โทรศัพท์ 1358

“ดีพร้อม” เปิดเวทีประชุมนำเสนอโครงการสำคัญปี 2570 มุ่งพัฒนา SMEs สู่ความยั่งยืน
“ดีพร้อม” เปิดเวทีประชุมนำเสนอโครงการสำคัญปี 2570 มุ่งพัฒนา SMEs สู่ความยั่งยืน
กรุงเทพฯ 21 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมนำเสนอโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมี นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว เป็นการพิจารณาโครงการสำคัญ (Flagship Projects) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนตามเป้าหมายแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และสอดคล้องตามภารกิจ หน้าที่ และพันธกิจของหน่วยงาน ภายใต้หลักเกณฑ์และขั้นตอนที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนด “อธิบดีณัฏฐิญา” เผยว่า สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ดีพร้อม ได้วางแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้น การพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยุคใหม่ ให้สามารถเติบโตได้ อย่างยั่งยืน ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” โดยกำหนดกรอบโครงการสำคัญครอบคลุม 7 ประเด็น ได้แก่ เกษตร ในเรื่องเกษตรแปรรูป​ อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต​ เน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพท​ย์ยานยนต์​สมัยใหม่​ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ​ โดยเฉพาะอากาศยานยนต์ไร้คนขับ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจและการประยุกต์ใช้ดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ เศรษฐกิจฐานราก และการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ นโยบายการดำเนินงานดังกล่าวยังสอดรับตามแนวนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
26 ส.ค 2025
“ดีพร้อม” เปิดบ้านต้อนรับเมืองอิวาตะ เสริมแกร่ง SMEs ไทย-ญี่ปุ่น ดันจับคู่ธุรกิจ สร้างโอกาสการลงทุนเกษตรอัจฉริยะและแปรรูปผลผลิตสู่สากล
“ดีพร้อม” เปิดบ้านต้อนรับเมืองอิวาตะ เสริมแกร่ง SMEs ไทย-ญี่ปุ่น ดันจับคู่ธุรกิจ สร้างโอกาสการลงทุนเกษตรอัจฉริยะและแปรรูปผลผลิตสู่สากล
กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมให้การต้อนรับ นายโทริอิ โทชินาริ (Mr. TORII Toshinari) ผู้จัดการฝ่ายนโยบายอุตสาหกรรม สำนักงานเมืองอิวาตะ จังหวัดชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมคณะ และนายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายอุตสาหกรรม ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการพัฒนาผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคาร กสอ. (DIPROM Headquarter) การหารือในครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และภาคอุตสาหกรรม พร้อมนำเสนอภาพรวมอุตสาหกรรมของเมืองอิวาตะ และการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทย จำนวน 13 ราย กับผู้ประกอบการจากเมืองอิวาตะ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 ราย ได้แก่ MASUDA SEED Co., Ltd. และ Ocha no Kanematsu Company (Matsushita Tea) ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะภาคเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม รวมถึงระบบเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm/Smart Agriculture) การทำฟาร์มที่ยั่งยืนของเกษตรกรยุคใหม่ (Sustainable Farming) การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพให้กลายเป็นสุดยอดอาหาร (Superfood) และอาหารแห่งอนาคต (Future food) ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น “อธิบดีณัฏฐิญา” กล่าวว่า ดีพร้อม พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความสนใจ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างเต็มที่ และขณะเดียวกันจะมุ่งผลักดันผู้ประกอบการไทยให้พัฒนาศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ระดับสากล ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” พร้อมกันนี้ ดีพร้อม ยังพร้อมทำหน้าที่เป็น “ตัวกลางเชื่อมโยงผู้ประกอบการ” ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ (Upstream to Downstream) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมไทย สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
25 ส.ค 2025
“รมว.เอกนัฏ” ลงพื้นที่ ชื่นชม “ดีพร้อม” ยกระดับ ศก.ฐานราก จังหวัดนครสวรรค์ ดึงวัตถุดิบท้องถิ่น ต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชน
“รมว.เอกนัฏ” ลงพื้นที่ ชื่นชม “ดีพร้อม” ยกระดับ ศก.ฐานราก จังหวัดนครสวรรค์ ดึงวัตถุดิบท้องถิ่น ต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชน
จ.นครสวรรค์ 23 สิงหาคม 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมเป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “ติดปีกชุมชน ด้วยทักษะดีพร้อม” หลักสูตร “การทำหมูแดดเดียวสมุนไพร การทำข้าวเม่าทอด การทำกาแฟโบราณ และการทำสปาเท้าสมุนไพร” โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวรายงาน ร่วมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นางดวงดาว ขาวเจริญ และ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครสวรรค์ วิทยากร ผู้เข้าอบรม และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ที่ว่าการอำเภอเก้าเลี้ยว กิจกรรมดังกล่าว เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะใหม่ให้แก่ประชาชน โดยการนำทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาผสานกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบท้องถิ่น ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดนครสวรรค์ ทั้งด้านอาหารและบริการ อาทิ ข้าวเม่าทอด หมูแดดเดียวสมุนไพร กาแฟโบราณ และสปาเท้าสมุนไพร เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์และขยายโอกาสสู่ตลาดใหม่อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้กลไกสำคัญของดีพร้อม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ผ่าน “กลยุทธ์ 4 ให้” ได้แก่ ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล และให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน นำไปสู่การสร้างงานและเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ ซึ่งสอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ ผ่านการพัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เสริมความเข้มแข็งในพื้นที่ และผลักดัน “ซอฟต์พาวเวอร์อาหาร” หนึ่งในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ให้มีมูลค่าเพิ่ม ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายรายได้ เสริมความยั่งยืนให้เศรษฐกิจในชุมชน
25 ส.ค 2025
”รมว.ขิง“ แท็คทีม “กระทรวงอุตฯ” และ ”ดีพร้อม“ ลงพื้นที่เมืองปากน้ำโพ เยี่ยมชม บ. เควีเอส รง.แปรรูปไก่สด ต้นแบบเกษตรกรรมสู่เกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
”รมว.ขิง“ แท็คทีม “กระทรวงอุตฯ” และ ”ดีพร้อม“ ลงพื้นที่เมืองปากน้ำโพ เยี่ยมชม บ. เควีเอส รง.แปรรูปไก่สด ต้นแบบเกษตรกรรมสู่เกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.นครสวรรค์ 23 สิงหาคม 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายสุรพล ปลื้มใจ และนางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและเยี่ยมชมสถานประกอบการบริษัท เควีเอสเฟรชโปรดักส์ จำกัด โดยมี นางสาวกนกวรรณ คำพงษ์ นางสาววศินี อนันตศานตร์ และนายศตคุณ คำพงษ์ กรรมการผู้จัดการ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปภาพรวมและนำคณะเฯ เยี่ยมชมกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ ณ บริษัท เควีเอสเฟรชโปรดักส์ จำกัด อำเภอเก้าเลี้ยว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มุ่งเน้นในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุกมิติอย่างตรงจุด ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่ 1.ให้ทักษะใหม่ 2.ให้เครื่องมือทันสมัย 3.ให้โอกาสโตไกล และ 4.ให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน รวมถึงการยกระดับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในพื้นที่ ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรกรรม ผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้าไปประยุกต์ใช้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ รวมถึงการแปรรูปสินค้าให้มีมูลค่าสูงขึ้น การยกระดับศักยภาพภาคเกษตรกรรมและการทำปศุสัตว์ไปสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรม ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่มุ่ง “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ให้มีความทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” เพื่อสร้างอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่กับชุมชน บริษัท เควีเอส เฟรชโปรดักส์ จำกัด มีการดำเนินธุรกิจต่อยอดมาจากการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ ภายใต้ชื่อ ศรีสุดาฟาร์ม โดยมีการชำแหละชิ้นส่วนไก่และผลิตอาหารจากสัตว์แบบครบวงจร ซึ่งมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ด้วยกระบวนการผลิตที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สด สะอาด ปลอดภัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงผลิตสินค้าด้วยระบบคุณภาพที่มีมาตรฐานสากลการันตี ไม่ว่าจะเป็น ISO 9001 ISO 2015 GMP HACCP BRC Food HALA และรับรองการชำแหละตามหลักศาสนาอิสลามโดยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มีตลาดส่งออกใน 7 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และกลุ่มสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มบริษัทในเครือ อาทิ บริษัท เคลฟเวอร์ กู๊ดส์ จำกัด ซึ่งมีการต่อยอดจากฟาร์มไปสู่โรงงานชำแหละไก่ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ส่งถึงมือผู้บริโภค ด้วยกรรมวิธีที่ถูกสุขลักษณะ ทันสมัย สร้างสรรค์อย่างดีและมีคุณภาพ ด้วยการยึดมั่นในความสะอาดและปลอดภัยตอบโจทย์ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์จ้ำม่ำและคำฉันท์ ทั้งนี้ บริษัท เควีเอสฯ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานประกอบการในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งต่อยอดจากเกษตรกรรมและการทำปศุสัตว์ไปสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
