โทรศัพท์ 1358

“ดีพร้อม” ผลักดัน "Thailand Textiles Tag" เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างมาตรฐานความเป็นไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน ดันมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 50 ล้านบาท สอดรับนโยบาย รมว. เอกนัฎ
“ดีพร้อม” ผลักดัน "Thailand Textiles Tag" เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างมาตรฐานความเป็นไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน ดันมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 50 ล้านบาท สอดรับนโยบาย รมว. เอกนัฎ
จ.นนทบุรี 6 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวแสดงความยินดี พร้อมมอบวุฒิบัตรในพิธีปิดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม (DIPROM Thailand Textiles Tag) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัล เวสต์เกต การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม (DIPROM Thailand Textiles Tag) ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยการบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทยตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ อาทิ ผู้ผลิตเส้นด้าย ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป เคหะสิ่งทอ และสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีสิ่งทอเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเครื่องหมาย Thailand Textiles Tag มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อผ้า ความคงทนของสี และความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง รวมถึงวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย (Made in Thailand) นับได้ว่าเป็นกลไกสำคัญในการสร้างมาตรฐานความเป็นไทยให้กับสินค้าสิ่งทอ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังเป็นการรณรงค์ให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและตระหนักถึงการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพที่ผลิตในประเทศ และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 36 กิจการ รวม 57 ผลิตภัณฑ์ จากหลากหลายประเภท อาทิ ผ้าผืน ผ้าพิมพ์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 50 ล้านบาท เมื่อรวมการดำเนินงานทั้งหมด 6 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองรวมทั้งสิ้น 187 กิจการ 328 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท นอกจากนี้ “ดีพร้อม” ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ด้วยกลยุทธ์ 2 ให้ คือ ให้ทักษะใหม่และให้เครื่องมือที่ทันสมัย ด้วยการเสริมทักษะและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี และการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิต รวมถึงการวิเคราะห์และวางแผนการตลาด นอกจากนี้ ยังเตรียมผลักดันมาตรฐานสิ่งทอที่มีองค์ประกอบของวัสดุรีไซเคิลเพิ่มเติมในปีหน้า เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน และมุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์สิ่งทอไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งมั่นจะ "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย" โดยเน้นการสร้างคุณภาพ มาตรฐาน และความยั่งยืน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและแข่งขันได้ในเวทีโลกต่อไป
10 ส.ค 2025
“ดีพร้อม” เปิดหลักสูตร ติวเข้ม บริหารความเสี่ยงโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ให้พร้อมรับมือโลกผันผวน เน้นเสริมแกร่งธุรกิจไทย ยกระดับศักยภาพสู่ความยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“ดีพร้อม” เปิดหลักสูตร ติวเข้ม บริหารความเสี่ยงโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ให้พร้อมรับมือโลกผันผวน เน้นเสริมแกร่งธุรกิจไทย ยกระดับศักยภาพสู่ความยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพ ฯ 6 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การบริหารจัดการความเสี่ยงในระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจอย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการบริหารจัดการความเสี่ยงในระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมด้วย นายอาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องคริสตัลบอลรูม โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพ ปัจจุบันที่สถานการณ์โลกมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสงครามการค้า การทุ่มตลาด ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 4.0 ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ เทคโนโลยี Internet of Things (loT) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) สนับสนุนโดยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่นๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของภาคธุรกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากธุรกิจมีการเตรียมความพร้อมต่อการรับมือความเสี่ยงดังกล่าว จะสามารถป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีโอกาสเกิดขึ้นในการดำเนินงานได้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เป็นหน่วยงานหลักที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน โดยมีความตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นดังกล่าว จึงดำเนินการจัดกิจกรรมฝึกอบรม “การบริหารจัดการความเสี่ยงในระบบโลจิสติกส์ และโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจอย่างยั่งยืน" เพื่อส่งเสริมสถานประกอบการให้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการมีการประเมินและจัดทำแผนรองรับความเสี่ยงในซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทบทวนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสม โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก และมีสถานประกอบการเข้าร่วมทั้งสิ้น 67 กิจการ ซึ่งเนื้อหาของกิจกรรมครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์แนวโน้มระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เทคนิคการคาดการณ์อนาคต (Foresight Technique) การประเมินและจัดลำดับความเสี่ยงด้วยเครื่องมือต่าง ๆ โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือ และฟื้นฟูการดำเนินงานในภาวะฉุกเฉินได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะเชิงรุก และเตรียมความพร้อมขององค์กรให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
10 ส.ค 2025
"ดีพร้อม" บุกเมืองขามแก่น เปิดห้องปฐมนิเทศ หลักสูตร Master Thai Chef Program ภาคอีสานตอนบน เตรียมพร้อม สร้างเชฟอาหารไทยสู่เชฟมืออาชีพ ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
"ดีพร้อม" บุกเมืองขามแก่น เปิดห้องปฐมนิเทศ หลักสูตร Master Thai Chef Program ภาคอีสานตอนบน เตรียมพร้อม สร้างเชฟอาหารไทยสู่เชฟมืออาชีพ ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
จ.ขอนแก่น 6 สิงหาคม 2568 - นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมปฐมนิเทศเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) โดยมี นายติณห์ เจริญใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 (DIPROM Center 4) และ นางสาวจินดา ธนาดำรงค์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 (DIPROM Center 5) เข้าร่วม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม Meeting Room 3 ชั้น 1 อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 (จังหวัดขอนแก่น) กิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินการภายใต้นโยบาย One Family One Soft Power (OFOS) ของรัฐบาล สำหรับโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (งบกลาง) ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ซึ่งนับเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่จะผลักดันการนำเอาทุนทางวัฒนธรรมของไทย มาใช้เป็นกลไกหลักในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของพื้นที่ให้มีอัตลักษณ์และภูมิปัญญา เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งต่อยอดไปสู่การขยายโอกาสในการตลาดทั้งในและต่างประเทศ สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล สำหรับกิจกรรมการอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนนี้ มีเป้าหมายในการพัฒนาประชาชนให้เป็นเชฟอาหารไทยมืออาชีพ ไม่น้อยกว่า 2,000 คน ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์การฝึกอบรมทั้งในรูปแบบออนไลน์ (Online) จำนวนชั่วโมงเรียน 90 ชั่วโมง และ ภาคปฏิบัติ ณ สถานที่จริง (Onsite) จำนวนชั่วโมงเรียน 150 ชั่วโมง โดยมีพื้นที่ดำเนินงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สกลนคร และนครพนม โดยดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายในพื้นที่ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในระดับภูมิภาคผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากทีมวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญ ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมุ่งหวังที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศผ่านการใช้วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม “รองอธิบดีสุรพล” ได้เน้นย้ำเรื่องแนวทางการพัฒนาต่อยอดกิจกรรม และการกระจายโอกาสในการเข้าถึงโครงการให้กับประชาชนได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่
10 ส.ค 2025
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมถกคณะอนุกรรมการบริหาร 2 พิจารณาวงเงินดีพร้อมเปย์ เสริมสภาพคล่องธุรกิจ พร้อมเร่งรัดติดตามการดำเนินงาน ช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมถกคณะอนุกรรมการบริหาร 2 พิจารณาวงเงินดีพร้อมเปย์ เสริมสภาพคล่องธุรกิจ พร้อมเร่งรัดติดตามการดำเนินงาน ช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ 2 ครั้งที่ 4/2568 พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อมที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาคำขอกู้สินเชื่อเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ดีพร้อม (Working Capital for SMEs) ในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 1 ราย ซึ่งประกอบกิจการประเภทเครื่องดื่ม (เมล็ดกาแฟคั่ว) อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 1 (DIPROM Center 1) โดยผู้ขอกู้มีวัตถุประสงค์ในการยื่นขอรับบริการเงินทุนหมุนเวียนฯ เพื่อนำไปใช้ในการสำรองวัตถุดิบ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และเป็นเงินทุนสำรองในการหมุนเวียนสภาพคล่องภายในกิจการ โดยคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้ว เห็นชอบการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ผู้ขอกู้ในวงเงิน 960,000 บาท โดยมีเงื่อนไข นอกจากนี้ ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานเบิกจ่ายเงินกู้ให้ผู้ประกอบการ ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ในการประชุมครั้งก่อน จำนวน 2 ราย วงเงิน 2,500,000 บาท โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ได้ดำเนินการจัดทำนิติกรรมสัญญาและเบิกจ่ายเงินกู้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงการรายงานความก้าวหน้า การดำเนินการจัดทำมาตรการบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ทั้งจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และสถานการณ์ความไม่สงบในเขตชายแดนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ให้กับลูกค้ารายเดิมของเงินทุนหมุนเวียนฯ และผู้ประกอบการที่สนใจรับบริการ โดยมีแนวทางช่วยเหลือ อาทิ สิทธิการขอกู้เพิ่มเติม การพักชำระหนี้ไม่เกิน 4 เดือน และหากได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนสามารถขยายเวลาออกไปอีก 4 เดือน การลดค่างวดผ่อนชำระรายเดือนลงร้อยละ 50 เป็นเวลาไม่เกิน 4 เดือน การขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ได้ไม่เกิน 2 ปี โดยรวมแล้วไม่เกินระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเดิม ทั้งนี้ “รองอธิบดีดวงดาว” ได้กำชับให้หน่วยงานปฏิบัติเร่งติดตามการดำเนินงานเรื่องการรับชำระคืนเงินกู้ยืม ของลูกหนี้ที่มีประวัติการค้างชำระ พร้อมให้ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำให้ติดตาม บริหารจัดการ รวมถึงหามาตรการในการให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถอยู่รอด และเติบโตได้อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อีกด้วย
10 ส.ค 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” เปิดห้องแถลงผลการดำเนินงาน “ดีพร้อมคอมมูนิตี้” ในการตรวจประเมินการปฏิบัติราชการ สรุปผลปี 68 ขานรับ 4 มิติ MIND พร้อมดันโยบาย DIPROM FLEXI รับมือความท้าทายปี 69
“อธิบดีณัฏฐิญา” เปิดห้องแถลงผลการดำเนินงาน “ดีพร้อมคอมมูนิตี้” ในการตรวจประเมินการปฏิบัติราชการ สรุปผลปี 68 ขานรับ 4 มิติ MIND พร้อมดันโยบาย DIPROM FLEXI รับมือความท้าทายปี 69
กรุงเทพฯ 5 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ร่วมให้การต้อนรับ นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ ในโอกาสตรวจราชการระดับกรมสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และออนไลน์ผ่านระบบ ZOOM Meeting ในการประชุมครั้งนี้ อธิบดีณัฏฐิญา เป็นผู้ให้ข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ในภาพรวมของโครงสร้างองค์กร บทบาทภารกิจ และงบประมาณ ซึ่งในปี 2568 มีเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบการ 32,763 ราย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 8,500 ล้านบาท ด้วยการขับเคลื่อนหน่วยภายใต้แนวนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ผ่านกลไก 4 ให้ 1 ปฏิรูป ประกอบด้วย (1) การให้ทักษะใหม่ เพื่อพัฒนาบุคลากรและผู้ประกอบการ SMEs ให้มีทักษะและองค์ความรู้ท่ำเป็นในการดำเนินธุรกิจ (2) การให้เครื่องมือที่ทันสมัย ที่พร้อมใช้งานผ่านเครื่องจักรต่าง ๆ ในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคและศูนย์วิจัยวัสดุศาสตร์ (3) การให้โอกาสโตไกล ผ่านการจับคู่ธุรกิจ การผลักดันการส่งออก และการจัดตั้ง Japan Desk เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายกับผู้ประกอบการและคู่ค้าในญี่ปุ่น และ (4) การให้ธุรกิจที่ดีคู่ชุมชน ซึ่งเน้นการขับเคลื่อน BCG และใช้กลไกฮีโร่ เพื่อยกระดับชุมชนให้เป็นส่วนหนึ่งของซัพลายเชนของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการปฏิรูปดีพร้อม โดยเน้นการขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุค 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้ประกอบการ “ดีพร้อม” ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ตามแนวทาง MIND 4 มิติ โดยมุ่งเน้นการยกระดับความสามารถของธุรกิจสู่อุตสาหกรรมวิถีใหม่ การพัฒนาองค์กรสู่องค์กรดิจิทัลด้วยระบบต่าง ๆ อีกทั้งยังนำเทคโนโลยี AI และ Simulation เข้ามาเชื่อมต่อให้เกิดการประหยัดในด้านการบริหารจัดการต้นทุน และยังมีการเชื่อมโยงด้านซัพพลายเชนเพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม SMEs ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ รวมถึงการขยายโอกาสผ่านโครงการซอฟต์พาวเวอร์ และวางเป้าหมายในการนำกลไกของกรมฯ เข้าไปช่วยต่อยอดให้เกิดการสร้างธุรกิจของตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มีการดำเนินงานในกิจกรรม/โครงการหลักๆ ที่สำคัญ สอดรับกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม และการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหารและแฟชั่น ที่จะมีกำหนดแถลงผลสำเร็จการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้ง 2 สาขาผ่านบิ๊กอีเว้นท์ " เสน่ห์ไทย" ในช่วงปลายปี 2568 นอกจากนี้ ดีพร้อม มุ่งเน้นการพัฒนาเชิงภูมิภาคและการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับพื้นที่ ผ่านการบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) เพื่อร่วมขับเคลื่อนกระทรวงอุตสาหกรรมและแลกเปลี่ยนบุคลากร เพื่อสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมและเชื่อมโยงบริการส่งเสริมของ “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” พร้อมทั้ วางแผนเปิดตัวนโยบาย "DIPROM FLEXI ยกระดับพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง" ในปีงบประมาณใหม่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ตรวจราชการได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของดีพร้อมที่สามารถนำนโยบาย MIND 4 มิติ มาปรับใช้จนเกิดประสิทธิผล ทั้งการเชื่อมโยงกับหน่วยงานในพื้นที่ การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น รวมถึงทิศทางและแผนการทำงานในอนาคตที่น่าสนใจ
08 ส.ค 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม รับมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมร่วมส่งต่อน้ำใจช่วยทหารชายแดนและผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม รับมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมร่วมส่งต่อน้ำใจช่วยทหารชายแดนและผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ
กรุงเทพฯ 5 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รับมอบสิ่งของบริจาคจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนายวีระพล ผ่องสุภา เลขานุการกรม ณ ศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย ประสบภัยพิบัติ ห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) ถ.พระรามที่ 6 ราชเทวี สำหรับศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจฯ ของดีพร้อมทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานหน่วยงานต่าง ๆ ภายในดีพร้อม หน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน และผู้ประกอบการ SME ในการระดมสิ่งของและเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งดีพร้อมจะรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ ส่งมอบให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำไปส่งต่อให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมใจกันบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกล่อง ผ้าอนามัย และแพมเพิส เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากทั้งสองสถานการณ์ดังกล่าว
08 ส.ค 2025
“รองอธิบดีดุสิต” ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและเสวนาเชิงลึก ในงานระดับประเทศ ESG Symposium 2025 ผลักดัน SMEs ไทย เติบโต ก้าวไกลอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“รองอธิบดีดุสิต” ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและเสวนาเชิงลึก ในงานระดับประเทศ ESG Symposium 2025 ผลักดัน SMEs ไทย เติบโต ก้าวไกลอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 1 สิงหาคม 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้เข้าร่วมงาน ESG Symposium 2025 ณ อาคาร SCG 100 ปี บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อรับฟังปาฐกถาและการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้นำทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาค ในประเด็นเกี่ยวกับทิศทางการเปลี่ยนผ่านที่ยั่งยืน ภายใต้บริบทอาเซียนและโลก โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรขั้นนำ อาทิ (1) Mr.David McLachlan-Karr Regional Director, UN Development Coordination Office (DCO) Asia-Pacific นำเสนอในหัวข้อ "Driving Just Transition in ASEAN: A Regional Perspective" (2) Mr.Koji Sato - President & CEO, Toyota Motor Corporation นำเสนอในหัวข้อ"Multi-pathway Approaches to Net Zero: Blending Innovation with Social Responsibility" (3) Dr. Sai Ravela - Principal Research Scientist, Earth Atmospheric and Planetary Sciences (EAPS), MIT นำเสนอในหัวข้อ "Risk-Smart Resilience for a World of Rising Climate Extremes" (4) Prof. Miho Mazereeuw - Director of MIT Climate Mission and Director of Urban Risk Lab, MIT นำเสนอในหัวข้อ "A Participatory Path to Climate Adaptation for Cities" และ (5) Dr. Sethaput Suthiwartnarueput - Governor, Bank of Thailandนำเสนอในหัวข้อ "Thailand in an Uncertain Era: From Vulnerability to Resilience and Sustainability" นอกจากนี้ มีการแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงรุก โดยวิเคราะห์ข้อจำกัดและแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในหัวข้อ การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการ SMEs (Just Transition for SMEs) ทั้งนี้ “รองอธิบดีดุสิต” ได้กล่าวถึงบทบาทของ DIPROM ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ของนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ดำเนินการสอดรับกับนโยบาย MIND 4 มิติ ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการใช้หัวและใจ เป็นแนวคิดในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรม ในแต่ละปี DIPROM จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้จำนวนจำกัด จึงต้องใช้ระยะเวลานาน ถึงจะครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหมด 3.25 ล้านราย จึงมีแนวคิดในการให้พี่ช่วยน้อง Big Bother โดยบริษัทชั้นนำขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ ที่มีแนวคิดการดูแลสังคมและการกระจายรายได้สู่ชุมชน เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชนและ SMEs โดยรอบ หรือให้การพัฒนาบริษัทที่อยู่ใน Supply Chain ของตนเอง เพื่อสนับสนุนให้มีโอกาสได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
