ประเทศญี่ปุ่น 21 พฤษภาคม 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. นางสาวดวงดาว ขาวเจริญ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า งาน World Expo 2025 Osaka Kansai, Japan ถือเป็นเวทีสำคัญระดับโลกที่สามารถแสดงศักยภาพการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล โดย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมจัดพื้นที่แสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ไทยใน Theme Week ที่ 2 ของงานดังกล่าว ภายใต้แนวคิด The Future of Community and Mobility (อนาคตของชุมชนและการโยกย้าย) เพื่อแสดงศักยภาพผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงวัตถุดิบไทยสู่ตลาดโลก พร้อมทั้งแสดงอัตลักษณ์ของสินค้าไทยจากสมุนไพรพื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และอีกหนึ่งเสน่ห์ของไทยที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร คือ ‘การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์’ ที่นำเอาอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และลึกซึ้ง ให้นักท่องเที่ยวมาชมความงาม เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน และสัมผัสวิถีชีวิตการอยู่ร่วมกับชุมชน อีกทั้ง ยังเป็นการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วยการสร้างและพัฒนา Thailand Soft Power DNA สร้างสรรค์ ต่อยอด โน้มน้าว และเผยแพร่ สร้างความประทับใจ อันจะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 1,500 ล้านบาท นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka Kansai เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผ่าน Temporary Exhibition ในพื้นที่โซนด้านหลัง Thailand Pavilion ระหว่างวันที่ 15 – 26 พฤษภาคม 2568 ภายใต้ 2 Concepts คือ 1) การแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงวัตถุดิบไทยสู่ตลาดโลก ภายใต้แนวคิด “Future-Ready Thai Product Champions” ที่ผสมผสานวัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิปัญญา และนวัตกรรมสมัยใหม่ แปรรูปสมุนไพรพื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพร น้ำมันมะพร้าวสกัด แป้งขจัดกลิ่นกายเต่าเหยียบโลก Plant-Based Food อาหารเพื่อสุขภาพ และ 2) การแสดงการดึงดูดให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติ ภายใต้แนวคิด “Innovative Agriculture-Industry Development and Tourism Community” ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงประเทศไทยเป็นปลายทางการท่องเที่ยวที่ทั่วโลก การผู้นำทางด้าน Medical และ Wellness และมีความพร้อมที่จะรองรับเทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Long Stay Medical Tour และ Digital Nomad ผ่านการเชื่อมโยงธุรกิจกับชุมชนและการท่องเที่ยวสร้างความประทับใจ รวมทั้งการเชื่อมโยงผู้คนและวัฒนธรรม และหัวใจ โดยจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและมีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตร่วมกับชุมชน เรียนรู้วิธีการแปรรูปวัตถุดิบพื้นบ้าน อันจะทำให้ไทยเป็นมากกว่าการท่องเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวด้วยหัวใจที่เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน “ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่าการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ นอกจากเป็นการเชื่อมโยงศักยภาพของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ผสานวัตถุดิบธรรมชาติ ภูมิปัญญาไทย และเทคโนโลยีสมัยใหม่สู่ตลาดสุขภาพระดับสากลแล้ว ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้าน Medical & Wellness Tourism ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว กลุ่มคุณภาพทั่วโลก เสริมด้วยการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้นักเดินทางได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง อีกทั้ง ยังแสดงถึงความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่นในการพัฒนาชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย

กรุงเทพฯ 22 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย “ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” โดยมี ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นายวิวัฒน์ หิรัญพฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น นางสาวกฤษณา รวยอาจิน อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และที่ปรึกษาสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ดร.นันท์ บุญยะฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการด้านแฟชั่น และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ ห้อง Sapphire ชั้น 2 โรงแรมเซ็นจูรี่ นายสรุพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการจัด “กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย” ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) เพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) ให้กับบุคลากรในสาขาหัตถอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยใช้แนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป คือ ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย ร่วมกับกลไกการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยการ “สร้างสรรค์และต่อยอด” ให้เกิดเสน่ห์ คุณค่า และเพิ่มมูลค่า พร้อมกับ “โน้มน้าว” ให้เกิดการยอมรับ เปิดใจ และต้องการ รวมถึง “เผยแพร่” ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างโอกาสและยกระดับหัตถอุตสาหกรรมไทย หรือที่รู้จักในชื่อ “งานคราฟต์” ให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัตถอุตสาหกรรมไทย