โทรศัพท์ 1358

“อธิบดีณัฏฐิญา” เตรียมความพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเงินทุนฯ เร่งพิจารณาวางกรอบการประเมินผลการขับเคลื่อนเงินทุนหมุนเวียนฯ ปี 69 ให้ดีพร้อม
“อธิบดีณัฏฐิญา” เตรียมความพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเงินทุนฯ เร่งพิจารณาวางกรอบการประเมินผลการขับเคลื่อนเงินทุนหมุนเวียนฯ ปี 69 ให้ดีพร้อม
กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ครั้งที่ 5/2568 พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาร่างตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2569 โดยฝ่ายเลขานุการฯ ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลร่างตัวชี้วัดตามกรอบแนวทางที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ ซึ่งแบ่งตัวชี้วัดออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการเงิน 2) ด้านการสนองประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3) ด้านการปฏิบัติการ 4) ด้านการบริหารจัดการทุนหมุนเวียน 5) ด้านการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริหาร ผู้บริหารทุนหมุนเวียน พนักงาน และลูกจ้าง และ 6) ด้านการดำเนินงานตามนโยบายรัฐ/กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบการปรับค่าเกณฑ์วัดตัวชี้วัดที่ 3.1 ร้อยละของการอนุมัติเงินกู้ โดยค่าตัวชี้วัดในภาพรวมยังคงเป็นไปตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบร่างตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2569 ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ และขอให้ดำเนินการตามข้อคิดเห็นของคณะกรรมการฯ ให้ครบถ้วน พร้อมทั้งขอให้เร่งจัดส่งร่างตัวชี้วัดข้างต้นให้กรมบัญชีกลาง และบริษัทที่ปรึกษา ภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 ต่อไป นอกจากนี้ ฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีการรายงานผลการดำเนินงานต่าง ๆ ให้คณะกรรมการบริหารฯ ทราบ อาทิ รายงานผลการดำเนินงานของเงินทุนหมุนเวียนฯ ในปีบัญชี 2568 ผลการดำเนินการตามมาตรการบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ผลการประชุมเพื่อติดตามการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนฯ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติ 11 ศูนย์ภาคในช่วงตลอดปีบัญชี 2568 รายงานผลการดำเนินการเร่งรัดการจำหน่ายหนี้สูญของลูกหนี้ที่หมดระยะเวลาบังคับคดี และรายงานผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “เสริมพลังคน เชื่อมโยงงาน ขับเคลื่อนทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” โดยคณะกรรมการมีมติรับทราบ และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานข้อมูลลูกหนี้ที่ครบกำหนดระยะเวลาบังคับคดี 10 ปี กับกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
03 ต.ค. 2025
”รองอธิบดีสุรพล“ บินตรงลำปาง ลงพื้นที่ DIPROM MICE CENTER เตรียมจัดอุตสาหกรรมแฟร์ 2025 “ช้อปเพลิน เดินฟิน เช็กอินลำปาง” 2 - 6 ตุลาคมนี้
”รองอธิบดีสุรพล“ บินตรงลำปาง ลงพื้นที่ DIPROM MICE CENTER เตรียมจัดอุตสาหกรรมแฟร์ 2025 “ช้อปเพลิน เดินฟิน เช็กอินลำปาง” 2 - 6 ตุลาคมนี้
จ.ลำปาง 1 ตุลาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ (DIPROM MICE CENTER) จ.ลำปาง เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ 2025 “ช้อปเพลิน เดินฟิน เช็กอินลำปาง” ร่วมด้วย นายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) นายวรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ นางเกษสุดา ดอนเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นายศุภโชค ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล ว่าที่ ร.ต.วัชรพงษ์ ชื่อตรง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความความร่วมมือภาครัฐและเอกชน บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ (DIPROM MICE CENTER) อ.เกาะคา รองอธิบดีสุรพล และคณะฯ ได้ตรวจเยี่ยมความพร้อมของการจัดงานและพิธีเปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ 2025 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 6 ตุลาคม 2568 โดยตรวจเยี่ยมโครงสร้างบูธของร้านค้า การตกแต่งโซนต่าง ๆ ภายในงาน การจัดเตรียมห้องสัมมนา/อบรม การจัดนิทรรศการ และป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ภายในงาน ขณะเดียวกัน ยังได้ตรวจความพร้อมในส่วนของเวทีกลางที่จะใช้สำหรับจัดพิธีเปิดงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยรองอธิบดีสุรพลได้ให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อให้การจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ในครั้งนี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์และบรรลุตามวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ งานอุตสาหกรรมแฟร์ 2025 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ช้อปเพลิน เดินฟิน เช็กอินลำปาง“ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของภาครัฐ-เอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค รวมถึงเปิดพื้นที่ทดสอบตลาดและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME ไทย และวิสาหกิจชุมชน อีกทั้ง ยังเป็นเวทีโชว์ผลงานที่รวมพลังของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพจากดีพร้อม ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีพื้นที่ในการกระจายสินค้าถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสินค้าอุตสาหกรรมไทยที่มีคุณภาพและราคาเป็นธรรมซึ่งช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนอีกด้วย
02 ต.ค. 2025
“ปลัดณัฐพล” มอบ “รองอธิบดีดุสิต” พร้อมคณะผู้แทนกระทรวงอุตฯ ร่วมงาน 2025 World New Energy Vehicle Congress (WNEVC) หวังยกระดับอุตฯ ยานยนต์พลังงานใหม่ไทยสู่เวทีสากล
“ปลัดณัฐพล” มอบ “รองอธิบดีดุสิต” พร้อมคณะผู้แทนกระทรวงอุตฯ ร่วมงาน 2025 World New Energy Vehicle Congress (WNEVC) หวังยกระดับอุตฯ ยานยนต์พลังงานใหม่ไทยสู่เวทีสากล
สาธารณรัฐประชาชนจีน 27 - 29 กันยายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (รสอ.) พร้อมด้วย นางสาวพธู ทองจุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 1 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ และนายธนพงศ์ เลิศพิริยะสกุลกิจ ผู้ชำนาญการ สถาบันยานยนต์ ได้รับมอบหมายจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมงาน 2025 World New Energy Vehicle Congress (WNEVC) หรือการประชุมยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก ประจำปี 2025 ณ เมืองไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน งาน 2025 World New Energy Vehicle Congress (WNEVC) จัดโดย China Association for Science and Technology และ รัฐบาลมณฑลไหหลำ (ไห่หนาน) เพื่อเป็นการสร้างฉันทามติและกระชับความร่วมมือผ่านการสนทนาและแลกเปลี่ยนในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในระดับโลกผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในภูมิภาค อีกทั้ง ยังเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี นวัตกรรม และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งในปีนี้มีหัวข้อหลักคือ "การเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน" เพื่อรวบรวมผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำในอุตสาหกรรม และนักวิจัยจากทั่วโลก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ นวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่การเคลื่อนที่สีเขียวและอัจฉริยะ โดยเจ้าภาพได้เชิญผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารจากกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานในฐานะ Guest Country of Honor และบรรยายพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย โดยคณะผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมการประชุม ดังนี้ 1) การประชุม Closed Door Meeting ในเรื่อง Sustainable Development and Global Cooperation in the Automotive Industry ซึ่งเจ้าภาพการจัดงานได้เชิญผู้ผลิตรถยนต์ค่ายเยอรมัน ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบัน และมหาวิทยาลัย จำนวน 100 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและอัปเดต เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ใช้ในรถยนต์แห่งอนาคต (Sustainable Mobility) ได้แก่ ระบบ Autonomous ในระดับ L2 ขึ้นไป หรือการนำ AI, Big Data และ Cloud Computing มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อ Supply Chain และ Eco System ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัว (Intelligent Transformation) และต้องอาศัยความร่วมมือระหว่าง Stakeholders ในประเทศและระดับสากล การประชุมในครั้งนี้ รองอธิบดีดุสิต ได้ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยมีผู้ผลิตรถยนต์หลายค่าย (สัญชาติ) โดยท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรง แต่ทุกค่ายมีทิศทางพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไปในทางเดียวกัน คือ ลดการปล่อย CO2 เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการประหยัดพลังงานและเพิ่มสมรรถนะด้านความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันจากหลายฝ่าย (Stakeholders) และอย่างน้อย 3 ด้านได้แก่ 1) Global