“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65


01 ก.ย. 2565    somjair    65

กรุงเทพฯ 31 สิงหาคม 2565 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมชี้แจงการกำหนดมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 2565  ร่วมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom Meeting

การประชุมในครั้งนี้ ประธานได้แจ้งประเด็นสำคัญพร้อมขอความร่วมมือในการปฏิบัติงานและการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย

  1. ให้ทุกหน่วยงานกำหนดให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกคน มาปฏิบัติราชการตามปกติ ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน กสอ. โดยให้ทุกหน่วยงานกำหนดวิธีการลงเวลาปฏิบัติราชการด้วยการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับการตรวจสอบวันเวลาการปฏิบัติราชการ และในกรณีที่หน่วยงานมีภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจาก กสอ. ให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานพิจารณากำหนดรายละเอียดและแนวทางการปฏิบัติราชการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจเร่งด่วนปฏิบัติงาน ณ สถานที่พักอาศัย (Work from home) ตามความเหมาะสมกับบริบทสภาพการณ์การทำงานของแต่ละหน่วยงาน ตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานเป็นผู้กำกับดูแลและให้มีการจัดทำรายงานการปฏิบัติราชการอย่างเคร่งครัด และให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อมอบหมาย กำกับดูแล หรือแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการปฏิบัติงาน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องแสดงตนและเข้าร่วมการประชุม อย่างเคร่งครัด การปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work from home) ให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด

2.หน่วยงานกำหนดให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด และบุคคลในกำกับดูแล ตรวจคัดกรองในเบื้องต้น ด้วยแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Test Kit : ATK) ตามระยะเวลา รูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม และถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

2.1 กรณีที่มีผลตรวจคัดกรองด้วย ATK เป็นบวก ให้เข้ารับการตรวจวินิจฉัย ณ สถานพยาบาล หรือสถานที่อื่นตามที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำหนดหรือรับรอง ทั้งนี้ หากได้รับผลการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคฯ ให้เข้ารับการรักษา ณ สถานพยาบาล หรือสถานที่อื่นตามที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำหนดหรือรับรอง โดยให้ลาป่วยเพื่อรักษาตัวจนกว่าผลการตรวจคัดกรองด้วย ATK เป็นลบ และหลังจากนั้นให้กลับมา ปฏิบัติราชการตามปกติ ณ สถานที่ของหน่วยงาน กสอ. โดยสังเกตอาการตนเองและปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลในข้อ 3. รวมแล้วเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน และในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานติดเชื้อเป็นจำนวนมากจนกระทบต่อการปฏิบัติงานให้หน่วยงานกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อไม่ให้กระทบกับภารกิจและความรับผิดชอบของหน่วยงาน

2.2 กรณีมีอาการที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคฯ ให้ลาป่วยเพื่อรักษาตัว โดยห้ามไม่ให้ผู้นั้นเข้าสถานที่ตั้งของหน่วยงาน กสอ. หรือสถานที่ปฏิบัติงานในภารกิจของ กสอ. จนกว่าจะหายป่วย และผลการตรวจคัดกรองด้วย ATK เป็นลบ หรือได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าไม่เป็นโรคฯ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ต้องตรวจคัดกรองด้วย ATK อีกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้ง

 

2.3 กรณีมีความเสี่ยงสูง (high risk contact) ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด ได้แก่ ผู้ที่ไม่สวมหน้ากาก หรือไม่ได้ใส่ ชุด PPE ตามมาตรฐานตลอดช่วงเวลาที่มีการสัมผัสและใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระยะ 2 เมตร นานกว่า 5 นาที หรือถูกไอจาม รดหน้าจากผู้ป่วยตั้งแต่ 2 - 3 วันก่อนผู้ป่วยเริ่มมีอาการป่วย หรือขณะมีอาการ หรืออยู่ในสถานที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเทร่วมกับผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 30 นาที ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวให้สังเกตอาการตนเอง แต่ไม่ต้องกักตัว โดยให้ปฏิบัติตนตามแนวทางที่กรมควบคุมโรคกำหนด และให้มาปฏิบัติราชการตามปกติ ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน กสอ. แต่ให้แยกพื้นที่กับผู้อื่น งดร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และตรวจคัดกรอง ด้วย ATK ก่อนเข้าปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้ง

 3.ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล “2U” ได้แก่ Universal Prevention โดยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อมาปฏิบัติงานทั้งในและนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน กสอ. หรือเมื่อมีการจัดงานสัมมนา หรือเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด หรือเมื่อมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี และตรวจ ATK เมื่อมีอาการคล้ายไข้หวัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ และเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้เข้าร่วมงาน และ Universal Vaccination เข้ารับวัคซีนทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น เพื่อช่วยลดอาการป่วยหนัก

  1. ให้ทุกหน่วยงานกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประกาศหรือคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข ประกาศหรือคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด และประกาศหรือคำสั่งที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมาตรการที่ กสอ. กำหนด โดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ สำหรับอาการที่เข้าหลักเกณฑ์การสอบสวนโรคฯ การตรวจคัดกรองโรคฯ หลักเกณฑ์การปฏิบัติตนตามแนวทาง D-M-H-T-T การลาป่วย การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรค (cluster) การแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ในสังกัด กสอ. และการดำเนินกิจกรรมผ่านระบบทางไกล (Teleconferencing) หรือการใช้รูปแบบออนไลน์อื่น ๆ ###PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65
“อธิบดีณัฐพล” ประชุมมาตรการปฏิบัติงานและการป้องกันโควิด-19 ประจำเดือนกันยายน 65