โทรศัพท์ 1358
ดีพร้อม จับมือ บิ๊ก คาเมร่า ติวเข้มการทำตลาดออนไลน์ผ่านมุมมองชัตเตอร์
ดีพร้อม จับมือ บิ๊ก คาเมร่า ติวเข้มการทำตลาดออนไลน์ผ่านมุมมองชัตเตอร์
กรุงเทพฯ 19 ธันวาคม 2564 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ SMEs สร้างธุรกิจเงินล้านด้วย VDO Content และ Live by BIG Camera ร่วมด้วย ดร.เกษสุดา ดอนเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ) กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ดีพร้อมเข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้ จำนวน 100 ราย โดยมี นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) จำกัด กล่าวสรุปภาพรวมการดำเนินงานโครงการในครั้งนี้ ณ Mushroom Ministry Studio อาคารบางกอกโพสต์ คลองเตย โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือ ระหว่าง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ร่วมกับ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น เพื่อมอบโอกาสในการสร้างอาชีพและพัฒนาผู้ประกอบการที่สนใจเข้าถึงความรู้การทำ Live Vlog Youtube และการทำตลาดออนไลน์ จากผู้ที่มีประสบการณ์ตรง และผู้ที่มีความสำเร็จในวิชาชีพต่าง ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดโครงการสานฝันปันความรู้ โดยได้รวบรวมเทคโนโลยีทางการถ่ายภาพรวมถึงการ Workshop ทดลองใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เข้าถึงการใช้งานจริง และสามารถนำไปประยุกต์สำหรับการสร้างอาชีพในด้านต่าง ๆ ได้อีกด้วย ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
20 ธ.ค. 2564
เวทีศักยภาพที่ปรึกษา มุ่งพัฒนา SMEs ให้ดีพร้อม
เวทีศักยภาพที่ปรึกษา มุ่งพัฒนา SMEs ให้ดีพร้อม
เตรียมความพร้อมเข้าประกวด รางวัลที่ปรึกษาตัวอย่างแห่งปี 2565 (DIProm consultant award 2022) “เวทีศักยภาพที่ปรึกษา มุ่งพัฒนา SMEs ให้ดีพร้อม” ผ่านการ live สด ทาง FB กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม โดย นายวุฒิชัย ประชาพร ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม ในวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 เริ่มเวลา 13.30 น.
18 ธ.ค. 2564
พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
16 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป - พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Creative Value Design in Circular Economy Fashion & Lifestyle) ประจำปี 2565 กับกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ ชั้น 4 Siam smile space สยามดิสคัฟเวอรี และ Live สดผ่านช่องทาง Facebook live พบกับ พิธีเปิดตัวโครงการ และแรงบันดาลใจดี ๆ จาก พิธีมอบเกียรติบัตรและนิทรรศการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในปี 2564 (Upcycling for sustainable lifestyle) พร้อมรับฟังการชี้แจงโครงการ และการสัมมนาจากผู้แทน PTT-GC และ ECOTOPIA สยามพิวรรธน์
17 ธ.ค. 2564
พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
วันที่ 16 ธันวาคม 2564 – พิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ♻️ (Creative Value Design in Circular Economy Fashion & Lifestyle) ประจำปี 2565 กับกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ ชั้น 4 Siam smile space สยามดิสคัฟเวอรี และ Live สดผ่านช่องทาง Facebook live นี้ ท่านจะได้พบกับ พิธีเปิดตัวโครงการ และแรงบันดาลใจดี ๆ จากพิธีมอบเกียรติบัตรและนิทรรศการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในปี 2564 (Upcycling for sustainable lifestyle) พร้อมรับฟังการชี้แจงโครงการ และการสัมมนาจากผู้แทน PTT-GC และ ECOTOPIA สยามพิวรรธน์
17 ธ.ค. 2564
“อธิบดีณัฐพล” เสริมทัพ “รมว.กระทรวงอุตฯ” ตอบกระทู้ถาม การส่งเสริมสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าทางการเกษตรในพื้นที่เมืองคอน
“อธิบดีณัฐพล” เสริมทัพ “รมว.กระทรวงอุตฯ” ตอบกระทู้ถาม การส่งเสริมสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าทางการเกษตรในพื้นที่เมืองคอน