Standard & Regulation Harmonization โดยเฉพาะ Data & AI Standard 2) Building Localization and Supply Chain โดยไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีศักยภาพและสามารถผลิตชิ้นส่วนได้เกือบทุกชิ้น ซึ่งการมี Supply Chain ที่มีศักยภาพจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้สินค้ามีคุณภาพ บริหารจัดการได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก (Flexibility) และ 3) Workforce Development and Technology Transfer ซึ่งไทยมีความพร้อมในด้านแรงงานฝีมือ จำนวน 700,000 ราย ที่กระจายตัวอยู่ใน Supply Chain ของยานยนต์ นอกจากนี้ ยังมีการประชุมใหญ่ (Plenary Session) เรื่อง Joint Efforts for Technology Innovation โดยเจ้าภาพได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วม เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการค้าไทยและจีน โดย รองอธิบดีดุสิตได้นำเสนอเรื่อง Thailand’s Strategic Roadmap for New Energy Vehicle and Supply Chain Development ซึ่งเนื้อหาหลักจะกล่าวถึง ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่มีจุดแข็งในด้าน Supply Chain ทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนและปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ค่ายจีนในช่วง 4-5 ปี และใช้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์เพื่อการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมทั้งการเติบโตของ BEV อย่างก้าวกระโดดในช่วงปี 2020-2024 ซึ่งร้อยละ 80 เป็นรถไฟฟ้าจากค่ายจีน ขณะเดียวกัน ยังได้กล่าวถึงทิศทางนโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นให้การส่งเสริมการผลิตยานยนต์มลพิษต่ำ การสร้างห่วงโซ่อุปทานและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ เพื่อรองรับการวิจัยพัฒนาและการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ในไทย ตามนโยบาย 30@30 ของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยน (Transform) ฐานการผลิตในปัจจุบันที่ยังเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (xEV) ต่อไป และในโอกาสนี้ นายเกรียงศักดิ์ฯ ได้นำเสนอ Progression on Thailand’s Next Generation Automotive Industry and TAI Facility Services ในการประชุมกลุ่มย่อย เรื่อง New Energy Vehicle Urban Development Forum เพื่อเป็นข้อมูลให้เกิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือร่วมกัน อีกทั้ง นายดุสิตฯ และคณะยังได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ (Plenary Session) เรื่อง Hainan Free Trade Zone and Global Automotive Industry Opportunities และการประชุมกลุ่มย่อย (Thematic Forum) เรื่อง Global NEV Testing, Certification, and Compliance Forum รวมทั้ง ชมนิทรรศการแสดงรถยนต์ของจีนอีกด้วย
02 ต.ค. 2025
“ปลัดณัฐพล” หนุน “ดีพร้อม” ลุยผนึกกำลัง 5 หน่วยงาน ปั้น ‘นิคมฯ SMEs’ สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรม เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน หวังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืนคู่ชุมชน คาดสร้างมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
“ปลัดณัฐพล” หนุน “ดีพร้อม” ลุยผนึกกำลัง 5 หน่วยงาน ปั้น ‘นิคมฯ SMEs’ สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรม เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน หวังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืนคู่ชุมชน คาดสร้างมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานสักขีพยานและกล่าวแสดงความยินดีในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรม SMEs เพื่อพัฒนาเครือข่ายและห่วงโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน ร่วมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธีลงนามดังกล่าว ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี การลงนามบันทึกความเข้าใจการบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรม SMEs เพื่อพัฒนาเครือข่ายและห่วงโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชนในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง 5 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการย้ายถิ่นฐาน หรือขยายการผลิตเข้าสู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีการดูแลอย่างเป็นระบบ ลดภาระการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสีย เพิ่มความโปร่งใส มีมาตรฐาน และช่วยจัดระเบียบ SMEs ให้เติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยจะเป็นการเอื้อต่อการวางแผนพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ตลอดจนสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เกื้อกูลต่อชุมชน เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายในห่วงโซ่อุปทาน และยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งสอดรับกับแนวคิด “Mind as One” ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการรวมพลังหัวใจของคนอุตสาหกรรมเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้อุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ยั่งยืน อันจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 พันล้านบาท สำหรับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมไทยด้วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการทั้งระดับ SMEs และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทยให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างนวัตกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจให้เข้มแข็ง โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ดีพร้อมได้ร่วมมือกับ 4 ภาคีเครือข่าย ด้วยการมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถและสร้างเครือข่ายให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ไทยในห่วงโซ่อุปทาน อาทิ ด้านการพัฒนาบุคลากร การพัฒนากระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ งานสัมมนา นิทรรศการ และการประชุมต่าง ๆ รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมที่จะเกิดประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม สังคม ชุมชน และบุคคลทั่วไป เพื่อสนับสนุนความต้องการของผู้ประกอบการที่มีศักยภาพต่อไป ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการรวมพลัง 5 หน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เอื้อต่อ SMEs ไทย ให้มีส่วนร่วมในเครือข่ายธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคม พร้อมก้าวไปสู่การเติบโตที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ยังสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ไทย เข้าถึงพื้นที่ที่พร้อมใช้งาน มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ตลอดจนองค์ความรู้ เทคโนโลยี แหล่งทุน และตลาดที่จำเป็นต่อการยกระดับธุรกิจอย่างครบวงจรอีกด้วย
01 ต.ค. 2025
"ดีพร้อม" เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากลครั้งที่ 2/2568 หนุนส่งเสริมบทบาทความสำคัญของสุภาพสตรี พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ - เอกชน
"ดีพร้อม" เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากลครั้งที่ 2/2568 หนุนส่งเสริมบทบาทความสำคัญของสุภาพสตรี พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ - เอกชน
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารด้านการเสริมสร้างบทบาทหญิงชาย (Chief Gender Officer - CGO) ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากลครั้งที่ 2/2568 โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สค. (ศปก.สค.) ชั้น 12 กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้คณะกรรมการฯ ร่วมกันพิจารณาเสนอแนวคิดหลัก (Theme) ในการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2569 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวคิด “สิทธิ ความยุติธรรม และเสียงของผู้หญิง : สู่สังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” มาใช้ในการจัดงานวันสตรีสากลประจำปี 2569 ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบปรับเพิ่มเติมรางวัลประเภทบุคคล จำนวน 1 รางวัล คือ บุคคลภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดความชัดเจนและหลากหลายในการพิจารณา เนื่องจากภาคประชาสังคมเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร แต่ภาคเอกชนเป็นองค์กรที่คำนึงถึงผลกำไร ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีจำนวนรางวัลเพิ่มจากเดิม 7 เป็น 8 รางวัล ในปี 2569 วันสตรีสากล (International Women's Day) จะตรงกับวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เหล่าสตรีจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนา หรืออาชีพใด จะร่วมเฉลิมฉลองความเสมอภาคที่ได้รับมา เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันในสังคม และประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะมุ่งให้เห็นความสำคัญของสุภาพสตรี ซึ่งกำหนดการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2569 อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2569 หรือ วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2569
01 ต.ค. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” รวมพลทีมบริหารงานดีพร้อม เร่งติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณโค้งสุดท้าย พร้อมวางแผนการปฏิบัติงานปี 69 เน้นการสร้างมาตรฐาน ต่อยอดให้เอสเอ็มไทย เข้าสู่ตลาดใหม่ ตอกย้ำสินค้าไทยสามารถโตไกลสู่สากล
“อธิบดีณัฏฐิญา” รวมพลทีมบริหารงานดีพร้อม เร่งติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณโค้งสุดท้าย พร้อมวางแผนการปฏิบัติงานปี 69 เน้นการสร้างมาตรฐาน ต่อยอดให้เอสเอ็มไทย เข้าสู่ตลาดใหม่ ตอกย้ำสินค้าไทยสามารถโตไกลสู่สากล
กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมกำหนดแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมี นางดวงดาว ขาวเจริญ และนายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี และระบบออนไลน์ในระบบ Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้แจ้งที่ประชุมถึงแนวทางนโยบายของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่แถลงข่าวเนื่องในโอกาสการเข้าปฏิบัติงานในกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและดูแล SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาจากสินค้าต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน พร้อมให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ประกอบการรายเล็ก ให้สามารถอยู่รอดจากสถานการณ์สงครามการค้าในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังให้คสวามสำคัญการส่งเสริมให้มีการเสริมแกร่งและสร้างอาชีพให้ผู้ประกอบการและชุมชน เพื่อให้สามารถต่อยอดให้เกิดการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อรองรับแนวทางดังกล่าว ดีพร้อม จะมุ่งเน้นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยให้มีกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐาน ผ่านการร่วมมือกับสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (MASCI) พร้อมดูแลต่อยอดให้สินค้าที่ผลิตโดยคนไทยมีโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย Made by Thai นอกจากนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานพัฒนาต่อยอดจากแนวทางที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเสริมความเข้มแข็งในห่วงโซ่อุปทานให้กับ SMEs การพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตควบคู่ไปกับการอนุมัติสินเชื่อฮาลาล การศึกษาระเบียบเรื่องการผลิตโดรนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง ที่เน้นการสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง สร้างขีดความสามารถอุตสาหกรรมในประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า นอกจากนี้ ยังมีการติดตามความคืบหน้าการเตรียมการจัดงานใหญ่ส่งท้ายปีของดีพร้อม ได้แก่ 1. การลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาเครือข่ายและห่วงโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรม ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 กันยายน ที่อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) 2. อุตสาหกรรมแฟร์ 2025 : ช้อปเพลิน เดินฟิน เช็กอินลำปาง ระหว่างวันที่ 2 - 6 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ (DIPROM MICE Center) อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 3. มหกรรม “ดีพร้อมเสน่ห์ไทย” Thai Vibe by DIPROM ระหว่างวันที่ 10 - 12 ตุลาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยขอให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกิดการเข้าร่วมชมงาน ในช่วงท้ายของการประชุม “อธิบดีณัฏฐิญา” กล่าวขอบคุณทุกกอง/ศูนย์ภาค ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และขอให้มีการส่งต่อนโยบายและแผนการปฏิบัติงานระหว่างกันของผู้บริหารที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการ และผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
30 ก.ย. 2025
ทำดีด้วยหัวใจ! ชาวอุตสาหกรรมฯ รวมพลังครั้งใหญ่ พัฒนาวัดสุทัศน์ฯ เฉลิมพระเกียรติ ร.8
ทำดีด้วยหัวใจ! ชาวอุตสาหกรรมฯ รวมพลังครั้งใหญ่ พัฒนาวัดสุทัศน์ฯ เฉลิมพระเกียรติ ร.8
29 กันยายน 2568 นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานกิจกรรมจิตอาสา “อุตสาหกรรมรวมใจ ทำความดีด้วยหัวใจ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในโอกาสวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี 20 กันยายน 2568 “ปรับปรุงระบบไฟฟ้าและทำความสะอาดวัดสุทัศนเทพวราราม” พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเศรษฐรัชต์ เลือดสกุล นายวัชรุน จุ้ยจำลอง นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานในสังกัดเข้าร่วมกว่า 300 คน ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ของกระทรวงอุตสาหกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การถวายสังฆทาน การถวายชุดไมโครโฟนไร้สาย จำนวน 1 ชุดโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การถวายถังดับเพลิง จำนวน 2 ชุดโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมี พระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นผู้รับมอบ จากนั้น คณะจิตอาสากระทรวงอุตสาหกรรมได้ทำกิจกรรมจิตอาสา เริ่มจากการถวายความเคารพพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 และร่วมกันทำความสะอาดโดยรอบพระระเบียงคตบริเวณวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ร่วมกับบริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบ และซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ทั้งด้านในและด้านนอกพระวิหารหลวงของวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ประกอบด้วย การเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมประตูตู้ไฟ เปลี่ยนหน้ากากปลั๊กไฟ ติดตั้งระบบป้องกันแรงดันกระชาก ติดตั้งเต้ารับป้องกันไฟฟ้าดูด/ไฟฟ้ารั่ว และเปลี่ยนเบรกเกอร์คุมไฟส่องสว่างพระบรมราชาอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 เป็นต้น
30 ก.ย. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมลงสุพรรณบุรี เปิดบ้าน DIPROM Center 8 โชว์ “ศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน” ยกระดับมาตรฐาน–ทักษะ–ตลาด ดันผู้ประกอบการภาคกลางตะวันตกสู่โมเดิร์นเทรด
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมลงสุพรรณบุรี เปิดบ้าน DIPROM Center 8 โชว์ “ศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน” ยกระดับมาตรฐาน–ทักษะ–ตลาด ดันผู้ประกอบการภาคกลางตะวันตกสู่โมเดิร์นเทรด
จ.สุพรรณบุรี 25 กันยายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน ภายใต้ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม และกิจกรรม DIPROM 8 เปิดบ้านแบ่งปัน นวัตกรรมอาหารคู่ชุมชน ร่วมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ–เอกชน สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม โดยมี นางอภิญญา เอี่ยมอำภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวต้อนรับ และ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 (DIPROM Center 8) อำเภอเมืองสุพรรณบุรี โครงการศูนย์นวัตกรรมอาหารชุมชน ภายใต้ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industry Transformation Center: ITC) เป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนการสร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์ในอุตสาหกรรมสาขาอาหาร ผ่านการนำวัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะ “อู่ข้าวอู่น้ำของประเทศไทย” มีวัตถุดิบที่มีคุณภาพเหมาะต่อการนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยโครงการดังกล่าวจะครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาสูตรและต้นแบบ เทคโนโลยีแปรรูป การออกแบบบรรจุภัณฑ์ จนถึงการเตรียมความพร้อมสู่เชิงพาณิชย์ พร้อมยกระดับความพร้อมของสถานที่ กระบวนการผลิต และระบบบริหารให้เป็นไปตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานอาหารและยา (อย) เพื่อนำไปวางจำหน่ายได้จริง สำหรับการพัฒนาด้านตลาดได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) และภาคีเครือข่าย มุ่งผลักดันสินค้ามาตรฐานให้สามารถเข้าถึงช่องทางการตลาดใหม่ โดยเฉพาะโมเดิร์นเทรด และช่องทางดิจิทัล เน้นต่อยอดจุดแข็งของพื้นที่อย่าง “ข้าว” และ “พืชท้องถิ่น” ไปสู่กลุ่มอาหารสุขภาพ หรือ functional food และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง สร้างรายได้ใหม่และมูลค่าเพิ่มคืนสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรม DIPROM Center 8 เปิดบ้านแบ่งปัน นวัตกรรมอาหารคู่ชุมชน ภายใต้แนวคิด Eight Infinity : Unlocking the Potential of Central and Western...Driven by Innovation to the World ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ มุ่งยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารชุมชนให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมีมูลค่าเพิ่ม เกิดการบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ตลอดจนการสร้างเครือข่าย สร้างแรงบันดาลใจ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทซึ่งจะนำไปสู่การขยายตลาด กระตุ้นให้เกิดการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะยาว โดยกิจกรรมในวันนี้ ได้จัดขึ้นในรูปแบบ Open House ซึ่งแบ่งเป็น 4 โซนกิจกรรม ประกอบด้วย โซน 1: ให้โอกาสทางธุรกิจ - ปรึกษาธุรกิจ แนะนำแหล่งทุน และนิทรรศการผลสำเร็จ โซน 2: ให้แนวคิดสู่ความมั่งคั่ง - อบรมแปรรูปอาหาร/มาตรฐานอาหารปลอดภัย และกิจกรรม DIY สร้างอาชีพ โซน 3: ให้พลังนวัตกรรมอาหาร - สาธิตเครื่องจักรแปรรูปเกษตร และจัดแสดงต้นแบบจาก ITC และโซน 4: ให้การแบ่งปันขับเคลื่อนชุมชน - จำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและผลิตภัณฑ์ผู้ประกอบการชุมชน