25 ส.ค 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม ประชุมบอร์ดสารสนเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการให้บริการ เพื่อก้าวเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างมั่นคง ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม ประชุมบอร์ดสารสนเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการให้บริการ เพื่อก้าวเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างมั่นคง ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5/2568 พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ DIPROM ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และออนไลน์ผ่านระบบ ZOOM Meeting การประชุมในครั้งนี้ ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงานผลการให้บริการระบบสารสนเทศของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ประกอบด้วย 1) ระบบเผยแพร่ข้อมูลเว็บไซต์กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 2) ระบบ Consult Self Declaration 3) ระบบ Job DIPROM และ 4) ระบบแผนงานงบประมาณและผลการดำเนินงานประจำปี พร้อมทั้งได้มีการเน้นย้ำถึงการใช้งานระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา (ร่าง) แผนการพัฒนาระบบสารสนเทศของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในระยะ 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 – 2573) ซึ่งมีความสอดคล้องตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส สู้ เซฟ สร้าง” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นโยบาย “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน 4 มิติ” ของนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และแผนปฏิบัติการดิจิทัลของกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 โดยจะพัฒนาต่อยอดระบบสารสนเทศให้สามารถรองรับความต้องการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ดีพร้อม จะนำร่องทดสอบการนำบริการดิจิทัลภาครัฐมาใช้ ได้แก่ ระบบ E-office ภายใต้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud : GDCC) และดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยติดตั้งระบบงานสารสนเทศจาก Physical Server ไปสู่ Cloud Server นอกจากนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการระบบสารสนเทศมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ฝ่ายเลขานุการฯ ได้นำเสนอ (ร่าง) คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านสารสนเทศ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการวางแผน กำหนดระเบียบวิธีการ และดำเนินการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงด้านสารสนเทศและการสื่อสารต่อไป
25 ส.ค 2025
“อธิบดีณัฐฏิญา” ระดมขุนพลดีพร้อม เตรียมจัดอีเว้นท์ใหญ่ส่งท้ายปี มหกรรม “เสน่ห์ไทย” อวดโฉมอัตลักษณ์และศักยภาพ Soft Power อาหารและแฟชั่นผ่านศิลปะและวิถีชีวิตแบบไทย พร้อมหนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“อธิบดีณัฐฏิญา” ระดมขุนพลดีพร้อม เตรียมจัดอีเว้นท์ใหญ่ส่งท้ายปี มหกรรม “เสน่ห์ไทย” อวดโฉมอัตลักษณ์และศักยภาพ Soft Power อาหารและแฟชั่นผ่านศิลปะและวิถีชีวิตแบบไทย พร้อมหนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 15 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฐฏิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทย ภายใต้โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ และนายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว เป็นการเตรียมการจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) เพื่อแสดงผลสำเร็จของการดำเนินงาน Soft Power สาขาอาหาร ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์ไทย…รสและศิลป์ไทย ก้าวไกลสู่สากล” โดยนำเสนออัตลักษณ์และเสน่ห์ของอาหารไทยที่มีความหลากหลายผ่านการพัฒนาจาก “ดีพร้อม” รวมถึงถ่ายทอดในรูปแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยประสบการณ์จริง นอกจากนี้ ยังแสดงถึงไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่เชื่อมโยงและต่อยอดจาก Soft Power สาขาอาหาร ออกมาให้เห็นผ่านสาขาอื่น ๆ ด้วย อาทิ หัตถอุตสาหกรรม สิ่งทอและแฟชั่น และศาสตร์ของสุขภาพและความงาม