กรุงเทพฯ 16 ธันวาคม 2564 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม เข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลการตอบกระทู้ถาม เรื่อง การส่งเสริมสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าทางการเกษตรให้กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อตอบประเด็นของ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ อาคารรัฐสภา เขตดุสิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงตอบกระทู้ถาม เรื่อง การส่งเสริมสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าทางการเกษตร ประกอบด้วย 2 เรื่อง ดังนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ได้กำหนดแผน นโยบาย และยุทธศาสตร์ในระดับประเทศเกี่ยวกับเกษตรอุตสาหกรรม และถ่ายทอดไปยังระดับภูมิภาค รวมทั้งกำหนดให้การขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรมเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้ การพัฒนาในแต่ละภาค ดีพร้อม จะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมและพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาค โดยจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่ภาคใต้มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา เนื่องจากมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมในการเพาะปลูก และเป็นพืชเศรษฐกิจที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเกษตรกรกำลังประสบปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกจำนวนมาก จึงทำให้ปริมาณผลผลิตล้นตลาด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปของปาล์มน้ำมันและยางพารา ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการที่ให้การสนับสนุนเพื่อเพิ่มผลิตภาพขีดความสามารถของอุตสาหกรรมแปรรูปต่าง ๆ ครอบคลุมทุกมิติ กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญและสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ มากำหนดเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ตามความเหมาะสมของทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นและสอดคล้องกับ Product Champion ที่ได้มีการกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์จังหวัด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (Product Champion) ดังนี้ 1) ศึกษาและสร้างความเข้าใจในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึง จุดแข็ง ข้อได้เปรียบเชิงวัตถุดิบโดยพิจารณาจากความเฉพาะทางภูมิศาสตร์ ทรัพยากร วัตถุดิบ ที่ท้องถิ่นมี ความชำนาญของประชาชนในพื้นถิ่นเพื่อนำมาต่อยอดเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของพื้นถิ่นนั้น ๆ 2) วิเคราะห์ความต้องการของตลาดทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Product Champion สอดคล้องกับความต้องการของตลาด (Demand Driven) กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการพัฒนา Product Champion ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมโดย ดีพร้อม เล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาแสดงอัตลักษณ์ในท้องถิ่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงได้รับความนิยมในตลาด โดยได้ต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาจากระทรวงอุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกิดการกระจายรายได้ และสามารถขยายกลุ่มตลาดจากเดิมไปสู่วงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมได้ต่อยอดพื้นที่เกษตรในจังหวัดนครศรีธรรมราชสู่พื้นที่เกษตรอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ โดยการพัฒนาสร้าง Product Champion เชิงสร้างสรรค์ให้กับหลายชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผสมผสานกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจในชุมชนในมิติอุตสาหกรรม รวมถึงการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับชุมชน พร้อมกับสร้างความเข้มแข็งในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง โดยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงการพัฒนาผลิตภัณฑ์กับการท่องเที่ยวในพื้นที่ ผ่านการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) ซึ่งในพื้นทีจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการจัดตั้งหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ บ้านวังหอน มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนา เช่น สบู่ขมิ้น น้ำพริกขมิ้น เป็นต้น บ้านหน้าทัพ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนา เช่น เสื้อมัดย้อม สบู่เหลวโคลน เป็นต้น บ้านวังไทร มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนา เช่น สบู่น้ำผึ้งเกสรป่าเดือนห้า ถุงรีไซเคิลกันน้ำสำหรับเดินป่า พริกไทดำป่น เป็นต้น ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
17 ธ.ค. 2564
“ดีพร้อม” เปิดทางอุตฯ มุ่ง บีซีจี 12 อุตสาหกรรมเอสเคิร์ฟโต พร้อมสตาร์ท 50 ธุรกิจ "อัพไซคลิ่ง" ปั้นผลิตภัณฑ์จากของเสีย สู่ของสวย สร้างมูลค่าใหม่ในตลาดสินค้ารักษ์โลก