นับเป็นหนึ่งในพลัง Soft Power ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ทั้งในด้านมูลค่า การจ้างงาน และการสื่อสารอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมสู่สากล ซึ่งอุตสาหกรรมคราฟต์ของไทยมีภาพรวมการส่งออกในปี 2567 เป็นมูลค่า 379,198.64 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 11.34% จากปีก่อนหน้า โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐอเมริกา และสินค้าส่งออกสำคัญ คือ เครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องประดับทอง โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย จำนวน 100 คน ซึ่งครอบคลุมสาขางานผ้าพื้นเมือง งานปัก เครื่องหนัง เซรามิก เครื่องจักสาน และอื่น ๆ ซึ่งจะมุ่งเน้นการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการออกแบบร่วมสมัย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งสร้างเรื่องราวแบรนด์ (Storytelling) และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ไทย ผ่านการฝึกอบรมเชิงลึกทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต การศึกษาดูงาน และการใช้กลยุทธ์การตลาด การสื่อสาร นำไปสู่การเพิ่มยอดขายสินค้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 สามารถต่อยอดงานหัตถอุตสาหกรรม ร่วมเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย สร้างให้โอกาสโตไกล และเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก THAI Craft to the WORLD” คาดสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 20 พฤษภาคม 2568 – นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมกิจกรรมฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างบรรยากาศ ดีพร้อมคอมมูนิตี้” เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2568 พร้อมด้วย ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สล.กสอ.) ร่วมด้วย นายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สล.กสอ.) บริเวณหน้าอาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 กิจกรรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ สล.กสอ. มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อน สล.กสอ. ไปสู่การเป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบ โดยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มความร่มรื่น ฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างบรรยากาศบริเวณภาพนอกโดยรอบ ณ อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมทั้งร่วมกันทำกิจกรรม 5 ส เพื่อปรับพื้นที่การทำงานใน สล.กสอ. ให้น่าอยู่ พร้อมสำหรับการปฏิบัติงานและการให้บริการแก่ประชาชนที่มาติดต่อ นอกจากนี้ ได้มีการประกาศเกียรติคุณยกย่องเจ้าหน้าที่และกลุ่มงานส่งเสริมคุณธรรม ของ สล.กสอ. ที่มีความประพฤติและการปฏิบัติตนได้สอดคล้องกับหลักคุณธรรมเป้าหมาย เพื่อวางรากฐานให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณธรรมอย่างยั่งยืน และเป็นแนวทางในปฏิรูปเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับบุคลากรของ สล.กสอ. ให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ และเป็นบุคลากร “ดีพร้อม” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 19 พฤษภาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการเปิดงาน "Embodying Beauty : The Hero Within" ภายใต้กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย โดยมี นางอัจฉรา อัมพุช ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น กล่าวต้อนรับ และ นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรงค์ ฉิมพาลี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คุณโชติกา วงค์วิลาศ ผู้ประกอบการเครื่องสำอางแบรนด์ โช คอสเมติก คุณลักษณ์สุภา ประภาวัต นายกสมาคมการค้าคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ผู้แทนจากเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการเครื่องสำอางและความงามไทย และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 5 EmQuatier พร้อมพงษ์ นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้“ ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุกด้านอย่างตรงจุด ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย” ด้วยการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทยสู่ Fashion Hero Brand ในระดับสากล โดยผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางฯ จำนวน 25 กิจการ ที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการสร้างภาพลักษณ์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก อาทิ การพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์ จัดทำแผนการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการสื่อ การตลาดออนไลน์ การส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ รวมถึงการออกแบบและผลิตคลิปวิดีโอโปรโมตเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อ Social Media ศึกษาดูงานโรงงานต้นแบบแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง ตลอดจนการทดสอบตลาดเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ สร้างความโดดเด่น ความเป็นอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน และก้าวสู่การเป็นแบรนด์สินค้าที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล สอดรับตามนโยบายที่มุ่งเน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรม ให้มีความทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก กิจกรรมนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเวทีสำหรับการพัฒนาแบรนด์เท่านั้น แต่ยังปลุกพลังความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไทยภาคภูมิใจในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งความงามของไทยไม่ใช่เพียงภายนอกหากแต่เป็นพลังภายในที่หยั่งรากจากวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และศรัทธาในความเป็นไทย นี่คือจุดแข็งที่ไม่มีใครเลียนแบบได้และเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาแบรนด์ในยุค Soft Power ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยดีพร้อมเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการจะมีศักยภาพด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และเกิดการสร้าง Hero Brand ในสาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางฯ นำไปสู่การสร้างแบรนด์ไทยไปไกลในเวทีโลกด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย แตกต่าง มีคุณค่า และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 62 ล้านบาท

จ.นครราชสีมา 15 พฤษภาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม การดำเนินธุรกิจของ บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่ได้รับการพัฒนาจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ร่วมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่วังน้ำเขียว โดยมี นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอวังน้ำเขียว กล่าวต้อนรับ และคุณฐิติรัตน์ ศักดาปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด บรรยายสรุปภาพรวมการดำเนินงาน ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด หรือ ริบูรณ์ ฟาร์ม ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของนักธุรกิจเกษตรที่นำเอาองค์ความรู้ ทักษะ และศาสตร์ความเป็นอุตสาหกรรม มาประยุกต์ใช้ในการยกระดับการประกอบธุรกิจสู่เกษตรอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยได้ชื่นชมและแสดงความภาคภูมิใจกับริบูรณ์ ฟาร์ม ที่สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปปรับใช้และต่อยอดในการดำเนินธุรกิจจนเติบโต รวมถึงได้ตอบแทนสังคมและชุมชนรอบข้าง ในรูปแบบของ Social Enterprise โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้การเพาะชำและเปลี่ยนยอดต้นอะโวคาโด รวมทั้งสอนให้ชาวบ้านในชุมชนและนักโทษในฑัณทสถานสามารถแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้เกิด การจ้างงานและสร้างรายได้ในพื้นที่ ตลอดจนมีการพัฒนาเป็นแหล่งศึกษาดูงานให้กับผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ ยังมีจัดทำตู้เก็บเศษอาหาร เพื่อเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมุนเวียนกลับไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ต่อไป และ ในโอกาสนี้ ปลัดณัฐพล ได้ให้เกียรติเปิดป้ายริบูรณ์ คาเฟ่ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะโวคาโด ร้านอาหาร - เครื่องดื่ม ชมรมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกอะโวคาโดโอโซน วังน้ำเขียว พร้อมทั้งได้ร่วมกับคณะฯ ปลูกต้นอะโวคาโดบริเวณริบูรณ์ คาเฟ่ สำหรับ บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันอะโวคาโดซอฟต์เจลสกัดเย็นเกรดพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ “ริบูรณ์” โดยการแปรรูปอะโวคาโดด้วยนวัตกรรม ผ่านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่าง ๆ จนได้รับมาตรฐาน อย. GHPs HACPP นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลจากเวทีต่าง ๆ อาทิ รางวัลชนะเลิศการประกวดนวัตกรรม Genius Creation Best of THE BEST สุดยอดผู้ประกอบการอัจฉริยะ จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี 2020 รางวัลสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 (Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เป็นหน่วยงานสำคัญในการเข้าไปส่งเสริมและพัฒนาบริษัทฯ โดยการนำองค์ความรู้ไปพัฒนาและต่อยอดการดำเนินธุรกิจจนเติบโตอย่างแข็งแรง ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผ่านกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมต้นแบบ การยกระดับมาตรฐานและเพิ่มผลิตภาพการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจริยะ รวมถึงการพัฒนาผู้ประกอบการพันธุ์ใหม่ การพัฒนามาตรฐานสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย ตลอดจนได้รับการสนับสนุนเครื่องสกัดน้ำมันอะโวคาโด สำหรับนำไปใช้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่อไป ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของการยกระดับการประกอบธุรกิจเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องตามแนวทางอุตสาหกรรมวิถีใหม่ ที่มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ได้แก่ 1) ความสำเร็จทางธุรกิจ 2) การดูแลสังคมและชุมชน 3) การรักษาสิ่งแวดล้อม และ 4) การกระจายรายได้สู่ชุมชน และสอดรับตามนโยบายที่มุ่งเน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรม ให้มีความทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 16 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับ Sea (ประเทศไทย) เจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ "ช้อปปี้" ในประเด็นการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยด้วยเครื่องมือดิจิทัล นำโดย ดร.ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) พร้อมคณะ ร่วมด้วย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การหารือในครั้งนี้ เป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน โดยมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจของ “ดีพร้อม” ในการส่งเสริมผู้ประกอบการในหลากหลายมิติ ทั้งการพัฒนา "คน" ผ่านการให้ความรู้และทักษะด้านดิจิทัล การเชื่อมต่อผู้ประกอบการเข้ากับ "แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ" รวมถึงการสนับสนุนการใช้ "ซอฟต์แวร์" เพื่อช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยต้องการบูรณาการร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อส่งเสริมทักษะให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น การฝึกอบรม การสนับสนุนด้านการตลาด เครื่องมือช่วยขาย เทคนิคการไลฟ์สด และคูปองส่วนลดต่างๆ เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของผู้ประกอบการได้อย่างยั่งยืน โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการเริ่มต้นความร่วมมือ โดยจะมีการร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ การหารือดังกล่าว เป็นการดำเนินงานตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้“ ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ ผ่านการส่งเสริมองค์ความรู้ การเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัล และการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่ และยังสอดรับกับนโยบาย “สู้ เซฟ สร้าง” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่พร้อมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม เกิดความเท่าเทียม สร้างรายได้ สร้างโอกาส ในการแข่งขันทางธุรกิจ ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน

กรุงเทพฯ 16 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นผู้นำการให้ข้อเสนอแนะและคำแนะนำแก่ผู้เข้าอบรมที่นำเสนอผลงานจากการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "การเขียนโครงการอย่างมืออาชีพ (Project writing : From idea into practice)" พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและวิทยากรเข้าร่วมรับฟังและให้ข้อคิดเห็น ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การอบรมดังกล่าว เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้าอบรมได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโครงการให้เชื่อมโยงและสอดรับกับยุทธศาสตร์ นโยบายของดีพร้อม พร้อมนำเสนอผลงานโดยมีคณะผู้บริหารและวิทยากรร่วมรับฟังพร้อมให้ข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดในการเขียนโครงการ อาทิ ชื่อโครงการที่ควนสอดคล้องกับยุคสมัย การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย แนวทางการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน และแนวโน้มความเป็นไปได้ในการจัดสรรงบประมาณ พร้อมกันนี้ รองอธิบดีสุรพล ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า เพื่อให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โครงการต้องสามารถตอบโจทย์ในบริบทต่างๆ ที่สำคัญ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและทิศทางของรัฐบาลและต้องคำนึงถึงภารกิจของดีพร้อมที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ สถานประกอบการ และปัจจัยแวดล้อมทั้งหมด รวมทั้ง ต้องคำนึงถึงรายละเอียดต่างๆ ในการเขียนโครงการ ตั้งแต่ความสอดคล้องของชื่อโครงการ วัตถุประสงค์ หลักการและเหตุผล แนวทางการทำงาน ตลอดจนหลักการคำนวณมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทุกส่วนต้องเขียนร้อยเรียงให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการจัดสรรงบประมาณที่วางไว้ และหวังว่าผู้เข้าอบรมจะนำประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับไป บ่มเพาะให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ทักษะด้านการเขียนโครงการที่ได้รับการพัฒนาในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการดำเนินงานของดีพร้อมให้สามารถตอบสนองต่อประเด็นปัญหาเชิงมหภาคของภาคอุตสาหกรรม และสอดรับกับนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม" ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่เน้นย้ำให้การดำเนินงานสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและประชาชนอย่างแท้จริง

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาหลังใหม่ ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมให้บริการผู้ประกอบการและประชาชนเต็มรูปแบบ คณะผู้บริหารฯ ที่เข้าร่วม ประกอบด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายบวรวิทย์ อัครจันทโชติ ผู้อำนวยการกองตรวงราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางคนึงนิจ ทยายุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 นายประสงค์ ผลส่ง อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ นายวีระวัฒน์ ศรีสม อุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ นางสาวณัสชนก วงศ์สละ อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ นายวีระ นันทเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ร่วมแสดงความยินดี โดยมี นายอารยะ เนตวงษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ฯ ให้การต้อนรับ ณ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา (สอจ.นครราชสีมา) ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ที่ผ่านมา สอจ.นครราชสีมา ได้เช่าอาคารหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน และพื้นที่คับแคบเมื่อมีภารกิจและผู้มาขอใช้บริการเพิ่มขึ้น จึงได้ขอพื้นที่และได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุ เนื้อที่ประมาณ 7-1-93 ไร่ จากจังหวัดนครราชสีมา และได้รับจัดสรรงบประมาณ ปี พ.ศ. 2565 - 2566 มาดำเนินการก่อสร้าง รวมเป็นเงิน 20,900,000 บาท ที่ทำการแห่งใหม่นี้ มีพื้นที่ Co-working space ให้บริการฟรีแก่ผู้ประกอบการและเป็นสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่ทันสมัยและใช้พลังงานสะอาดจากโซล่าร์เซลล์ มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 1,375 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้น G = 420 ตร.ม. คือ ห้องทำงานของกลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และห้องเก็บเอกสาร ชั้น 1 = 520 ตร.ม. แบ่งเป็น ห้องทำงานกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้ง Co-working space ชั้น 2 = 435 ตร.ม. แบ่งเป็น ห้องทำงานกลุ่มนโยบายและแผนงาน และอุตสาหกรรมจังหวัด ตลอดจนห้องประชุมขนาดใหญ่และเล็ก จำนวน 2 ห้อง ทั้งนี้ นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนได้ส่งมอบแผงโซล่าร์เซลล์ ขนาด 280 Whr จำนวน 90 แผง ติดตั้งบนหลังคาโรงจอดรถ ให้แก่ สอจ.นครราชสีมา เพื่อผลิตไฟฟ้ามาใช้ในสำนักงาน โดยสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเทียบเท่า ประมาณ 10,500 บาทต่อเดือน