08 ส.ค 2025
“ดีพร้อม” ร่วมเป็นกรรมการ เฟ้นหาผู้ประกอบการ เข้ารับรางวัล MSME Provincial Champion Awards (ครั้งที่ 3)
“ดีพร้อม” ร่วมเป็นกรรมการ เฟ้นหาผู้ประกอบการ เข้ารับรางวัล MSME Provincial Champion Awards (ครั้งที่ 3)
กรุงเทพฯ 5 สิงหาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัล MSME Provincial Champion Awards (ครั้งที่ 3) ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2/2568 ในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีนางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นประธานการประชุม การจัดประกวดรางวัล MSME Provincial Champion Awards จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ที่มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จในแต่ละจังหวัด รวมถึงเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการสร้างแรงบันดาลใจในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การประกวดดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการกระจายโอกาสการพัฒนาไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ MSME Provincial Champion Awards ในการประชุมดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการฯ ได้มีการรายงานผลการดำเนินการ ซึ่งเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประกวด เมื่อเดือนเมษายน 2568 โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการคัดเลือก การพิจารณากลั่นกรองรางวัล และผลคะแนนของผู้ที่ผ่านเข้ารอบ รวมถึงกำหนดการจัดงานพิธีประกาศผลและมอบรางวัล MSME Provincial Champion Awards (ครั้งที่ 3) ประจำปี 2568 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 77 ราย จะได้รับสิทธิ์ในการตรวจสุขภาพธุรกิจ พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมอบรม รับคำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมการไปศึกษาดูงาน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับรางวัล รวมถึงยกระดับธุรกิจสู่เวทีระดับประเทศ โดยการประกวด MSME Provincial Champion Awards นี้ นับว่าเป็นโครงการสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจในระดับจังหวัดและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นแบบอย่างสำหรับการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับการยอมรับให้เป็นที่รู้จักในระดับจังหวัดจนถึงระดับประเทศ มีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
08 ส.ค 2025
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมยินดีกับ Hero Brand สาขาอุตฯ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พร้อมผลักดัน Soft Power อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
“รองอธิบดีดวงดาว” ร่วมยินดีกับ Hero Brand สาขาอุตฯ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พร้อมผลักดัน Soft Power อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2568 - นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัลกิจกรรมพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นจากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมด้วย นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อาจารย์ ดร.ปรารถนา คงสำราญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คุณชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล ดารา/นักแสดง คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์สาขาแฟชั่น พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ผู้ประกอบการจากภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ Sphere Gallery 2 ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย มีความสำคัญในฐานะที่เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ ค้าปลีก บริการออกแบบ และโฆษณา เป็นต้น ซึ่งจุดแข็งที่สำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ได้แก่ ขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสูงของผู้ประกอบการไทย ทั้งด้านเป็นแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงมีการควบคุมและการบริหารจัดการในกระบวนการผลิต จึงทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าแฟชั่นให้กับแบรนด์ระดับโลก อีกทั้ง คนรุ่นใหม่ที่มีองค์ความรู้ด้านการออกแบบและสร้างแบรนด์ ทำให้แฟชั่นของไทยมีอัตลักษณ์และโดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถผสมผสานวัฒนธรรมและเสน่ห์ของความเป็นไทยเข้ากับเทรนด์แฟชั่นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะผ้าไหมและผ้าฝ้ายของไทย เป็นผ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและคุณภาพ มีหลากหลายชนิด สามารถผสมผสาน ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย จึงดำเนินกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย เพื่อเป็นการส่งเสริม ต่อยอด และสร้างการรับรู้ในระดับสากล นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับการผลิต “บุคลากร” ที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญในการออกแบบและการสร้างแบรนด์ ให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง มีการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม กับผู้เชี่ยวชาญในสาขา เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน สอดคล้องตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม “รองอธิบดีดวงดาว” ได้แสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และมุ่งหวังให้เกิดการสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งใน Supply Chain สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล
08 ส.ค 2025
“ดีพร้อม” ปลุกพลังเกษตรอุตสาหกรรมไทย โชว์ผลงานพร้อมมอบรางวัลนวัตกรรมอัจฉริยะ
“ดีพร้อม” ปลุกพลังเกษตรอุตสาหกรรมไทย โชว์ผลงานพร้อมมอบรางวัลนวัตกรรมอัจฉริยะ
กรุงเทพฯ 1 สิงหาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด งานเผยแพร่การใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ภายใต้โครงการ การยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พร้อมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมทั้งคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญ เข้าร่วม โดยมี นายกิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ เวทีกลาง ชั้น M สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ กิจกรรมการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน ในการนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ และต่อยอดธุรกิจ โดยตระหนักถึงความสำคัญของภาคการเกษตรซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดย ดีพร้อม (DIPROM) ได้จัดเตรียมเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่มีศักยภาพไว้ในแต่ละศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค (DIPROM Center) เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเข้ามาทดลองใช้ พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ หรือปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ทันสมัย นอกจากนี้ ยังส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบการโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีจะเกิดประโยชน์สูงสุดและ เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้จากการพัฒนาเทคโนโลยี ดีพร้อมจึงได้จัดงานมอบรางวัล DIPROM Agro-Machinery Award 2025 ขึ้น เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมมาใช้ยกระดับธุรกิจ โดยในงานนี้ได้มีการมอบเกียรติบัตรแก่ 20 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเป็น “20 แบบอย่างการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ" และมอบรางวัล 6 ประเภท ได้แก่ 1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ระบบติดตามการผลิตอาหารเกษตรแปรรูปแบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ ของ บริษัท ซองเดอร์ไทยออร์กานิคฟูด จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี จากทีมพัฒนา บริษัท ซีเอส อินโนเทค จำกัด 2. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง ได้แก่ ชุดควบคุมอุณหภูมิโรงตากเส้นขนมจีน ของ บริษัท วีพีพี ขนมจีนไทยอบแห้ง จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ จากทีมพัฒนา บริษัท เดอะ ซันไชน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับสอง ได้แก่ ระบบดูดซับแจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองอัจฉริยะ ของ บริษัท บ้านปลาทอง จำกัด จังหวัดนครราชสีมา จากทีมพัฒนา คณะวิศวกรรมศาสตร์แลสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิต 4. รางวัล Technical Challenge มอบให้กับทีมที่มีผลงานซึ่งแก้ไขปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อนได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ได้แก่ เครื่องคั่วโกโก้ ของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปโกโก้ชุมชนเกาะกก จังหวัดระยอง จากทีมพัฒนา บริษัท เอ็น ทู เอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนซัลท์ จำกัด 5.รางวัล Knowledge Sharing มอบให้กับทีมที่มีผลงานซึ่งมีการแบ่งปันความรู้และนำเสนอรายละเอียดการพัฒนาอย่างเปิดกว้าง ได้แก่ เครื่องโรยเส้นในกระบวนการผลิตวุ้นเส้นถั่วเขียว ของ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากถั่ว จังหวัดอำนาจเจริญ จากทีมพัฒนา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ 6. รางวัลดีพร้อมพัฒน์ มอบให้กับทีมที่พัฒนาผลงานซึ่งให้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจสูงและมีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอด ได้แก่ เครื่องกะเทาะเปลือกเมล็ดโกโก้ด้วยระบบอัจฉริยะ ของ วิสาหกิจชุมชนโกโก้แปลงใหญ่สุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากทีมพัฒนา ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.พี.เอส. ออโตเมชั่น แอนด์เซอร์วิส ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาธุรกิจ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแล้ว ยังช่วยสร้างคุณค่าให้กับสินค้าและทรัพยากรท้องถิ่นอีกด้วย
06 ส.ค 2025