กรุงเทพฯ 18 ธันวาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (คกก.บริหารฯ) ครั้งที่ 15/2568 ซึ่งมี นายวิฑูร สุขพูล ประธานกรรมการบริหารฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 101 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Zoom Meeting

ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาอนุมัติปรับเปลี่ยนการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อดำเนินงาน 2 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการ Thai SMEs New Opportunity Gateways: โอกาสใหม่ เชื่อม SME ไทยสู่ทั่วโลก ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศ Soft Power โดยคณะกรรมการฯ ได้ให้ข้อเสนอในส่วนของการบูรณาการว่า อยากให้มีผู้แทนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและทูตพาณิชย์ของกลุ่มประเทศเป้าหมาย มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาแนะนำ โดยเฉพาะในเรื่องของกฎระเบียบ ข้อควรระวัง และขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมเน้นย้ำให้ความสำคัญในเรื่องของการคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีอัตลักษณ์ชัดเจน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดใหม่ (New Market) ทั้งนี้ อธิบดีณัฏฐิญา ได้ให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อที่ประชุมว่า ในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพและควรมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการฯ นี้ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพสูง มีความพร้อม และมีจำนวนมากในประเทศ นอกจากนี้ อยากให้มีการศึกษาข้อมูลด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของกลุ่มประเทศเป้าหมายเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ต้องกระจายสินค้าผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ของประเทศคู่ค้า เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและเพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความพร้อม ที่สนใจอยากส่งออกในตลาดใหม่ (2) โครงการ TRANSFORMING SMEs ยกระดับการบริหารด้านการเงิน โดยการนำ AI มาใช้ยกระดับการบริหารจัดการด้านการเงิน ซึ่ง คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการฯ โดยเฉพาะในส่วนของภาคการเกษตร เพราะเห็นว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความคล่องตัวและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพ มากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของดีพร้อมเองก็ยินดีสนับสนุนและให้ความร่วมมือ หากระบบ AI ทำการประเมินและวินิจฉัยสภาพปัญหาของสถานประกอบการแล้วก็สามารถส่งต่อเชื่อมโยงข้อมูลมายังดีพร้อม เพื่อเข้าสู่กระบวนการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการอย่างครบวงจรต่อไปได้

การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนเอสเอ็มอี ไทยให้สามารถยืนหยัดและแข่งขันในตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกลไกการเจรจาการค้า การใช้เทคโนโลยี และการส่งเสริม Soft Power เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต