โทรศัพท์ 1358
Advanced Search

Category
“รสอ.ดุสิต” ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เร่งช่วยเหลือรถตุ๊กตุ๊ก จังหวัดภูเก็ต รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 1 พฤษภาคม 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม โดยมี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็นประธานฯ ร่วมด้วย ผู้บริหารจากกรมการขนส่งทางบก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สหกรณ์สี่ล้อเล็กภูเก็ต จำกัด และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ N 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ที่ประชุมฯ ได้ร่วมพิจารณาประเด็นการเปลี่ยนแปลงรถยนต์โดยสารขนาดเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊กในจังหวัดภูเก็ต จากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถไฟฟ้า ของสหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด เพื่อความประหยัด ปลอดภัย และสนองนโยบายของภาครัฐด้านสิ่งแวดล้อม โดยรถยนต์โดยสารขนาดเล็ก มีระยะเวลาการใช้งานมานานกว่า 40 – 50 ปี เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ และไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้ ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น สมาชิกของสหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด กว่า 200 ราย จึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ พร้อมส่งเสริมทักษะการซ่อมบำรุง และดัดแปลงรถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นรถไฟฟ้า โดยที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่สหกรณ์สี่ล้อขนาดเล็ก ภูเก็ต จำกัด และให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา เรื่อง การจดทะเบียนรถยนต์โดยสารขนาดเล็กดัดแปลง และการควบคุมปริมาณและแบ่งโซนพื้นที่ให้บริการของรถยนต์โดยสารขนาดเล็กในจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งกำหนดให้มีการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และวางแผนการแก้ไขปัญหาต่อไป กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่สอดคล้องตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มพูนทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรตลอด Supply Chain ซึ่งสอดคล้องตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
13 พ.ค. 2025
“รสอ.สุรพล” ติดตามความคืบหน้าการจัดแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการ กสอ. ครั้งที่ 2/2568
กรุงเทพฯ 7 พฤษภาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมคณะทำงานจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วย ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting ประธานที่ประชุม ได้แจ้งผลการเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดที่จะจัดให้มีการเรี่ยไรจัดการแข่งขันกอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ณ สนามกอล์ฟ วินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ กรุงเทพมหานคร ต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องที่เสนอต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานรัฐ (อกร.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการได้ จึงให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ นำเสนอรูปแบบในการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการ กสอ. 2025 ในด้านต่างๆ เพื่อให้คณะทำงานร่วมกันพิจารณา เช่น แบบฟอร์มการรับสมัคร เสื้อแข่งขันนักกีฬา รางวัลผู้แข่งขัน สิทธิประโยชน์สำหรับผู้บริจาคสนับสนุนกิจกรรม การเตรียมรูปแบบการเปิดงาน ทั้งนี้ ประชุมมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานย่อย ซึ่งประกอบด้วย คณะทำงานย่อยด้านอำนวยการ และคณะทำงานย่อยด้านการประสานงานและอำนวยความสะดวก เพื่อให้การจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานฯ ติดตามความคืบหน้าการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬากอล์ฟสวัสดิการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และจัดทำรายงานสรุปผลการจำหน่ายใบสมัคร เพื่อนำเสนอคณะทำงานจัดการแข่งขันฯ ต่อไป
08 พ.ค. 2025
”ปลัดณัฐพล“ ติดปีกชุมชน “ดีพร้อม” นครพนม ให้ทักษะแปรรูปผัก ผลไม้ สมุนไพรท้องถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชนตำบลรามราช ท่าอุเทน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.นครพนม 30 เมษายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “DIPROM Community ที่นี่มีแต่ให้ : ให้ทักษะเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนนครพนม” หลักสูตร "แซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน) “ ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.สุภวิทย์ พรรณวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายอำนาจ เฮี้ยะหลง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน นายวิษณุกรณ์ ภูชุม สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายประกอบ นิวงษา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลรามราช นายนพพร แก้วนิวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านรามราช และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจากส่วนกลางและภูมิภาค ประชาชนในพื้นที่ ต.รามราช 17 หมู่บ้าน เข้าร่วมอบรม จำนวน 150 คน ณ อาคารโรงเรียนบ้านรามราช ตำบลรามราช อำเภอท่าอุเทน ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การยกระดับประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงจำเป็นต้องวางรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง โดย กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มองเห็นถึงหัวใจสำคัญดังกล่าวและมีความมุ่งเน้นในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีทิศทางสอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งใช้การพัฒาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การกระจายรายได้สู่ชุมชนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนำกลไกของซอฟต์พาวเวอร์มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบนพื้นฐานของทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม เลือกนำร่องในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยเฉพาะในมิติของ “ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร” ที่จะสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างงดงามผ่านการให้ทักษะที่ตรงจุด สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึงเปิดมุมมองในการประกอบอาชีพเสริมและนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจหลักได้จริง อันจะทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ (1) ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ (2) ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า (3) ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ (4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการ “ให้ทักษะ” “เพิ่มความรู้” และ “กระจายรายได้” ภายใต้หลักสูตร “หลักสูตรแซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)” แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในพื้นที่ ต.รามราช ทั้ง 17 หมู่บ้าน จำนวน 150 คน ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะ เพื่อสร้างเชฟชุมชนอาหารไทยสู่เชฟมืออาชีพทั่วประเทศ ผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงด้านการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของ จ.นครพนมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การทำลูกชุบ การทำเยลลี่หนึบ เค้กกล้วยหอมนึ่ง และน้ำสมุนไพร โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับองค์ความรู้และฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบพื้นถิ่นให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น อันเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในมรดกวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำไปต่อยอดอาชีพเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
04 พ.ค. 2025
วันคล้ายวันสถาปนา 83 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงอุตสาหกรรม ครบรอบ 83 ปี ซึ่งมีผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายศุภกิจ บุญศิริ นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ นายกฤศ จันทร์สุวรรณ นายวัชรุน จุ้ยจำลอง และนายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม งานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 83 ปีกระทรวงอุตสาหกรรม มีพิธีพรามณ์และพิธีสงฆ์ เริ่มจากไหว้ศาลพระภูมิ การบวงสรวงองค์พระนารายณ์ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และการสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มีผู้บริหารของหน่วยงานระดับกรม รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วม ได้แก่ นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ รักษาการ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งแประเทศไทย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และอดีตผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ นายมนู เลียวไพโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอภิจิน โชติกะเสถียร นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงาน รวมทั้งผู้บริหารสถาบันเครือข่ายร่วมแสดงความยินดีกับกระทรวงอุตสาหกรรมในโอกาสครบรอบ 83 ปีในปีนี้
04 พ.ค. 2025
“ปลัดณัฐพล” ปักหมุดนครพนม สั่งการ “ดีพร้อม” “ให้ทักษะ” ดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่นปลาแม่น้ำโขง สร้างรายได้ ต่อยอดอาชีพชุมชนตำบลบ้านค้อ โพนสวรรค์ หวังเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.นครพนม 30 เมษายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “DIPROM Community ที่นี่มีแต่ให้ : ให้ทักษะเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนนครพนม” หลักสูตร "แซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)“ ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.สุภวิทย์ พรรณวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอำนาจ เฮี้ยะหลง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.วิรัล มะเดี่ยว ผู้อำนวยการโรงเรียนค้อวิทยาคม นายเดือน อนุญาหงส์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครพนม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจากส่วนกลางและภูมิภาค และประชาชนในพื้นที่ ต.บ้านค้อ 20 หมู่บ้าน เข้าร่วมอบรม จำนวน 150 คน ณ หอประชุมพยุงทอง โรงเรียนค้อวิทยาคม ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การยกระดับประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง จำเป็นต้องวางรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงหัวใจสำคัญของเป้าหมายนี้ จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า เพื่อสอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้กลไกของซอฟต์พาวเวอร์เป็นการพัฒนาโดยใช้พื้นฐานของทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม เลือกปักหมุดในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมผ่านการให้ทักษะที่ตรงจุดและสามารถนำไปสร้างอาชีพ และต่อยอดเป็นธุรกิจได้จริง โดยเฉพาะในมิติของ “ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร” ที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างงดงาม และเกิดการกระจายสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ (1) ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ (2) ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า (3) ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ (4) ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการ “ให้ทักษะ” ภายใต้หลักสูตร “หลักสูตรแซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)” แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในพื้นที่ ต. บ้านค้อ ทั้ง 20 หมู่บ้าน จำนวน 150 คน ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะ เพื่อสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพทั่วประเทศผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงด้านการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของ จ.นครพนมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การทำน้ำพริกสมุนไพรปลาน้ำโขง การทำข้าวเหนียวมูน 3 สีหน้าสังขยา และการทำแหนมหมูใบตองโบราณ โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับองค์ความรู้และฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบพื้นถิ่นให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น อันเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในมรดกวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำไปต่อยอดอาชีพเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
04 พ.ค. 2025
ก.อุตฯ เยี่ยมชม "กะละแมทูลใจ" นครพนม ขึ้นแท่นของฝาก ครม. สร้างเป็น Soft Power ปั้นแบรนด์ท้องถิ่น เตรียมบุกตลาดสากล
29 เมษายน 2568 นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ (เฮง เฮง กะละแม) จังหวัดนครพนม กะละแมสูตรโบราณของพื้นที่ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าพื้นถิ่นและของฝากที่ระลึกเพื่อต้อนรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2/2568 ที่จังหวัดนครพนม โดยมี นายธนชัย คำบ้อง รองประธานกลุ่มฯ เป็นตัวแทนเครือข่ายกะละแมธาตุพนม นำเสนอข้อมูลการดำเนินงานและนำคณะเยี่ยมชมกระบวนการผลิต ณ สถานประกอบการวิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม “ชื่นชมกะละแมทูลใจที่มีส่วนช่วยชุมชนในการพัฒนาเครือข่ายรับซื้อใบตองและไม้กลัด ช่วยสร้างงานและอาชีพแก่ชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยินดีสนับสนุนโดยนำกลไก soft power มาช่วยสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์กะละแมนครพนม ค้นหาอัตลักษณ์ที่แตกต่าง เพื่อสร้างแบรนด์และเรื่องราว (Storytelling) เพื่อให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และยังมีอีกหลายส่วนที่สามารถพัฒนาได้ เช่น การปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน การปรับกระบวนการโลจิสติกต์ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมกับการพัฒนาสุขอนามัย (Food Safety, GMP) โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ใบตอง และบรรจุภัณฑ์อย่างอื่นที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา (shelf life)ให้นานยิ่งขึ้น รวมถึงการทดสอบตลาดขายในโมเดิร์นเทรด“ นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ให้คำแนะนำในการต่อยอดกะละแมแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งที่ผ่านมา วิสาหกิจกะละแมทูลใจ ได้รับการส่งเสริมจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ออกแบบพัฒนาเครื่องหยอดกะละแมกึ่งอัตโนมัติ ทำให้ช่วยลดระยะเวลาห่อบรรจุ เพิ่มรายได้ 21,000 บาท/วัน รวมทั้งเครื่องกวนกะละแมกึ่งอัตโนมัติ ทำให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 50 สามารถเพิ่มมูลค่ายอดขาย 10,605 บาท/วันด้านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ให้การสนับสนุนในเรื่องการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และเข้าร่วมโครงการค่าใช้จ่ายแปรรูปสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม 1 จังหวัด 1 ชุมชน (OPOAI-C) พัฒนาข้าวพองไส้กะละแม และไอศกรีมกาละแม ทั้งนี้ ”กะละแมทูลใจ“ ต้องการยืดอายุสินค้า จาก 1 สัปดาห์ เป็น 1 เดือน และต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น จากกะละแมรสชาติดั้งเดิม รสผลไม้ และรสผสมข้าวเม่า โดยต่อยอดขยายแบรนด์ “เฮง เฮง กะละแม” เพื่อจำหน่ายกะละแมสูตรที่แตกต่างและในรูปแบบแพคเกจจิ้งใหม่ เจาะตลาดออนไลน์และตลาดสากล โดยกะละแมทูลใจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ เนื้อเหนียวนุ่ม สีดำเข้ม หวานมัน ห่อด้วยใบตองรีดเตาถ่าน และกลัดด้วยไม้ไผ่เล็ก ๆ ทั้งยังสอดแทรก “ผญา” หรือคติสอนใจแบบอีสานบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมท้องถิ่น นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม พร้อมเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานในสังกัด และให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการกะละแมในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐาน ด้านโรงงาน น้ำเสีย-ของเสีย หากมีการผลิตมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกะละแมที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ก้าวสู่เกษตรแปรรูป และเป็นเกษตรอุตสาหกรรมในอนาคต”
02 พ.ค. 2025
ก.อุตฯ – METI เปิดเวทีถกความร่วมมือพลังงาน–อุตสาหกรรม จับคู่รัฐ เอกชนไทย-ญี่ปุ่น ลงนาม MOU 9 ฉบับ หนุนอุตสาหกรรมอนาคต
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมกลไกการหารือไทย-ญี่ปุ่นว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Energy and Industry Dialogue: EID) ครั้งที่ 1 โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย และนายมุโต โยจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เป็นประธานร่วมฝ่ายญี่ปุ่น ในกลไก EID เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยียุคใหม่ และพลังงานสะอาด เพืีอเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต และสังคมคาร์บอนต่ำของสองประเทศ โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมด้วย ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล แบงค็อก รองนายกรัฐมนตรีฯ ในฐานะประธานร่วมฝ่ายไทย กล่าวว่า การประชุมความร่วมมือ ระดับสูงด้านพลังงานและอุตสาหกรรมระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ครั้งนี้ เกิดจากที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับความร่วมมือมาเป็นการประชุมความร่วมมือระดับสูง ด้านพลังงานและอุตสาหกรรม ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งไทยและญี่ปุ่นนอกจากจะมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจและการลงทุนร่วมกันแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีความผูกพันในทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอย่างยาวนาน สร้างให้เกิดความร่วมมือกันอย่างรอบด้าน นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขอบคุณทางญี่ปุ่นที่ไว้วางใจสร้างฐานการลงทุนในไทยหลายอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ และการพัฒนาบุคลากรในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านต่าง ๆ ตลอดการสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 60 ปี รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมยึดมั่นนโยบายที่เปิดกว้างและสนับสนุนผู้ผลิตนานาชาติอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เกิดความหลากหลายและการแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศ และเชื่อมั่นว่าการสร้างกลไกความร่วมมือนี้ เปรียบเสมือนการสร้างชิ้นส่วนพิเศษเข้าไปในเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพื่อขับเคลื่อนให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่น และปลอดภัย รวมทั้งจะเป็นการเติมพลังงานใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผลักดันให้เกษตรกร ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจประเทศ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้พลังงานชีวภาพที่ผลิตได้ภายในประเทศ และผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศไทยเติบโตได้อย่างสมดุลและยั่งยืน ภายหลังจากการหารือ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาคเอกชนของญี่ปุ่นกับหน่วยงานของไทย จำนวน 9 ฉบับ ได้แก่ 1. การศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันเกี่ยวกับระบบสลับแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่าง บริษัท อีซูซุมอเตอร์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ บริษัท วี.