ทั้งนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบการกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 10 - 12 ตุลาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยฝ่ายเลขานุการฯ ได้นำเสนอการปรับรูปแบบและโซนภายในงานจากการประชุมคราวก่อน ดังนี้ (1) DIPROM Pavilion พื้นที่สำหรับแสดงให้เห็นถึงภารกิจของดีพร้อมในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยด้วยรากฐานจากชุมชนและส่งต่ออัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลกผ่านอาหารและแฟชั่น ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” (2) Thai Pavilion 4 ภาค ซึ่งเป็นการแสดงถึงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของแต่ละภาคผ่านรูปแบบ Street Food ยอดนิยม อาหารพื้นถิ่นที่น่าสนใจและแลนด์มาร์คที่เสมือนให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสจุดเช็คอินของแต่ละภาค นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศที่ได้รับการพัฒนาจากดีพร้อมผ่านกลไกซอฟต์พาวเวอร์และเครื่องมือต่าง ๆ จำนวน 300 บูธ (3) Thai Drink เป็นการนำเสนอความหลากหลายของเมล็ดกาแฟและโกโก้สายพันธุ์ไทยจากแหล่งปลูกทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอผ่านเมนูสร้างสรรค์ รวมถึงกิจกรรมการทดลองชงและชิม (4) เวทีกลาง พบกับการสาธิตทำอาหารในเมนูต่าง ๆ จากเชฟชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรมทักษะจากดีพร้อม รวมถึงการนำเสนอศิลปะการแสดง ดนตรี (มินิคอนเสิร์ต) และวัฒนธรรมในรูปแบบสนุกสนาน เข้าถึงง่าย สร้างประสบการณ์และกระตุ้นความสนใจในวัฒนธรรมไทย “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดสรรพื้นที่ภายในงานแต่ละภาคให้มีความเหมาะสม โดยขอให้แต่ละศูนย์ภาคของดีพร้อม ทำการคัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาด้วยกลไกซอฟต์พาวเวอร์ และโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ของดีพร้อม และจัดส่งให้ฝ่ายเลขาฯ และอาจมีการดึงผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการเชิญคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Soft Power ในแต่ละสาขาเข้ามาร่วมในการนำเสนอผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และสามารถต่อยอดการพัฒนาจากสาขาอาหาร อาทิ สาขาเฟสติวัล สาขาดนตรี สาขาภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเรื่องการประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ โดยมอบหมายให้ทางสำนักงานเลขานุการกรม (สล.กสอ.) ดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดงานในเบื้องต้น เพื่อสร้างการรับรู้และเชิญชวนให้ประชาชน นิสิต นักศึกษา และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานดังกล่าวต่อไป
25 ส.ค 2025
"รมว.เอกนัฎ " นำทีม กระทรวงอุตฯ ล้อมวงหารือ แนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มอบหมาย "อธิบดีณัฏฐิญา” ตั้งทีมดีพร้อม วางแผนร่วมกับภาคเอกชน เชื่อมั่นสามารถยกระดับ ผปก. ไทย  สร้างเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มรายได้ให้ประเทศไทย
"รมว.เอกนัฎ " นำทีม กระทรวงอุตฯ ล้อมวงหารือ แนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มอบหมาย "อธิบดีณัฏฐิญา” ตั้งทีมดีพร้อม วางแผนร่วมกับภาคเอกชน เชื่อมั่นสามารถยกระดับ ผปก. ไทย  สร้างเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มรายได้ให้ประเทศไทย
กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม 2568 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมหารือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ร่วมกับ พลอากาศเอกมานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ (สอป.) พร้อมด้วย นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และผู้แทนจากภาคเอกชน ณ ห้อง CB 309 อาคารรัฐสภา ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางและอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้านอากาศยานและยานไร้คนขับ (โดรน) โดยได้หยิบยกประเด็นปัญหาและข้อจำกัดในการใช้งานโดรน อาทิ ปัญหาพื้นที่ในการทดสอบ ข้อจำกัดด้านคลื่นความถี่และความสูงในการบิน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรมโดรนภายในประเทศ อาทิ ปัญหาอัตราอากรนำเข้าชิ้นส่วนที่สูง การขออนุมัติ/อนุญาตต่าง ๆ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงภาคเอกชน และนำประเด็นดังกล่าวไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้านอากาศยานและยานไร้คนขับ สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กระทรวงฯ เห็นว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ และเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้ก้าวเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของการผลิตอากาศยานและยานไร้คนขับ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และสร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้ทัดเทียมนานาชาติ จึงได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาลดภาษีนำเข้าสำหรับชิ้นส่วนที่จำเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงวัตถุดิบและเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ต่อไป
