมชมในแต่ละโซนได้อย่างทั่วถึง พร้อมดึงอัตลักษณ์ประจำถิ่นผนวกกับการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น โดยจะมีทั้งเรื่องของอาหาร แฟชั่น ศิลปะและการออกแบบ และสุขภาพ ที่สะท้อนถึงกลิ่นอายของแต่ละพื้นถิ่น เสน่ห์ความเป็นไทย และพลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งในส่วนของเวทีกลางควรมีการจัดกิจกรรมอบรมด้านอาหารทั้ง 7 หลักสูตรเฉพาะ รวมทั้ง การจัดกิจกรรมสาธิตการปรุงเมนูอาหาร ตลอดจนการนำเสนอผลสำเร็จการยกระดับและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้มีการสร้างการรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ การใช้นักแสดงและอินฟลูเอ็นเซอร์เพื่อสร้างคอนเทนต์รีวิว รวมถึงการสร้าง Story Telling ของแต่ละโซนเพื่อเป็นการบอกต่อและเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ คณะทำงานได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ดำเนินการปรับรูปแบบการวางแผนผังของงานตามข้อคิดเห็น เพื่อมานำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป โดยคาดว่างานมหกรรม “เสน่ห์ไทย” (Thai Vibe by DIPROM) THAILAND INDUSTRY EXPO 2025 ดังกล่าว จะจัดในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
27 มิ.ย. 2568
“รองอธิบดีดวงดาว" เข้าร่วมประชุมบอร์ดสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เตรียมพร้อมจัดงานใหญ่ Bangkok Gems ครั้งที่ 72 ลุยเสริมทัพโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ
“รองอธิบดีดวงดาว" เข้าร่วมประชุมบอร์ดสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เตรียมพร้อมจัดงานใหญ่ Bangkok Gems ครั้งที่ 72 ลุยเสริมทัพโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ
กรุงเทพฯ 24 มิถุนายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 โดยมีคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 6 อาคารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ การประชุมดังกล่าว ผู้ร่วมประชุมได้ร่วมพิจารณาวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานและส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยเห็นชอบการกำหนดราคาการขายพื้นที่สื่อประชาสัมพันธ์ในงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 72 พร้อมทั้งอนุมัติการใช้เงินสะสมจากรายได้ค่าบริหารจัดการงานดังกล่าว เพื่อจัดจ้างผู้ให้บริการดำเนินการด้านสื่อประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้ให้ความเห็นชอบการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ เรื่องการจัดกิจกรรมภายใต้ โครงการซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy with Confidence) ระหว่างสถาบันฯ กับ กลุ่มบริษัทพันธมิตร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการส่งเสริมการค้าในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ พร้อมกันนี้ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ มีการรายงานข้อมูลต่าง ๆ ให้คณะกรรมการได้รับทราบ ประกอบด้วย 1) สถานการณ์การนำเข้าและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2568 เพื่อประเมินภาพรวมและแนวโน้มของตลาด 2) รายได้จากผลการดำเนินงานและกิจกรรมการตลาดประจำ เดือนพฤษภาคม 2568 เพื่อเป็นการติดตามความคืบหน้าและประสิทธิภาพของการดำเนินงาน และ 3) สรุปผลการศึกษาดูงานที่นครอะรูชา สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและแลกเปลี่ยนความรู้ในต่างประเทศ และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยต่อไป
27 มิ.ย. 2568
"รองอธิบดีดวงดาว" สั่งทีม เดินหน้าประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนใน 4 มิติ ตามนโยบาย MIND ของปลัดณัฐพล
"รองอธิบดีดวงดาว" สั่งทีม เดินหน้าประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนใน 4 มิติ ตามนโยบาย MIND ของปลัดณัฐพล
กรุงเทพฯ 23 มิถุนายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2/2568 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ผู้แทนสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของดีพร้อมร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การประชุมครั้งนี้ มีการรายงานการทบทวนรูปแบบการประเมินและปรับแก้เกณฑ์การประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และพิจารณารายชื่อผู้สมัครเข้ารับการประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยในปีนี้มีผู้สมัครประสงค์เข้ารับการประเมินฯ จำนวนทั้งสิ้น 30 ราย มีผู้ผ่านคุณสมบัติพื้นฐาน จำนวน 28 ราย และผ่านเกณฑ์การประเมินฯ เบื้องต้น โดยได้คะแนนผ่านเกณฑ์ 70 คะแนนขึ้นไป จำนวน 18 ราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์ ซึ่งการประเมินสมรรถนะร่วมที่ปรึกษาอุตสาหกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและพัฒนาที่ปรึกษาอุตสาหกรรมให้มีสมรรถนะและความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการ ตลอดจนเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน และหน่วยส่งเสริม SMEs ให้สามารถเข้าถึงและได้รับบริการจากที่ปรึกษาอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งนี้ รองอธิบดีดวงดาว ให้ข้อเสนอแนะว่าควรมีการศึกษาวิเคราะห์ฐานข้อมูลที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (Supply) กับความต้องการของผู้รับบริการ (Demand) ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงเร่งให้มีการนำที่ปรึกษาของดีพร้อมเข้าสู่ระบบการพัฒนา เพื่อเป็นการกำหนดกลไกและผลักดันให้เกิดการใช้งานที่ปรึกษาอุตสาหกรรมที่ผ่านการประเมินสมรรถนะฯ ซึ่งเป็นการขยายตลาดการให้บริการแก่ SMEs อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนเป็นการสั่งสมความเชี่ยวชาญให้แก่ที่ปรึกษาเฉพาะด้านให้มากขึ้น โดยที่ปรึกษาเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับบริบทและทิศทางการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนตามนโยบาย MIND ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