“ดีพร้อม” เปิดทางอุตฯ มุ่ง บีซีจี 12 อุตสาหกรรมเอสเคิร์ฟโต พร้อมสตาร์ท 50 ธุรกิจ "อัพไซคลิ่ง" ปั้นผลิตภัณฑ์จากของเสีย สู่ของสวย สร้างมูลค่าใหม่ในตลาดสินค้ารักษ์โลก
กรุงเทพฯ 16 ธันวาคม 2564 - นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Creative Value Design in Circular Economy Fashion & Lifestyle) โดยมี นางวันเพ็ญ รัตนกังวาล ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม กล่าวรายงาน ณ พื้นที่ Siam Smile Space ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี ปทุมวัน รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เร่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการลดสิ่งของเหลือใช้จากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ได้เร่งพัฒนาผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมดังกล่าวให้มีโอกาสเติบโตในช่วงที่วิถีชีวิตของคนทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมผลักดันโอกาสในด้านการเข้าถึงองค์ความรู้ ช่องทางการตลาด รวมทั้งนำนวัตกรรมมาต่อยอดของเหลือใช้ หรือ ธุรกิจที่ลดการใช้ทรัพยากร - พลังงาน เพิ่มมูลค่าบนช่องทางการค้าให้มากขึ้น ดังนั้น ดีพร้อม จึงได้จัดทำโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Creative Value Design in Circular Economy Fashion & Lifestyles เพื่อส่งเสริมการนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการออกแบบมาใช้ในการผลิตสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เร่งผลักดันการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้าน “อัพไซคลิ่ง (Upcycling)” ซึ่งเป็นแนวทางการแปรรูป – ผสมผสานการใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) สิ่งเหลือใช้จากการผลิตสินค้าทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการและการท่องเที่ยว รวมไปถึงวัสดุเหลือใช้จากการอุปโภคและบริโภคในท้องถิ่น และวัสดุรีไซเคิลอื่น ๆ ให้กลายเป็นสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเจาะตลาดธุรกิจและบริการรักษ์โลกที่ขณะนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญและมีอัตราการใช้จ่ายสินค้าที่มีความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมในปริมาณที่สูง สำหรับโครงการนี้จะคัดเลือกกลุ่ม SMEs นิติบุคคล หรือ บุคลากรต่าง ๆ เช่น ทายาทธุรกิจ พนักงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อุตสาหกรรมเกษตร - อาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ มาร่วมบ่มเพาะกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจากของเหลือใช้ปรับให้เป็นแบรนด์ที่รู้จักในท้องตลาด สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ได้ เช่น การอยู่อาศัย การบริโภค การทำงาน การนันทนาการ ฯลฯ รวมถึงปั้นผู้นำเทรนด์ (TrendSetter) ในด้านการออกแบบที่คำนึงถึงอรรถประโยชน์และสิ่งแวดล้อมในสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ไม่น้อยกว่า 50 ราย ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 ผ่านช่องทาง www.diprom.go.th หรือ facebook.com/dipromindustry” และในโอกาสนี้ ดีพร้อม ได้มอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรให้แก่ตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
17 ธ.ค. 2564
“ดีพร้อม” เร่งเครื่องส่งออกเอสเอ็มอีไทย เสริมแกร่งฮับ CLMV
“ดีพร้อม” เร่งเครื่องส่งออกเอสเอ็มอีไทย เสริมแกร่งฮับ CLMV
กรุงเทพฯ 16 ธันวาคม 2564 - นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมนำเสนอแผนงาน “พิชิตตลาดส่งออก CLMV ด้วยการค้าออนไลน์ในยุคโควิด” ภายใต้ กิจกรรมช่วย SMEs ฝ่าวิกฤตโควิด นำธุรกิจไทย บุกตลาดใน CLMV โดยมี นายวรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมโซน A ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 ราชเทวี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปิดกั้นการขนส่งและการเดินทางระหว่างประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม เห็นถึงความสำคัญในการเร่งผลักดันผู้ประกอบการให้ไปสู่ยุคความปกติใหม่ที่พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงแบบพลวัตรของโลกและการเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจดิจิทัล จึงได้จัดกิจกรรมนำเสนอแผนงาน “พิชิตตลาดส่งออก CLMV ด้วยการค้าออนไลน์ในยุคโควิด” เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) สำหรับการขยายตลาดในประเทศ CLMV ให้กับ SMEs ต่อไป สำหรับกิจกรรมนำเสนอแผนงาน “พิชิตตลาดส่งออก CLMV ด้วยการค้าออนไลน์ในยุคโควิด” ผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ในการใช้เครื่องมือดิจิทัลประเภท Social Media