กรุงเทพฯ 13 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมหารือการจัดทำ (ร่าง) คำชี้แจงการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีนางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ นางสาวอภิจิตตรา อภิราชจิตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบราชการ นางกาญจนา มังกโรทัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ นางสาวภัทรผกา ใจปินตา นักพัฒนาระบบราชการชำนาญการพิเศษ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม การประชุมในวันนี้ เป็นการหารือเกี่ยวกับการจัดทำ (ร่าง) คำชี้แจงการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อประกอบการจัดทำคำขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) จำนวน 2 หน่วยงาน ได้แก่ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม และศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยในการเสนอปรับโครงสร้างครั้งนี้ ไม่มีการเพิ่มอัตรากำลังแต่จะเป็นการเกลี่ยอัตรากำลังในทุกหน่วยงานภายใต้การสังกัดกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถรองรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการดำเนินงานที่รองรับด้านเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งในปี 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ดังนั้น ในการจัดตั้งกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม จะเป็นการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงาน และการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยดังกล่าวให้บรรลุตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ รวมถึงมีบทบาทความรับผิดชอบด้านเกษตรอุตสาหกรรมที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยการพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และยกระดับผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการไทยให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เพื่อป้องกันการถูกกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ “ดีพร้อม” ได้เสนอจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักด้านวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์โดยตรง ซึ่งจะดำเนินงานตั้งแต่การวิจัย พัฒนาวัสดุ ตลอดจนวัสดุทดแทน วัสดุที่ผ่านการออกแบบ เพื่อพัฒนาให้มีคุณสมบัติพิเศษสามารถตอบโจทย์การใช้งานในอุตสาหกรรม สอดรับนโยบายที่มุ่งเน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรม สร้างเศรษฐกิจใหม่ ให้มีความทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการดำเนินงานตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ส่งเสริมการสร้างและพัฒนาทักษะพร้อมกับการเครื่องมือที่ทันสมัย ส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูง เพื่อให้ธุรกิจและชุมชนมีโอกาสในการเติบโต สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ โดย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ให้คำแนะนำ ชี้แนะแนวทางการจัดทำ (ร่าง) คำชี้แจงการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์ และเป็นไปตามกฎระเบียบ แบบแผนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนอย่างถูกต้องและเหมาะสม

กรุงเทพฯ 14 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร "การเขียนโครงการอย่างมืออาชีพ (Project Writing : From Idea Into Practice)" พร้อมด้วยวิทยากร ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เข้ารับการอบรม เข้าร่วม โดยมีนายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ให้บุคลากรผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้หลักการเขียนโครงการภาครัฐอย่างถูกต้อง สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้เป็นแนวทางในการเขียนโครงการให้เชื่อมโยงและสอดรับกับยุทธศาสตร์ นโยบายของดีพร้อม รวมทั้งให้มีความเข้าใจในหลักเกณฑ์การเขียนโครงการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดทำคำของบประมาณ และการจัดทำแผนงบประมาณประจำปีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักสูตรดังกล่าวจะมีการฝึกอบรมที่ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้นำเสนอผลงานการเขียนข้อเสนอโครงการของตนเอง พร้อมรับฟังคำแนะนำจากคณะผู้บริหารและวิทยากร ทั้งนี้ การพัฒนาทักษะด้านการเขียนโครงการถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการดำเนินงานของดีพร้อม ให้สามารถตอบสนองต่อประเด็นปัญหาเชิงมหภาคของภาคอุตสาหกรรม ผ่านโครงการที่กำหนดทิศทางการพัฒนา และเป็นกรอบในการติดตาม-ประเมินผลการดำเนินงาน ทำให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด สอดรับกับนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม" ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่มุ่งเน้นให้การดำเนินงานสามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและประชาชนอย่างแท้จริง