27 มิ.ย. 2568
"เอกนัฏ" ลงพื้นที่เมืองสองแคว ชมผลงาน "ดีพร้อม" หนุนใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ปั้นเมนูอาหาร ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชนวังทอง ดัน Soft Power ไทย
"เอกนัฏ" ลงพื้นที่เมืองสองแคว ชมผลงาน "ดีพร้อม" หนุนใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ปั้นเมนูอาหาร ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชนวังทอง ดัน Soft Power ไทย
จ. พิษณุโลก 23 มิถุนายน 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ "เสริมทักษะอาชีพสู่ Soft Power ชุมชนให้ดีพร้อม" หลักสูตร "อาหารพื้นบ้าน ทำง่าย ขายคล่อง Soft Power ไทย" โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมในชุมชนวังทอง และคณะสื่อมวลชน โดยมี นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ ณ ศูย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอวังทอง กิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "เสริมทักษะอาชีพสู่ Soft Power ชุมชน ให้ดีพร้อม หลักสูตร อาหารพื้นบ้าน ทำง่าย ขายคล่อง Soft Power ไทย" เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยดีพร้อมมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น และสอดรับกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งใช้ "การพัฒนาที่ยั่งยืน" เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 มิติสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการแข่งขัน การได้รับการยอมรับจากชุมชนและสังคม การตอบโจทย์กติกาสากลด้านสิ่งแวดล้อม และการกระจายรายได้สู่ชุมชน ภายใต้นโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ดำเนินการตามกลยุทธ์ "4 ให้" ได้แก่ ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล และให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน ก่อนเริ่มกิจกรรมการฝึกอบรม ”รัฐมนตรีเอกนัฏ“ ได้ให้เกียรติมอบฉลากบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบโดยดีพร้อมให้ผู้ประกอบการกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชนจำนวน 5 ราย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากนั้นได้เยี่ยมชมฐานฝึกอาชีพด้านการทำอาหารหลากหลายหลักสูตร ซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อของอำเภอวังทอง ได้แก่ น้ำพริกเห็ดทรงเครื่องสมุนไพร ไข่เค็มสมุนไพร และปลาส้มสมุนไพร เพื่อยกระดับอาหารไทย ผ่านการส่งเสริมการใช้อัตลักษณ์ภูมิปัญญาและวัตถุดิบในท้องถิ่น ซึ่งอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการเกษตรสูง เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศและทรัพยากรธรรมชาติที่เอื้ออำนวย ทำให้มีวัตถุดิบหลักที่หลากหลาย การบูรณาการวัตถุดิบเหล่านี้เข้ากับการแปรรูป จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมเศรษฐกิจของอำเภอวังทองให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งสอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูธสาธิตเครื่องบรรจุกระป๋องจากดีพร้อม และบูธให้คำแนะนำจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการเริ่มต้นธุรกิจและขยายโอกาสทางการตลาด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน จากหลายตำบลในอำเภอวังทอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความพร้อมของชุมชนในการพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
27 มิ.ย. 2568
"ดีพร้อม" จับมือ JICA เร่งเดินหน้าพัฒนาเครือข่าย RISMEP ดัน Smart SMEs ในพื้นที่ ให้โตได้ นำร่องเหนือ ใต้ อีสาน ตามนโยบาย "รวอ.เอกนัฏ"
"ดีพร้อม" จับมือ JICA เร่งเดินหน้าพัฒนาเครือข่าย RISMEP ดัน Smart SMEs ในพื้นที่ ให้โตได้ นำร่องเหนือ ใต้ อีสาน ตามนโยบาย "รวอ.เอกนัฏ"
กรุงเทพฯ 20 มิถุนายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม แนวทางการขับเคลื่อนโครงการ Smart Factory for Local SMEs Towards Thailand 4.0 Through Regional Integrated SME Promotion (RISMEP) โดยมี นายซุนซูเกะ ซาคูโดะ หัวหน้าผู้แทนองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น ผู้แทนภาครัฐ ผู้แทนภาคเอกชน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ JICA พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของดีพร้อมร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโซน 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การประชุมดังกล่าว เป็นการหารือร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กับ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ในการดำเนินโครงการระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2568-2571) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับเครือข่าย RISMEP ให้สามารถให้บริการ ส่งเสริม และผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคให้ก้าวสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ โดยดีพร้อมได้แนะนำความเป็นมาและภาพรวมโครงการ RISMEP ใน 3 พื้นที่นำร่อง คือ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี และผู้เชี่ยวชาญจาก JICAได้นำเสนอเป้าหมาย วัตถุประสงค์ แนวทาง และกรอบการดำเนินการโครงการ Smart Factory for Local SMEs Towards Thailand 4.0 Through Regional Integrated SME Promotion (RISMEP) ระหว่างปี พ.