30 ก.ย. 2025
“ดีพร้อม” โชว์ผลงานอัปสกิลบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยกว่า 100 ราย พร้อมเชื่อมโยงตลาดสากลให้โตไกล หนุนไทยสู่ศูนย์กลางงานคราฟต์สู่เวทีโลก
“ดีพร้อม” โชว์ผลงานอัปสกิลบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยกว่า 100 ราย พร้อมเชื่อมโยงตลาดสากลให้โตไกล หนุนไทยสู่ศูนย์กลางงานคราฟต์สู่เวทีโลก
กรุงเทพฯ 23 กันยายน 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัล พร้อมกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรม “การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย” ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ร่วมด้วย นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ นางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานดังกล่าว ณ UNION CO-EVENT SPACE ZONE A ชั้น G ศูนย์การค้ายูเนียน มอลล์ ลาดพร้าว “รองอธิบดีสุรพล” เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มุ่งมั่นในการให้ทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานแก่บุคลากรแฟชั่นในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ตามนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยดำเนินการผ่าน "กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย" ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย (Fashion Alliance) ด้วยการพัฒนาบุคลากรและต่อยอดองค์ความรู้ด้วยการให้ทักษะด้านฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการผลิตที่จำเป็นในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย รวมถึงความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ เน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับหัตถกรรมไทย ตลอดจนการสร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดไปสู่ระดับสากล อันจะเป็นการผลักดันบุคลากรและงานหัตถกรรมไทยให้เป็นศูนย์กลางงานศิลปหัตถกรรมระดับโลก สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ดีพร้อม มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพบุคลากร นักออกแบบ หรือผู้ประกอบการด้านหัตถอุตสาหกรรม หรืองานที่เกี่ยวข้องครอบคลุมสาขางานผ้าพื้นเมือง งานปัก เครื่องหนัง เซรามิก เครื่องจักสานและอื่น ๆ จำนวนกว่า 100 ราย โดยการเพิ่มทักษะเก่าและสร้างทักษะใหม่ พร้อมเติมศักยภาพผู้ประกอบการไทยครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ การตลาด การพัฒนาธุรกิจ และสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้ การเขียนแผนธุรกิจ เวิร์กชอป การบ่มเพาะเชิงลึก และศึกษาดูงานต้นแบบ ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้สามารถจัดทำแผนโมเดลธุรกิจที่นำไปต่อยอดได้จริง และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดประกวดการเขียนแผนธุรกิจโดยผู้ชนะได้รับโล่และประกาศนียบัตร พร้อมได้รับสิทธิ์ในการออกบูธเพื่อทดสอบตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย 5 ราย ดังนี้ รางวัลที่ 1 คุณธิดารัตน์ สินทอง จากแบรนด์ ลิเภาโพธิ์เสด็จ รางวัลที่ 2 คุณกุลริศาคำวิสุทธิ์ จากแบรนด์ KRAJOODBANRAO ORIGINAL รางวัลที่ 3 คุณพิรุณ ศรีเอี่ยมสะอาดจากแบรนด์ PIROON และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ คุณเพียงระตา พรมาลิน จากแบรนด์ ETHNICABACA และ คุณนันท์นภัส ศรีวรรณ จากแบรนด์ HOM STUDIO ซึ่งทั้ง 5 ราย ได้รับสิทธิ์ทดสอบตลาดภายในประเทศ ในงานแสดงสินค้า Mega Shows Bangkok 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 16 - 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน รางวัลที่ 1 และ 2 ยังรับสิทธิ์ทดสอบตลาดต่างประเทศ ในงาน “The 67th Osaka International Gift Show 2025” ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 18 - 19 กันยายนที่ผ่านมา “ดีพร้อม มีความมุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกผ่านการ “ให้ทักษะใหม่“ ที่จำเป็นสำหรับยุคดิจิทัล และ ”ให้โอกาสโตไกลสู่สากล“ ผ่านการทดสอบตลาดในต่างประเทศ พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการแข่งขันทางด้านการตลาดและสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อยกระดับหัตถอุตสาหกรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ตลอดจนผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางงานคราฟต์สู่เวทีโลก อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับหัตถอุตสาหกรรมไทยในเวทีระดับสากลอย่างยั่งยืน”