22 ส.ค 2025
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมแสดงความยินดี Fashion Hero Brand จุดประกาย Soft Power ดันคราฟต์ไทยสู่ตลาดโลก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมแสดงความยินดี Fashion Hero Brand จุดประกาย Soft Power ดันคราฟต์ไทยสู่ตลาดโลก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 16 สิงหาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัล พร้อมทั้งร่วมแสดงความยินดีในกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์แฟชั่น จากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พร้อมด้วย นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คุณสิทธิชัย ปริญญานุสรณ์ อนุกรรมการขับเครื่องอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น คุณวรรณชื่น ทองเย็น ผู้จัดการทั่วไป ร้านสารพัดไทย ร่วมกับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ผู้ประกอบการจากภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ร้านสารพัดไทย ชั้น 3 ศูนย์การค้าวัน แบงค็อก กรุงเทพมหานคร หัตถกรรมอุตสาหกรรมไทยเป็นหนึ่งในสาขาที่มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจภายในประเทศและการส่งออก โดยในปี 2566 ไทยมีมูลค่าการส่งออกหัตถอุตสาหกรรมรวม 3.4 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.50 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยไทยมีตลาดส่งออกหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และยุโรป ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลักที่ส่งออก อาทิ เครื่องประดับแท้ทำด้วยทองและเงิน โลหะมีค่า เป็นต้น (ข้อมูลจากสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในการสนับสนุนพลัง Soft Power ของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะและองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อหัตถกรรมอุตสาหกรรมไทยด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ทดลองปฏิบัติจริง และสร้างเครือข่ายร่วมกัน และในโอกาสนี้ “รองอธิบดีดวงดาว“ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านที่ผ่านการพัฒนาในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสาขานี้ ดีพร้อมได้พัฒนาศักยภาพด้านความรู้ ความสามารถ และความพร้อมในการสร้างแบรนด์ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างสร้างสรรค์ อีกทั้ง ยังเป็นการยกระดับบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ การตลาด ตลอดจนการนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยมาประยุกต์ใช้ได้อย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์สอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันบนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ไทย อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
21 ส.ค 2025
"ดีพร้อม" เดินหน้าตามนโยบาย "รมว.เอกนัฎ" ผนึกกำลัง SCG ยักษ์ใหญ่ เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี เพิ่มขีดการแข่งขันธุรกิจสีเขียว
"ดีพร้อม" เดินหน้าตามนโยบาย "รมว.เอกนัฎ" ผนึกกำลัง SCG ยักษ์ใหญ่ เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี เพิ่มขีดการแข่งขันธุรกิจสีเขียว
กรุงเทพฯ 15 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมงานแถลงข่าว การดำเนินโครงการจัดทำหลักสูตร NZAP 2026 (Net Zero Accelerator Program 2026) และโครงการ Go Together ซีซั่น 2 โดยมีนายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายพันธมิตร และสื่อมวลชน เข้าร่วม ทั้งนี้ ดร.ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การบริหารความยั่งยืน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ให้การต้อนรับ ณ Hall 1-2 อาคารอเนกประสงค์ชั้น 10 SCG สำนักงานใหญ่ บางซื่อ การดำเนินงานของหลักสูตร NZAP 2026 และ โครงการ Go Together ซีซั่น 2 เป็นการเดินหน้าหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบเอสเอ็มอีของไทย ให้สามารถปรับตัวรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยหลักสูตร NZAP 2026 มีระยะเวลาการอบรม 12 สัปดาห์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ในด้านที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุม ขณะที่โครงการ Go Together ซีซั่น 2 มุ่งเน้นการเสริมทักษะภาคปฏิบัติผ่านการศึกษาดูงานจริง การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และการเปิดโอกาสให้เข้าถึงเทคโนโลยีและแหล่งเงินทุนที่จำเป็นต่อการปรับเปลี่ยนธุรกิจ โดยมีดีพร้อมเข้ามาเป็นอีกหนึ่งในพันธมิตรใหม่ ทั้งนี้ การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของ "ดีพร้อม" ในโครงการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนตามนโยบาย "สู้ เซฟ สร้าง" ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการผลักดันเอสเอ็มอี ตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และการใช้พลังงาน โดยผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมาของดีพร้อม มีผู้ประกอบการได้รับการส่งเสริม 2,250 ราย และพัฒนาให้เกิดกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า 450 กิจการ จนสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากกระบวนการ Upcycling กว่า 300 รายการ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 1,360 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 109,915 ตันคาร์บอนเทียบเท่า ทั้งนี้ ดีพร้อมยังคงมุ่งมั่นขยายผลการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไปยังโรงงานกว่า 70,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
21 ส.ค 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำ “ปลัดณัฐพล” เยี่ยมชมนิทรรศการ แสดงศักยภาพ Soft Power ของไทย ในแนวคิด “Style & Shine สวย มีสไตล์ ใส่สบาย ใส่สนุก” พร้อมอุดหนุน ผปก. ไทย ในงาน OTOP สืบสานอัตลักษณ์ไทย ก้าวไกลสู่สากล
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำ “ปลัดณัฐพล” เยี่ยมชมนิทรรศการ แสดงศักยภาพ Soft Power ของไทย ในแนวคิด “Style & Shine สวย มีสไตล์ ใส่สบาย ใส่สนุก” พร้อมอุดหนุน ผปก. ไทย ในงาน OTOP สืบสานอัตลักษณ์ไทย ก้าวไกลสู่สากล
จังหวัดนนทบุรี 15 สิงหาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเยี่ยมชมนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด “Style & Shine สวย มีสไตล์ ใส่สบาย ใส่สนุก” ภายในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี ร่วมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นิทรรศการภายใต้แนวคิด “Style & Shine สวย มีสไตล์ ใส่สบาย ใส่สนุก” จัดโดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยพื้นถิ่น ให้มีความร่วมสมัย มีเอกลักษณ์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม สอดรับกับวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน และสอดคล้องกับนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจไทยใ ห้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยภายในบูธนิทรรศการประกอบด้วย 3 โซน ได้แก่ - โซนที่ 1 นิทรรศการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับการพัฒนาจากดีพร้อม และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของผ้าไทย ผ่านการนำเสนออัตลักษณ์วิถีถิ่นสู่ผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทย และการออกแบบแฟชั่นที่แสดงถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถูกจัดออกเป็น 4 ประเภท คือ 1) Stay Classy เสื้อผ้าชุดทำงาน Formal เก๋ มีสไตล์ เป็นแฟชั่นเพื่อความเหมาะสมตามกาลเทศะ 2) Eco-Friendly เสื้อผ้าย้อมคราม ผ้า Eco-Print สวยแบบธรรมชาติ แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน 3) Comfortable Fit เสื้อผ้าสวมใส่สบายในชีวิตประจำวัน แฟชั่นเพื่อชีวิตที่เร่งรีบและความสบาย 4) Just Have Fun เสื้อผ้าสำหรับใส่สนุกตามเทศกาล ตามฤดูกาล เช่น เทศกาลกินเจ เทศกาลสงกรานต์ ฤดูร้อน รวมทั้งแฟชั่นเพื่อความสนุกสนาน - โซนที่ 2 กิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Share & Learn) สร้างการเรียนรู้แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เช่น กิจกรรม DIY สร้างสรรค์ (การเพ้นท์แก้ว เพ้นท์เสื้อ และประดิษฐ์พวงกุญแจ) และกิจกรรมสาธิตเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประชาชนททั่วไป (สาธิตการประดับลายด้วยรักสมุก สาธิตการลงรักปิดทอง สาธิตการลงสียาเย็น สาธิตการทำผ้าบาติก) - โซนที่ 3 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์บทบาท ภารกิจของดีพร้อม ประกอบด้วย ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (DIPROM BSC) โดยบริการให้คำปรึกษาแนะนำ อาทิ การดำเนินธุรกิจ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเงินทุนหมุนเวียน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ “ดีพร้อม” ได้นำผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนา และมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ในระดับ 3 - 5 ดาว เข้าร่วมงานจำนวน 20 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 16 ราย ผู้ประกอบการของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก 3 ราย ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ 1 ราย ทั้งนี้ งาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 17 สิงหาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
20 ส.ค 2025