เพื่อทำการตลาดแบบ Online ซึ่งใช้ต้นทุนไม่มาก แต่สามารถเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง หรือ Facebook ในการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ จ ากการใช้ Facebook ในการทำตลาดในระหว่างโครงการ มีคู่ค้าที่มีศักยภาพในประเทศ CLMV ที่สนใจในผลิตภัณฑ์และสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาด CLMV ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจรวมทั้งสิ้น 35 ราย และสามารถสร้างยอดขายในต่างประเทศได้ในระหว่างการอบรมเชิงปฏิบัติมูลค่ากว่า 6 แสนบาท และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้อย่างน้อย 10 ล้านบาท ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
17 ธ.ค. 2564
นรม. มอบ 63 รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน
นรม. มอบ 63 รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน
กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2564 - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister’s Industry Award 2021) โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม สื่อมวลชน และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และในโอกาสนี้ นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหาร และข้าราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม (The Prime Minister’s Industry Award) จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นปีที่ 29 ซึ่งรางวัลอุตสาหกรรมนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการทุกระดับที่มีความคิดริเริ่ม มีความวิริยะอุตสาหะ การสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ตลอดจนมีความเป็นเลิศในแต่ละด้านตามประเภทรางวัลอุตสาหกรรมที่กำหนด ซึ่งได้ดำเนินการตามแนวนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้มีศักยภาพทั้งในด้านพลังงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ การยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก โดยมีเกณฑ์การพิจารณาที่เข้มข้นในการคัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละปี เพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาธุรกิจ บุคลากร สร้างทักษะ ปรับปรุง และพัฒนาองค์ความรู้ด้าน ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และอนาคต สำหรับในปีนี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัล ประจำปี 2564 รวมจำนวนทั้งสิ้น 63 รางวัล ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ รางวัลกลุ่มที่ 1 ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ซึ่งรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมนี้ เป็นการตัดสินจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการลงทุน มีการนำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของตนเอง และสามารถสร้างการพัฒนาให้กับอุตสาหกรรมในภาพรวมอย่างชัดเจน รางวัลกลุ่มที่ 2 ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 9 ประเภท จำนวน 37 รางวัล และ รางวัลกลุ่มที่ 3 รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น แบ่งเป็น 5 ประเภท จำนวน 25 รางวัล จากจำนวนผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้งสิ้น 332 ราย ทั้งนี้ รางวัลอุตสาหกรรมทุกประเภท ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความแข็งแกร่ง พัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้า พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้มีสถานประกอบการสมัครเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้มากยิ่งขึ้นไปทุก ๆ ปี เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการพัฒนามาตรฐานในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของประเทศโดยรวมต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
14 ธ.ค. 2564
กระทรวงอุตฯ ดึงผู้ประกอบการพื้นที่อีสานกว่า 100 ร้านค้า ร่วมทดสอบตลาด “เอิ้นมา BUY  สไตล์อีสาน” คาดสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 5 ล้านบาท
กระทรวงอุตฯ ดึงผู้ประกอบการพื้นที่อีสานกว่า 100 ร้านค้า ร่วมทดสอบตลาด “เอิ้นมา BUY สไตล์อีสาน” คาดสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 5 ล้านบาท
จ.อุดรธานี 10 ธันวาคม 2564 – นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เอิ้นมา BUY สไตล์อีสาน” I-San Fashion Design Week ร่วมด้วยนายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวนิลเนตร โลหะพจน์พิลาศ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.5 กสอ.) นายรุ่งโรจน์ อิฐรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.7 กสอ.) คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม และผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายถาวอน สีหาพม รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ขอนแก่น นายเหงี้ยน หง็อก เหียบ กงสุลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น โดยมี นายจำรัส กังน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับ และ นายติณห์ เจริญใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.4 กสอ.) กล่าวรายงาน ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อ.เมืองอุดรธานี กิจกรรมงาน “เอิ้นมา BUY สไตล์อีสาน” I-San Fashion Design Week เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานสู่สากล โดยมุ่งให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ในสาขาแฟชั่นผ้าและเครื่องแต่งกายเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการทดสอบตลาดงานแรกในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลังจากการเปิดประเทศ โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4-7 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ในการใช้วัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาส่งเสริมการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงเครือข่าย รวมถึงพัฒนาผ้าทอมืออีสานซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและรองรับความต้องการของตลาด พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกลุ่มผลิตผ้าทอมือที่ได้รับการพัฒนาผ่านโครงการของดีพร้อมทั้ง 20 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 100 ร้านค้า ทั้งในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่กว่า 170 ผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งเป็นโซนแสดงสินค้าผ้าและเครื่องแต่งกาย โซนเจรจาธุรกิจและให้คำปรึกษาแนะนำ ซึ่งดีพร้อมได้เล็งเห็นว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ตั้งแต่การทดสอบตลาดให้กับผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนออนไลน์และออฟไลน์ และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มโอกาสในการทดลองตลาดสู่เชิงพาณิชย์ สร้างการเข้าถึงและรับรู้ความต้องการของตลาดเพื่อนำมาปรับปรุงให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ประชาชนทั่วไปตลอดจนผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจ ทั้งนี้ คาดว่าการจัดงานเพื่อทดสอบตลาดในครั้งนี้ จะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานกว่า 5 ล้านบาท ###PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 ธ.ค. 2564
ดีพร้อม ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมชมหมู่บ้าน CIV ชุมชนบ้านเชียง นับถอยหลังพร้อมดึงรายได้เข้าชุมชนหลังเปิดประเทศ
ดีพร้อม ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมชมหมู่บ้าน CIV ชุมชนบ้านเชียง นับถอยหลังพร้อมดึงรายได้เข้าชุมชนหลังเปิดประเทศ
จ.อุดรธานี เมื่อเร็วๆ นี้ (9 ธันวาคม 2564) - นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) ร่วมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ณ ชุมชนบ้านเชียง อ.หนองหาน หมู่บ้าน CIV ชุมชนบ้านเชียง มีอารยธรรมครอบคลุมแหล่งโบราณคดีในภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นถึงขั้นตอนสำคัญของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมรวมถึงภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายาวนานในด้านศิลปกรรม อาทิ ปั้นดินเผา ผ้าฝ้ายย้อมคราม เครื่องจักรสาน โดยที่ผ่านมาชุมชนบ้านเชียงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รายได้หลักลดลงจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก ธุรกิจการค้าและบริการที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก ชุมชนจำเป็นจะต้องเดินหน้าปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยชุมชนบ้านเชียงได้เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมของดีพร้อมเพื่อพัฒนาทักษะในหลากหลายมิติ เช่น การพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตลาดออนไลน์เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน เพื่อยกระดับชุมชนบนพื้นฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่นรวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านเชียงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ ### PR.DIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
13 ธ.ค. 2564