ศ. 2568 – 2571 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและเห็นชอบองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานร่วมโครงการ (Project Joint Coordinating Committee : JCC) ภายใต้โครงการ RISMEP รวมถึงมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้การดำเนินโครงการสามารถตอบสนองผู้รับบริการและเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลสูงสุด “รองดวงดาว” กล่าวว่า โครงการนี้จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีพร้อมและ JICA "ร่วมสร้าง" มูลค่าเพิ่มได้ โดยอาศัยความร่วมมือที่ยาวนานและแข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกันพัฒนารูปแบบ และช่องทางการเข้าถึงการบริการส่งเสริมวิสาหกิจอย่างง่ายและครบวงจร ผ่านการเชื่อมโยง และส่งต่อบริการของสมาชิกเครือข่าย โดยผู้ประกอบการสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยงานใดก็ได้ภายในเครือข่าย RISMEP ซึ่งรูปแบบการดำเนินการดังกล่าว จะช่วยกระจายการให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ SME ตลอดจนวิสาหกิจชุมชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งดำเนินการแล้วใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 – 11 เป็นผู้ขับเคลื่อนกลไกดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายและที่ปรึกษาธุรกิจในพื้นที่ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ได้พัฒนารูปแบบเพื่อยกระดับการให้บริการที่ตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับ SMEs ในพื้นที่ภูมิภาค ผ่านการนำระบบ IoT และ Digitalization มาปรับใช้ในธุรกิจ พร้อมเสริมทักษะให้ผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงตามมิติใหม่ของโลกยุคปัจจุบัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาและยกระดับทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ไทย และสอดรับกับนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งพัฒนาให้ผู้ประกอบการไทยเดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับรูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ และพร้อมก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าในการส่งมอบบริการของเครือข่าย RISMEP ให้กับ SMEs ในพื้นที่ได้
26 มิ.ย. 2568
“เอกนัฏ” นำทีม ลงพื้นที่ ชื่นชม “ดีพร้อม” โชว์ผลสำเร็จยกระดับ ดึงวัตถุดิบพื้นถิ่น "ตาลโตนด" ปั้นสินค้าชุมชนต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ชุมชนวัดโบสถ์
“เอกนัฏ” นำทีม ลงพื้นที่ ชื่นชม “ดีพร้อม” โชว์ผลสำเร็จยกระดับ ดึงวัตถุดิบพื้นถิ่น "ตาลโตนด" ปั้นสินค้าชุมชนต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ชุมชนวัดโบสถ์
จ. พิษณุโลก 22 มิถุนายน 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ"เสริมทักษะอาชีพสู่ Soft Power ชุมชนให้ดีพร้อม" หลักสูตร "การย้อมสีธรรมชาติจากต้นตาลพื้นฐานภูมิปัญญาพื้นถิ่นวิถีชุมชน" โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประชาชนชุมชนวัดโบสถ์ ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม และ คณะสื่อมวลชน โดยมี นายนิสิต สวัสดิเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ ณ อาคารเอนกประสงค์วัดบ้านน้ำคบ อำเภอวัดโบสถ์ กิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "เสริมทักษะอาชีพสู่ Soft Power ชุมชนให้ดีพร้อม" เป็นกิจกรรมที่ดีพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น ภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มุ่งส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีทิศทาง สอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งใช้ "การพัฒนาที่ยั่งยืน" เป็นพลังกับคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังสร้าง "พลังแห่งสมดุล" ครอบคลุมทั้ง 4 มิติสำคัญ ได้แก่ ความสามารถ ในการแข่งขัน การได้รับการยอมรับจากชุมชนและสังคม การตอบโจทย์กติกาสากล ด้านสิ่งแวดล้อมและการกระจายรายให้สู่ชมชนรวมถึงการผลักดัน "นโยบายซอฟต์พาวเวอร์" ของรัฐบาล เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบนพื้นฐานของทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ด้านการออกแบบแฟชั่นไทย ที่ได้รับการส่งเสริมและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าภาคภูมิใจของในขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ บนฐานวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่นนั้น ภายใต้นโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยการดำเนินกลยุทธ์ "4 ให้" ได้แก่ ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล และให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน "จังหวัดพิษณุโลก" เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดจนแหล่งท่องเที่ยว และธรรมชาติที่ดีพร้อมมุ่งผลักดันให้เป็นจุดเริ่มต้นของการจุดประกายการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนของภาคเหนือตอนล่างด้วยการ "ให้ทักษะใหม่" ผ่านการส่งเสริมการใช้อัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นพัฒนาให้ร่วมสมัย เพิ่มมูลค่า และขยายโอกาสทางการตลาดซึ่งในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ดีพร้อมได้ดำเนินการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร "การย้อมสีธรรมชาติจากต้นตาล พื้นฐานภูมิปัญญาพื้นถิ่น เช็คอินวิถีชุมชน" โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดทักษะการย้อมสีจากวัตถุดิบพื้นถิ่นอย่างต้นตาล ผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับแนวคิดร่วมสมัย เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจของชุมชนภายใต้แนวคิด Soft Power ซึ่งจะสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดพิษณุโลกได้อย่างชัดเจน เป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
26 มิ.ย. 2568
รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ เปิดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ MIND - PRESS SPORT DAY ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ เปิดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ MIND - PRESS SPORT DAY ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
วันนี้ (21 มิถุนายน 2568) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ MIND - PRESS SPORT DAY ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ณ สนามกีฬาแบดมินตัน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บางซื่อ กรุงเทพฯ โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมด้วยนางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ด้านประชาสัมพันธ์ของกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เข้าร่วม และมีนายปรเมศวร์ นิสากรเสน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ให้การต้อนรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เป็นโอกาสอันดีที่คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ด้านประชาสัมพันธ์ของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาแบดมินตันกับผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความรัก ความสามัคคีต่อกันแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ทุกท่าน มีสุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และขอขอบคุณบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ด้านสถานที่จัดกิจกรรม รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านอื่น ๆ เป็นอย่างดี ขอขอบคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ได้สละเวลาในวันหยุดมาร่วมกิจกรรมกับพวกเราชาวกระทรวงอุตสาหกรรม และขอบคุณคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมกีฬาแบดมินตันจะเป็นการแข่งขันทีมชายคู่ 8 คู่ หญิงคู่ 8 คู่ และคู่ผสม 12 คู่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือ ทีมม่วงซ่า ประกอบด้วย ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ หน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทีมฟ้าแซ่บ ประกอบด้วย ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำหรับผลการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ปรากฎว่า ทีมสีฟ้า (นักข่าว) เป็นฝ่ายชนะ ส่วนการประกวดขบวนพาเหรดและกองเชียร์ ทีมสีม่วง (กระทรวงอุตฯ) เป็นฝ่ายชนะ
23 มิ.ย. 2568
“อธิบดีณัฏฐิญา” ร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมฯ เตรียมความพร้อมเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด รุ่นที่ 1
“อธิบดีณัฏฐิญา” ร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมฯ เตรียมความพร้อมเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด รุ่นที่ 1
กรุงเทพฯ 20 มิถุนายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด : เตรียมความพร้อมเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด รุ่นที่ 1 โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมถ่ายภาพกับผู้เข้าร่วมฝึกอบรม ณ โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ การฝึกอบรมในวันสุดท้ายนี้ เป็นกิจกรรมการเสวนา “ระบบข้อมูล การบริหารจัดการข้อมูล การกำกับติดตามสถานประกอบการตาม พ.ร.บ. และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การบันทึกข้อมูลในระบบ” โดยมี นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายธีรทัศน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมโรงงงานอุตสาหกรรม นางสาวอารยา ไสลเพชร รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นางพงษ์ศิริ วรรณศรี รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ และตอบข้อซักถาม สำหรับหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด : เตรียมความพร้อมเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด แบ่งเป็น 2 รุ่น ๆ ละ 40 คน โดยรุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 และรุ่นที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2568
23 มิ.ย. 2568