คาร์โก จำกัด 2. ความร่วมมือด้านการศึกษาวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ระหว่าง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 3. ความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภาคอุตสาหกรรม ระหว่าง สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) (TPA) สมาคมความร่วมมือทางเทคนิคกับต่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (AOTS) และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) 4. ความร่วมมือด้านการจับคู่ธุรกิจระหว่างประเทศ ระหว่าง บริษัท Kokopelli และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 5. ความร่วมมือเทคโนโลยีการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโครงสร้างการจัดหาไนลอนจากชีวมวลที่ไม่ใช้เป็นอาหาร ระหว่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเร อินดัสทรีส์ จำกัด 6. ความร่วมมือด้านการลดคาร์บอน ระหว่าง บริษัท Zeroboard และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 7. ความร่วมมือทางธุรกิจ ระหว่าง บริษัท ExtraBold Inc. และบริษัท ไทเซอิ (ประเทศไทย) จำกัด 8. ความร่วมมือเชิงรุกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ระหว่าง บริษัท ซีพีจี และบริษัท คาโอ 9. ความร่วมมือแบบครบวงจรเพื่อส่งมอบคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมขั้นสูง ระหว่างกลุ่มบริษัทซีพี (CP Group) และบริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ตามนโยบาย “สู้ เซฟ สร้าง” ของผมมีความสอดคล้องกับแนวทางความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย และเป็นการ “สร้าง” ความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สามารถปรับตัว เชื่อมโยงกับความหลากหลายของตลาดโลก และสร้างให้เกิดการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานรองรับยานยนต์สมัยใหม่ รวมถึงการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สำคัญ อย่างเช่น Software Defined Vehicles(SDVs) และระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance System: ADAS) โดยเฉพาะในส่วนของการออกแบบ และการทดสอบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของทั้งสองประเทศ นายเอกนัฏ กล่าวปิดท้าย
01 พ.ค. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” เปิดบ้านดีพร้อมหารือ SME D Bank ร่วมปฏิรูปแนวทางบริหารและกำหนดทิศทางการดำเนินโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการส่งเสริมอุตสาหกรรม
กรุงเทพฯ 25 เมษายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานการบริหารโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการส่งเสริมอุตสาหกรรม (Small Scale Industry Development Project : SSID) พร้อมด้วย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank นายเขมชาติ อภิรัชตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ SME D Bank นางดวงดาว ขาวเจริญ และ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) และ SME D Bank ที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี การประชุมดังกล่าว เป็นการหารือและแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันระหว่าง “ดีพร้อม” และ ”SME D Bank“ ถึงแนวทางการบริหารโครงการ SSID เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาและช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม โดยที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลรายละเอียด ที่มา สถานะปัจจุบัน รวมถึงแนวทางการบริหารโครงการ SSID ต่อไปในอนาคต โครงการ SSID เป็นโครงการที่รัฐบาลไทยเคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแคนาดา ในปี 2531 สำหรับให้บริการคำปรึกษาแนะนำควบคู่กับการให้บริการสินเชื่อแก่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางหรือขนาดย่อม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วงเงิน 11.9 ล้านเหรียญแคนาดา (ประมาณ 250 ล้านบาท) แบ่งออกเป็นเงินช่วยเหลือในแต่ละกิจกรรม อาทิ เงินเพื่อการกู้ยืม เงินทุนปรึกษาแนะนำ เงินช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาบุคลากรเจ้าหน้าที่ เงินเพื่อการจัดหาอุปกรณ์เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน และยานพาหนะ โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลแคนาดา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2531 และเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2533 จนถึงปี 2539 โดยมีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งแคนาดา (Canada International Development Agency : CIDA) มาปฏิบัติงานประจำที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น (ศภ.5 กสอ. ปัจจุบัน) โดยการดำเนินงานมี CIDA และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดย กองแผนงาน (กง.กสอ. ปัจจุบัน) ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสำนักงานธนกิจอุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ สธอ. (ต่อมาเปลี่ยนไปเป็นบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บอย. และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว. ตามลำดับ) เป็นหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน สถานะของโครงการยังคงมีเงินเหลือในส่วนของกิจกรรมเงินเพื่อการกู้ยืม โดย ธพว. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้สถานะการดำเนินงานการบริหารโครงการ SSID ปัจจุบัน เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีแนวทางและทิศทางการบริหารโครงการที่เหมาะสม เกิดประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ต่อโครงการในอนาคต ที่ประชุมจึงเห็นควรให้ทั้งสองหน่วยงานรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว เพื่อจะได้ร่วมกันหาข้อสรุปของแนวทางและทิศทางการบริหารโครงการ SSID ที่เหมาะสม ตลอดจนขอให้มีการประสานงานและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการร่วมกันเป็นระยะต่อไป
