โทรศัพท์ 1358

“ดีพร้อม” รุกปั้นดีไซเนอร์ สานฝันหัตถกรรมสิ่งทอไทย พร้อมพัฒนาสินค้าชุมชนต้นแบบ เดินหน้าผลักดัน Soft Power แฟชั่นไทยสู่สากล ตามนโยบาย "รมว.เอกนัฏ"
กรุงเทพฯ 27 พฤษภาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ ร่วมด้วย นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ดร.นันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์สาขาแฟชั่น ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) นักออกแบบทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ผู้ประกอบการหัตถกรรมสิ่งทอไทย และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์ 1 โรงแรมกราฟโฮเทล ห้วยขวาง นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้“ ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุกด้านอย่างตรงจุด ผ่านกิจกรรมการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ ภายใต้โครงการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แฟชั่นและหัตถกรรมสิ่งทอระหว่างประเทศ โดยมุ่งเพิ่มทักษะและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักออกแบบในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมฯ ในชุมชนให้เป็นสินค้าแฟชั่นที่มีมูลค่าสูงและแข่งขันได้ในตลาดโลก สอดคล้องกับแนวทางการสร้าง Soft Power DNA ของดีพร้อมที่เน้นการผสมผสานอัตลักษณ์กับความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเผยแพร่ผลงานผ่านเวทีระดับนานาชาติและสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบจากต่างประเทศ กิจกรรมดังกล่าว เป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและบูรณาการระหว่างนักออกแบบไทยและต่างประเทศ เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้เข้าร่วมกระบวนการเรียนรู้อย่างเข้มข้น สนับสนุนชุมชน และร่วมกันดึงอัตลักษณ์และตีโจทย์ความเป็นทุนทางวัฒนธรรมของไทยในมิติใหม่ผ่านการออกแบบที่ร่วมสมัย เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์คอลเลกชันใหม่และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนต้นแบบไม่น้อยกว่า 4 ชุมชน ทั้งนี้ “ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างเครือข่าย และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการหัตถกรรมสิ่งทอไทย พร้อมทั้งต่อยอดทุนวัฒนธรรมด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีเอกลักษณ์และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้ ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาศักยภาพนักออกแบบสาขาอุตสาหกรรมแฟชั่นไม่น้อยกว่า 100 คน และผลิตภัณฑ์สิ่งทอชุมชนต้นแบบ รวม 12 คอลเลกชั่น อันจะเป็นการส่งเสริม Soft Power แฟชั่นไทยผ่านหัตถกรรมสิ่งทอไทยสู่ระดับสากล ซึ่งสอดรับกับนโยบายของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมทั้งสร้างความเท่าเทียมให้เอสเอ็มอีไทย สามารถนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต ออกแบบผสมผสานความร่วมสมัย คงอัตลักษณ์ความเป็นไทย รักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาและความเป็นไทยให้ก้าวสู่ Soft Power ในระดับสากลต่อไป กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เชื่อมั่นว่ากิจกรรมนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างเครือข่าย และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการหัตถกรรมสิ่งทอไทย ต่อยอดทุนวัฒนธรรมด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีเอกลักษณ์ และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้
30 พ.ค. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทัพ พัฒนาอุตฯ ชุมชน แท็คทีม เกษตรอุตสาหกรรม ยกครัว "ดีพร้อมคอมมูนิตี้" ร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ด้วยแนวคิด The Great Ingredients เปิดประสบการณ์ ให้โอกาสธุรกิจ ขยายตลาด เชื่อมต่อคู่ค้าคุณภาพระดับโลก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