29 ก.ย. 2025
“ปลัดณัฐพล” มอบ “อธิบดีณัฏฐิญา” เป็นแม่งาน ลุยจัดบิ๊กอีเว้นท์ “มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM“ โชว์สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นกว่า 400 ร้านค้า เดินหน้าดันแบรนด์ไทยสู่ศูนย์กลางอาหารและแฟชั่นระดับโลก คาดบูมเศรษฐกิจปลายปี กว่า 250 ล้านบาท
“ปลัดณัฐพล” มอบ “อธิบดีณัฏฐิญา” เป็นแม่งาน ลุยจัดบิ๊กอีเว้นท์ “มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM“ โชว์สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นกว่า 400 ร้านค้า เดินหน้าดันแบรนด์ไทยสู่ศูนย์กลางอาหารและแฟชั่นระดับโลก คาดบูมเศรษฐกิจปลายปี กว่า 250 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 24 กันยายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM“ ร่วมด้วย นายเอกนิติ รมยานนท์ และนายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพิตรพิบูล ธีร์จันทึก ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ดร.เมธวิน กิติคุณ กรรมการสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย คุณปาริชาต ศิริบรรณ ผู้แทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางสาวมาลียา โชติสกุลรัตน์ ผู้แทนจาก LINE MAN Wongnai บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) แถลงข่าวเตรียมจัดงานใหญ่ปลายปี “มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM“ ระหว่างวันที่ 10 – 12 ตุลาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีโชว์ผลงานที่รวมพลังของผู้ประกอบการร้านอาหาร เชฟ อุตสาหกรรมอาหาร เกษตรแปรรูป แฟชั่น ไปจนถึงการท่องเที่ยวผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยประสบการณ์จริง ผ่านการนำเสนออัตลักษณ์และเสน่ห์ของอาหารไทยและแฟชั่นที่มีความหลากหลายจากการพัฒนาของดีพร้อม ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าแบรนด์ไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าให้อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของยอดขายภายในงาน ข้อตกลงทางธุรกิจ และต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเน้นการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมเป้าหมาย ปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมไทย ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งในห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาทักษะคนและชุมชนให้พร้อมสู่อนาคต และสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันให้กับ SMEs ไทยต่อไป สำหรับงาน “มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM” ถูกออกแบบให้เป็นเสมือนเทศกาลไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่ผู้ประกอบการจะได้ทั้งข้อมูลเชิงลึก โอกาสทางการค้า และแรงบันดาลใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกการขับเคลื่อนประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางอาหารและแฟชั่นระดับโลก โดยภายในงานแบ่งเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ 1) โซน DIPROM Pavilion เป็นพื้นที่นำเสนอผลงานการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย ซึ่งมีรากฐานมาจากชุมชน ภายใต้แนวคิด "Empowering Local, Elevating Global" 2) โซนพื้นที่จัดแสดง Soft Power จาก 4 ภูมิภาค โดยจะเป็นการจำลองสถาปัตยกรรม เอกลักษณ์ และวัฒนธรรมของทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ พร้อมร้านอาหารดังและเมนูเด็ดที่เป็น "Hidden Gems" ของแต่ละภูมิภาคมาร่วมสะท้อนความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นถิ่น 3) โซนเสน่ห์ไทย Café โดยนำเมนูสร้างสรรค์จากวัตถุดิบหลักอย่างกาแฟ ชา และโกโก้ พร้อมกิจกรรมสาธิตการชงชาและกาแฟ และ 4) โซนดีพร้อมแฟชั่น พื้นที่นำเสนอความหลากหลายของแฟชั่นไทย ที่มีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่สะท้อนความเป็นไทยร่วมสมัยอย่างลงตัว “ดีพร้อม“ เชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการจำหน่ายสินค้า แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้เชื่อมโยงกับผู้บริโภคโดยตรง โดยคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 250 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังเป็นการตอกย้ำบทบาทสำคัญของดีพร้อมในฐานะหน่วยงานที่ช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่ความเป็นมืออาชีพ พร้อมเปิดประตูเชื่อมโยงทุกความฝันสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป
29 ก.ย. 2025