01 พ.ค. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” เดินเครื่องดีพร้อมคอมมูนิตี้ เร่งให้ทักษะชุมชนท่าค้อ ดึงอัตลักษณ์อาหารพื้นถิ่น หวังสร้างอาชีพ กระจายรายได้สู่เศรษฐกิจชุมชน ตามนโยบาย รวอ.เอกนัฏ
จ.นครพนม 29 เมษายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “DIPROM Community ที่นี่มีแต่ให้ : ให้ทักษะเพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชน นครพนม” หลักสูตร "แซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายอำนาจ เฮี้ยะหลง รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายสมพร ปองไว้ อุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม นายพิชญา โพชราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าค้อ คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมจากส่วนกลางและภูมิภาค และประชาชนในพื้นที่ ต.ท่าค้อ 14 หมู่บ้าน เข้าร่วมอบรม จำนวน 150 คน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าค้อ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ (1) ให้ทักษะ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ (2) ให้เครื่องมือ : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า (3) ให้โอกาส : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ (4) ให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน สำหรับกิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการ “ให้ทักษะ” ภายใต้หลักสูตร “หลักสูตรแซ่บหลายอีสานเฮา ซอฟต์พาวเวอร์ อาหารถิ่นอาหารไทย (สร้างสรรค์อาหารพื้นบ้าน)” แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในพื้นที่ ต.ท่าค้อ ทั้ง 14 หมู่บ้าน จำนวน 150 คน ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้และทักษะ เพื่อสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพทั่วประเทศ ผ่านการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงด้านการสร้างสรรค์อาหารพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของ จ.นครพนมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย การทำน้ำพริกสมุนไพรปลาน้ำโขง การทำข้าวเหนียวมูน 3 สีหน้าสังขยา และการทำแหนมหมูใบตองโบราณ โดยตลอดระยะเวลาผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับองค์ความรู้และฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบพื้นถิ่น อันเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในมรดกวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และนำไปต่อยอดอาชีพเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน สอดรับกับนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวกโปร่งใส ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่กับชุมชน
30 เม.ย. 2025
งานสัมนาระดับนานาชาติ ด้วยนวัตกรรมอสหารแห่งอนาคต ระบบนิเวศที่ยั่งยืน และการลงทุน
FUTURE FOOD SYSTEM CONFERENCE & SHOW 2025 งานสัมนาระดับนานาชาติ ด้วยนวัตกรรมอสหารแห่งอนาคต ระบบนิเวศที่ยั่งยืน และการลงทุน “Re-generative Food & AI: Transforming Our Food System” ถ้าคุณคือผู้นำธุรกิจอาหาร ผู้ประกอบการ หรือสตาร์ทอัพสาย Future Food นี่คืองานที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด Future Food System Conference & Show 2025 วันที่ 29 พ.ค. นี้ ที่ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์, อิมแพ็ค เมืองทองธานี มาร่วมเปิดประสบการณ์ในเวทีประชุมและนิทรรศการระดับภูมิภาคว่าด้วย “อนาคตของอาหาร” ภายใต้ธีม : “Re-generative Food & AI : Transforming Our Food System” นี่คือจุดที่แนวคิดพลิกวงการมาบรรจบกับโอกาสทางธุรกิจจริง รวมผู้นำจากทั่วเอเชียและนานาประเทศ เพื่อจุดประกายนวัตกรรม ความร่วมมือ และการลงทุนในระบบอาหารยั่งยืนและวิทยากรอีกมากมายจากภาครัฐ เอกชน และสตาร์ทอัพด้าน FoodTech ที่จะมาร่วมเปิดมุมมอง และกำหนดทิศทางระบบอาหารแห่งอนาคตทั้งในไทยและภูมิภาค วันจัดงาน : 29 พฤษภาคม 2568 สถานที่ : ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์, อิมแพ็ค เมืองทองธานี ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.tastebudlab.com/future-food-system-conference-show จองบัตรได้แล้ววันนี้ ( โปรโมชั่นพิเศษถึง 15 พ.ค.) : https://bit.ly/41FxQ3l ไฮไลต์กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด Futere Food System Leader Conference เวทีรวมผู้นำและนักลงทุนด้าน FoodTech จากทั่วโลก ร่วมหารือแนวทางการ "ฟื้นฟูระบบอาหาร" เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนพร้อมลิ้มลอง Future Food จากเชฟและนักพัฒนารสชาติระดับแถวหน้า Re-generative Networking with Future Food Leaders กิจกรรมเน็ตเวิร์กกิ้งแบบใหม่ เปิดพื้นที่ให้แบรนด์และสตาร์ทอัพพบกับนักลงทุน บริษัทอาหารและผู้ผลิต เพื่อจับคู่ธุรกิจและต่อยอดนวัตกรรม Future Food Showcase Red Carpet เปิดตัวแบรนด์และสตาร์ทอัพด้านอาหารแห่งอนาคตผ่าน "พรมแดงแห่งนวัตกรรม" สุดสร้าสรรค์ สะท้อนศักยภาพไทยบนเวทีโลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม @tastebudmkt 09 5732 4471
29 เม.ย. 2025