นนทบุรี 27 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเปิดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดร.พลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน ดร.กิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม เข้าร่วม ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี งานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Beyond Food Experience’ เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ของประเทศไทย ให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าอาหาร และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมเผยแพร่ให้ประชาชนในประเทศ ได้ทราบถึงศักยภาพในการผลิตสินค้าอาหาร เทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารของไทย รวมทั้งเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการใช้สินค้าไทย ที่ผลิตโดยคนไทย และที่สำคัญเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร เทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้เยี่ยมชมบูธผู้ประกอบการที่ผ่านการส่งเสริมและพัฒนาตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าภายในงานกว่า 40 ร้านค้า บนพื้นที่ 180 ตารางเมตร โดยผู้ประกอบการที่ได้เข้าร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จที่เกิดจากการพัฒนาผู้ประกอบการผ่านโครงการสำคัญของ (1) กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน (กช.กสอ.) โดยการพัฒนาวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารที่มีคุณภาพของไทยให้มีศักยภาพไปไกลในระดับสากล ด้วยแนวคิด The Great Ingredients วัตถุดิบคุณภาพระดับสากล และ (2) กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม (กอ.กสอ.) ที่เป็นหน่วยหลักในการขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจในการเชื่อมโยง รวมถึงการเจรจาการค้ากับพันธมิตรเพื่อสร้างความร่วมมือ และขยายธุรกิจสู่ความสำเร็จใหม่ ๆ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล งาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 ซึ่งวันที่ 27 – 30 พฤษภาคม 2568 เป็นวันเจรจาธุรกิจ (เวลา 10.00 – 18.00 น.) ส่วนวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เปิดเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไป (เวลา 10.00-20.00 น.) โดยบูธกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ตั้งอยู่ในบริเวณ Hall 12 : Zone Fine Food Booth : 12-ww15 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อรับบัตรเข้าชมงานฟรี!! https://registration.thaifex-anuga.com/el/1Zw5Ff
29 พ.ค. 2025
“ดีพร้อม” ปลุกพลังนักธุรกิจรุ่นใหม่ ติดอาวุธเติมทักษะ เดินหน้า “DIPROM Young SMEs Network ครั้งที่ 2” หวังยกระดับธุรกิจครอบครัวสู่อุตสาหกรรมไทยยุคใหม่ คาดเกิดมูลค่าทางธุรกิจกว่า 50 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 24 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ : DIPROM Young SMEs Network รุ่นที่ 2 โดยมี นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย ดร.วรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ นายพรชัย รัตนตรัยภพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โปรไฟล์ จำกัด และประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่าย DIPROM SMEs Network นายนิวัฒน์ มีมงคลเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฟอร์โมซาพลาสติกอินดัสทรี จำกัด และประธานเครือข่าย DIPROM SMEs Network คณะกรรมการสมาชิกเครือข่าย DIPROM SMEs Network นักธุรกิจรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจ จำนวน 40 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ไทย กว่าร้อยละ 60 มีการวางแผนส่งต่อกิจการให้กับลูกหลาน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “ทายาทธุรกิจ” ที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยมุมมองที่ทันสมัย ผสานองค์ความรู้ดั้งเดิมกับเทคโนโลยีและแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจยุคใหม่ หากขาดระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ในการดำเนินธุรกิจที่ดี อาจจะส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้เห็นถึงความสำคัญในการยกระดับศักยภาพทายาทธุรกิจ ให้สามารถเติบโตและก้าวเดินบนเส้นทางธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ในทุกมิติ จึงได้จัดกิจกรรม “เชื่อมโยงเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ : DIPROM Young SMEs Network” รุ่นที่ 2 โดยเน้นการพัฒนาทักษะในด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี การตลาด การพัฒนาสินค้าที่สะท้อนถึงตัวตนของธุรกิจ ด้วยการนำกลไก Soft Power มาเป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและตอบโจทย์ตามความต้องการของตลาด โดยกิจกรรมดังกล่าวมีนักธุรกิจรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 40 คน เข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มทักษะ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ และเชื่อมสัมพันธ์เครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกจากพี่เลี้ยง (Mentor) เครือข่าย DIPROM SMEs Network นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการภายใต้เครือข่ายฯ พร้อมทั้งการออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้าอีกด้วย “อธิบดีณัฏฐิญา” เชื่อมั่นว่ากิจกรรมครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการต่อยอด แตกกอ และเกื้อกูลทางธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นรากฐานให้เกิดระบบนิเวศธุรกิจที่แข็งแกร่งและแข่งขันได้ ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค รวมถึงการปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความเชื่อมโยง และปลุกพลังในการดำเนินธุรกิจ อันจะส่งผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 - 30 และเกิดมูลค่าทางธุรกิจกว่า 50 ล้านบาท โดยกิจกรรมดังกล่าว ได้ดำเนินการภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1) ให้ทักษะใหม่ 2) ให้เครื่องมือทันสมัย 3) ให้โอกาสโตไกล และ 4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน อันจะนำไปสู่การสืบทอดธุรกิจได้อย่างอย่างมั่นคง ยั่งยืน และเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
29 พ.ค. 2025
“ดีพร้อม“ ร่วมใจ ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันโควิด - 19 แนะวิธีทำความสะอาด สถานที่ทำงาน เมื่ออยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อโควิด-19
กรุงเทพฯ 26 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สล.กสอ.) ดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคโควิด-19 และเชื้อไข้หวัดใหญ่ ตลอดจนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจสะสมอยู่บริเวณพื้นผิวและจุดสัมผัส บริเวณอาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 สล.กสอ. ดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนประกอบของสารออกฤทธิ์ Alkyl dimethyl benzyl ammonium chloride 10.0% w/w. โดยดำเนินการฉีดพ่นอย่างถูกต้องตามกระบวนการในทุกขั้นตอน และในทุกพื้นที่ภายในอาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) ทั้ง 6 ชั้นของอาคาร โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อาทิ บริเวณห้องทำงานในแต่ละชั้น ห้องน้ำ ด้านในลิฟต์โดยสาร และภายในห้องประชุม ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย และสร้างความความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรวมถึงผู้ประกอบการและประชาชนที่มาติดต่อขอรับบริการ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้มีความห่วงใยพร้อมแนะวิธีป้องกันและทำความสะอาด เมื่ออยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของดีพร้อมหมั่นทำความสะอาดมือและเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในสำนักงาน รวมถึงบ้านพัก โดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดตามบริเวณที่มีการสัมผัสหรือใช้งานร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ รีโมทคอนโทรล ราวบันได เป็นต้น การทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วม ให้เน้นเช็ดบริเวณที่รองนั่งโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ที่กดชักโครก ราวจับ รวมถึงการจัดการขยะ โดยเก็บรวบรวมขยะที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลายของผู้ติดเชื้อโควิด-19 วิด ใส่ภาชนะบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ (ถุงแดง) 2 ชั้น มัดปากถุงให้แน่น แล้วฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อ หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ บริเวณปากถุง ก่อนนำไปทิ้งในถังสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ เพื่อลดการติดเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดภายในอาคารดีพร้อม และครอบครัวของเจ้าหน้าที่ดีพร้อมทุกคนด้วย
28 พ.ค. 2025
“ดีพร้อม” จัดทีมต้อนรับ “รมว.เอกนัฏ” นำทีมกระทรวงอุตฯ บุกแดนอาทิตย์อุทัย ร่วมงาน Osaka - Kansai World Expo 2025 ภายใต้แนวคิด “Designing Future Society For Our Live” เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี
ประเทศญี่ปุ่น 21 พฤษภาคม 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. นางดวงดาว ขาวเจริญ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมเยี่ยมชมงาน Osaka - Kansai World Expo 2025 จัดขึ้น ณ เกาะยูเมะชิมะ (Yumeshima) นครโอซาก้า งานแสดงนิทรรศการ Osaka - Kansai World Expo 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 เมษายน - 13 ตุลาคม 2568 โดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition: BIE) ภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society For Our Live” เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี โดยแบ่งเป็น 3 แนวคิดย่อย ได้แก่ 1. Saving Live การปกป้องชีวิตของผู้คน 2. Empowering Live การพัฒนาคุณภาพชีวิต และ 3. Connecting Live ส่งเสริมความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม โดยภายในงานมีพาวิลเลียน จาก 150 กว่าประเทศทั่วโลกเข้าร่วม นอกจากนี้ ยังมีโซนนิทรรศการที่แสดงถึงแนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับสุขภาพ วิทยาศาสตร์ การเชื่อมต่อทางดิจิทัล และการใช้พลังงานสะอาดอีกด้วย ในโอกาสนี้ รมว.เอกนัฏ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตฯ เยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน จัดโดยหน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการร่วมกัน ได้แก่ (1) (1) Kansai Pavilion การจัดนิทรรศการของ 9 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดชิกะ เกียวโต เฮียวโงะ นารา วากายามะ ทตโทริ โทคุชิมะ ฟุคุอิ และมิเอะ ภายใต้หัวข้อ “ประวัติศาสตร์นิรันดร์และปัจจุบันของคันไซดินแดนที่ชีวิตเปล่งประกาย“ สะท้อนถึงวิถีชีวิต อุตสาหกรรมศักยภาพในพื้นที่ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ได้เยี่ยมชมจังหวัดโทคุชิมะ วากายามะ ฟุคุอิและมิเอะ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) (2) Advanced Air Mobility เป็นนิทรรศการแสดงยานยนต์อัจฉริยะโดยนำเสนอ “รถยนต์บินได้” เป็นนวัตกรรมการเดินทางยุคใหม่ที่จะปฏิวัติรูปแบบการเดินทางทางอากาศซึ่งเกิดจากการประยุกต์ใช้ระบบไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติในเทคโนโลยีการบิน รวมทั้งรูปแบบการเคลื่อนที่ขึ้นลงในแนวดิ่ง (3) Panasonic Group Pavilion เป็นการจัดนิทรรศการภายใต้ชื่อ “ประเทศโนะโมะ” หรือ “The Land of NOMO” ภายใต้แนวคิด “Unlock your Nature” เพื่อให้โอกาสและสร้างประสบการณ์ในการปลดปล่อยพลังของจินตนาการผ่านการฝึกฝนประสาทสัมผัสของร่างกาย และปลดปล่อยความรู้สึกนึกคิดทางจิตใจผ่านเทคโนโลยี (4) Mitsubishi Pavilion ภายใต้แนวคิด “การเชื่อมต่อโลกที่เต็มไปด้วยชีวิตอันเปล่งประกายสู่อนาคต (Keeping the world Vibrant)” ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสความรู้สึกที่หลากหลายและประสบการณ์การเดินทางจากห้วงทะเลลึก และเรียนรู้เส้นทางการกำเนิดของชีวิตไปสู่อวกาศ และ (5) Japan Pavilion ศูนย์กลางนำเสนอแนวคิดการออกแบบสังคมแห่งอนาคต ถือเป็นแนวคิดหลักของการจัดงาน World Expo 2025 ในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ยังได้มีการนำขยะที่เกิดขึ้นภายในงานมาผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ การนำเสนอการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของประเทศญี่ปุ่นที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลกเพื่อสร้างสังคมหมุนเวียนและให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปสู่การสร้างสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย
27 พ.ค. 2025
“รมว.เอกนัฏ มอบ อธิบดีณัฏฐิญา" เดินหน้าหารือกับเมืองอิวาตะ หนุน SMEs ไทยเชื่อมโยงญี่ปุ่นขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล กระตุ้น GDP ไทย ผลักดันผู้ประกอบการโตไกลแบบก้าวกระโดด เน้นธุรกิจภาคเกษตรอุตสาหกรรมและนวัตกรรม (Agricultural and Innovative Industry)
ประเทศญี่ปุ่น 23 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมประชุมหารือกับ นายโทริอิ โทชินาริ ผู้จัดการกองนโยบายอุตสาหกรรม และผู้บริหารเมืองอิวาตะ จังหวัดชิซึโอกะ ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวนิจรินทร์ โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ณ ห้องประชุมชั้น 5 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา (Royal Thai Consulate-General Osaka) “อธิบดีณัฏฐิญา” กล่าวถึง ภาพรวมโครงสร้างของดีพร้อมและการส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” โดยใช้แนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ในการพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม การหารือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และภาคอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นโดยเฉพาะภาคเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม รวมถึงระบบเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm/Smart Agriculture) การทำฟาร์มที่ยั่งยืนของเกษตรกรยุคใหม่ (Sustainable Farming) การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพให้กลายเป็นสุดยอดอาหาร (Superfood) และอาหารแห่งอนาคต (Future food) ตลอดจนเสริมสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ไทย-เมืองอิวาตะ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่จะถึงนี้ ณ ประเทศไทย โดยดีพร้อมจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ (upstream to downstream) ทั้งนี้ มีการนำเสนอภาพรวมของอุตสาหกรรมในเมืองอิวาตะ เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้สามารถเชื่อมโยงสู่ตลาดสากลได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ยังให้ความเชื่อมั่นว่า “ดีพร้อม” จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจาก ไทย-ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทางด้านยุทธศาสตร์ร่วมกันมาหลายศตวรรษ ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการดำเนินนโยบายของดีพร้อม ในการผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล
26 พ.ค. 2025
“ดีพร้อม” ดันสุดลิ่มอุตฯ อัญมณีฯ สร้างต้นแบบ Hero Brand Jewelry ดึงอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัย หนุนพลัง Soft Power แฟชั่นปักหมุดสู่แบรนด์สากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ คาดเศรษฐกิจโตกว่า 100 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 20 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรม นายสุทธิพงษ์ ดำรงค์สกุล นายกสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน (AGJA) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทย และสื่อมวลชน ณ ห้อง Jewel Hall ชั้น 2 Jewelry Trade Center สีลม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ให้ความสำคัญกับการผลักดันและขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยการยกระดับศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นในสาขาอัญมณีฯ ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ให้โอกาสโตไกล ด้วยการสร้างคุณค่าแบรนด์ สื่อสารได้อย่างทรงพลัง ผ่าน “กิจกรรมพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีฯ” ที่มุ่งสร้างองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างต้นแบบ Hero Brand Jewelry เพื่อยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ระดับสากล โดยนำกลไกของ Soft Power มาสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอัญมณีฯ พร้อมค้นหาอัตลักษณ์ที่แตกต่างและโดเด่นเพื่อสร้างแบรนด์และเรื่องราว (Storytelling) ให้เป็นที่รู้จักและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแฟชั่นในปัจจุบัน พร้อมขยายโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงกับเครือข่ายแฟชั่นระดับประเทศ ผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์สินค้าอัญมณีฯ จำนวน 27 กิจการ ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในการพัฒนาทักษะเชิงธุรกิจและตลาดแฟชั่น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นด้านกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างภาพลักษณ์ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการ การสื่อสารแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดทำแผนการตลาด และส่งเสริมการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงการสร้าง Story telling และคอนเทนต์รีวิวผ่านอินฟลูเอนเซอร์ด้วยการดึงเอกลักษณ์ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการทดสอบตลาดระดับสากลในงานแสดงสินค้า Mega Show Bangkok 2025 ซึ่งจะเป็นเวทีการค้าทดสอบตลาดพบคู่ค้าจริง สร้างโอกาสเจรจาธุรกิจและเชื่อมโยงเครือข่ายแฟชั่นระดับประเทศเพื่อยกระดับสู่การเป็น Hero Brand ที่สามารถต่อยอดไปสู่ระดับสากล สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กิจกรรมในครั้งนี้ “ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างโอกาสและส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าไทย ซึ่งเป็นการสนับสนุนพลัง Soft Power ของแฟชั่นไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power) และนับว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพแบรนด์อัญมณีและเครื่องประดับไทยให้ไปสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันมูลค่าการส่งออกอัญมณีฯ ไทยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25 นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
26 พ.ค. 2025
“รมว.เอกนัฏ มอบ อธิบดีณัฏฐิญา“ นำทัพดีพร้อมบุก! SMRJ Kinki นครโอซากา ดันกลไก CEO Business Meeting เชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล
ประเทศญี่ปุ่น 23 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เดินทางเยือน องค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (Organization for Small & Medium Enterprises and Regional Innovation: SMRJ) สาขา Kinki ภูมิภาคคันไซ (Kansai) นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมหารือกับ นางสาวซากากุชิ ยูโกะ ผู้อำนวยการกองสนับสนุน SMEs ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวนิจรินทร์ โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ณ ห้องประชุม ชั้น 5 สำนักงาน Osaka Kokusai Building นครโอซากา การหารือดังกล่าว เป็นการต่อยอดความร่วมมือจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) และ SMRJ ที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี พ.ศ. 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ของไทยและญี่ปุ่น “อธิบดีณัฏฐิญา” กล่าวถึง ภาพรวมโครงสร้างของดีพร้อมและการส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” โดยใช้แนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ในการพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา การพัฒนารูปแบบการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือในการพัฒนาด้านแฟชั่นของอุตสาหกรรมสิ่งทอและอุตสาหกรรมอาหารตามนโยบาย Soft Power การเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม (Industrial Transformation) กระตุ้นผู้ประกอบการรายใหญ่ด้าน EV ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงเคมีภัณฑ์ ไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้สามารถอยู่รอดและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในยุคปัจจุบันโดยปรับธุรกิจให้สามารถผลิตสินค้าประเภทอื่นได้อีกด้วย อาทิ สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รถราง และพลังงาน ซึ่งถือเป็นโซ่อุปทานหลัก(Core Supply Chain) ของญี่ปุ่น รวมถึงการนำเสนอผู้ประกอบการของไทยที่มีศักยภาพโดดเด่นของแต่ละพื้นที่ สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งสามารถเชื่อมโยงจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการของ SMRJ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในรูปแบบ Supply Chain ของอุตสาหกรรม รวมถึงการประชาสัมพันธ์กิจกรรม CEO Business Meeting ของ SMRJ ผ่านระบบ J-GoodTech ที่มีผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นกว่า 27,000 ราย พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เกี่ยวกับภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคคันไซและหารือแนวทางการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการความร่วมมือ ที่ทั้งสองหน่วยงานสามารถดำเนินการร่วมกันได้ภายในปี พ.ศ. 2568 นี้ ซึ่งดีพร้อมให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเชิงนิเวศน์ (EcoTechnology) และอุตสาหกรรมนวัตกรรม (Innovative Industry) ที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ (Medical Equipment Industry) ที่ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญและเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาคเอเชีย มีบุคคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ยังให้ความเชื่อมั่นว่า “ดีพร้อม” จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทางด้านยุทธศาสตร์ร่วมกัน (Strategic partner) มาหลายศตวรรษ โดยการเดินทางเยือน SMRJ สาขา Kinki นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการดำเนินนโยบายของดีพร้อม ในการผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล ผ่านการดำเนินงานของโต๊ะญี่ปุ่น กสอ. หรือ DIPROM Japan Desk ที่มีมามากกว่า 16 ปี
26 พ.ค. 2025
“รมว.เอกนัฏ” สั่งการ “อธิบดีณัฏฐิญา รุดหน้า! จังหวัดวากายามะ” เสริมแกร่งความร่วมมือ Japan Desk มุ่งเน้นขยายโอกาส เชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล
ประเทศญี่ปุ่น 21 พฤษภาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เดินทางเยือน สำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ (Wakayama Prefectural Government Office) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมหารือร่วมกับนายซากากิ โมริฮิโกะ ผู้อำนวยการบริหาร สำนักนโยบายองค์กร กรมการค้า อุตสาหกรรม และแรงงาน รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวนิจรินทร์ โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นายโดม ถนอมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ การหารือดังกล่าว เป็นการต่อยอดความร่วมมือจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) และจังหวัดวากายามะ ที่มีขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ของไทยและญี่ปุ่น “อธิบดีณัฏฐิญา” กล่าวถึง ภาพรวมโครงสร้างของดีพร้อมและการส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” เพื่อพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ความร่วมมือเกี่ยวกับการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ความร่วมมือในการพัฒนาด้านแฟชั่นของอุตสาหกรรมสิ่งทอตามนโยบาย Soft Power รวมถึงการนำเสนอผู้ประกอบการของไทยที่มีศักยภาพโดดเด่นของแต่ละพื้นที่ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการของจังหวัดวากายามะเพื่อสร้างความเข้มแข็งในรูปแบบ Supply Chain ของอุตสาหกรรม พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดวากายามะ และหารือแนวทางการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการความร่วมมือ ที่ทั้งสองหน่วยงานสามารถดำเนินการร่วมกันได้ภายในปี พ.ศ. 2568 นี้ ทั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ยังให้ความเชื่อมั่นว่า “ดีพร้อม” จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยการเดินทางเยือนจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการดำเนินนโยบายของดีพร้อม ในการผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล ผ่านการดำเนินงานของโต๊ะญี่ปุ่น กสอ. หรือ DIPROM Japan Desk ที่มีมากว่า 16 ปี
23 พ.ค. 2025
“ดีพร้อม” ปลุกพลัง อุตฯ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย สร้าง “Fashion Hero Brand” พร้อมหนุนพลัง Soft Power แฟชั่น หวังยกระดับแบรนด์ไทยสู่สากลอย่างยั่งยืนตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ คาดสร้างมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 23 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการเปิดกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย ร่วมด้วย นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นางสาวจินดา ธนาดำรงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ สาขาแฟชั่น ดร.ปรารถนา คงสำราญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกท่าน เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์ รัชดา นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบายเรือธงสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันและขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยเพื่อเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยเดินหน้ายกระดับศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นสาขาเสื้อผ้าฯ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้“ ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้กลยุทธ์ให้โอกาสโตไกลด้วยการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในการสร้างคุณค่าแบรนด์ สื่อสารได้อย่างทรงพลัง และแข่งขันในตลาดโลกได้จริง ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย” โดยนำกลไกของ Soft Power มาช่วยยกระดับให้กับผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์ จำนวน 28 กิจการ ด้วยการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับเสื้อผ้าฯ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นทั้งด้านการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างต้นแบบ Hero Brand ที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมไทยสู่การเป็นแบรนด์ระดับสากล รวมถึงสร้างภาพลักษณ์สินค้าที่มีอัตลักษณ์และรากฐานจากทุนทางวัฒนธรรมของไทยให้มีความเป็นสากล ตลอดจนขยายโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงกับเครือข่ายแฟชั่นระดับประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าไทยฯ ในหลายมิติ ทั้งการสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพและมีอัตลักษณ์ การใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อยกระดับสินค้า ทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่างอย่างมีคุณค่า และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก ซึ่งจะกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศ เพิ่มโอกาสการจ้างงาน ลดการพึ่งพาการผลิตแบบ OEM ไปสู่การสร้างแบรนด์ไทยที่ยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และสนับสนุนพลัง Soft Power ของแฟชั่นไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) อีกทั้ง เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่สะท้อนอัตลักษณ์เสน่ห์ความเป็นไทยได้อย่างดงาม และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท
23 พ.ค. 2025