โทรศัพท์ 1358
Advanced Search

Category
“อธิบดีณัฐพล นำคณะผู้บริหาร กสอ. มอบของรางวัลให้กับประชาชนที่มาร่วมสนุกกับร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2562
“อธิบดีณัฐพล นำคณะผู้บริหาร กสอ. มอบของรางวัลให้กับประชาชนที่มาร่วมสนุกกับร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2562
กรุงเทพฯ 17 พฤศจิกายน 2562 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) นายวิจักขณ์ รัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กสอ. และนายนฤบดินทร์ วุฒิวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กสอ. เยี่ยมชมและให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมอบของรางวัลให้กับประชาชนที่มาร่วมสนุกกับร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2562 ณ ร้านกระทรวงอุตสาหกรรม โซน 3 สวนลุมพินี ปทุมวัน สำหรับกระทรวงอุตสาหกรรมเป็น 1 ในหน่วยงานภาครัฐที่ได้ร่วมออกร้านงานกาชาดเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ได้ร่วมออกร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมร่วมสืบสาน สายธารการให้ที่งดงาม”โดยมีกิจกรรม “จับ แจก จริง”กับเกมกระสวยอวกาศที่ให้ประชาชนร่วมทำบุญและลุ้นรับรางวัลชิ้นใหญ่ และกิจกรรมความบันเทิงมากมาย ๆ กับร้านกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 15 - 24 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30 - 22.00 น. ณ บูทที่ 3.4 โซน 3 สวนลุมพินี ประตู 1 (ฝั่งถนนวิทยุ) ปทุมวัน นอกจากนี้ ยังพบกับนิทรรศการ การออกร้านของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมทำบุญส่งต่อการให้ที่งดงามกับสภากาชาดไทย ตลอด 10 วัน 10 คืน เที่ยวสนุก สุขใจ ได้กุศล รายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
18 พ.ย. 2019
โครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
โครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
โครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 3,000 ล้านบาท จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีปรับตัวเข้าสู่ยุค 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีการขยายกลุ่มเป้าหมายเอสเอ็มอีที่หลากหลายขึ้น จากเดิมเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา จะเน้นเอสเอ็มอีที่อยู่ในกลุ่ม S-Curve ขณะที่ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้กู้ในกลุ่มที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกิจการ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนและพัฒนาเอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 4.0 วัตถุประสงค์และเงื่อนไขสินเชื่อ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กู้รายใหม่ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนขยายและปรับปรุงกิจการ โดยสามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี อีกทั้งยังสามารถนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ด้วยในเงื่อนไข ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินอนุมัติ เปิดรับคำขอทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 62 เป็นต้นไป คุณสมบัติผู้กู้ เป็นเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ภาคการผลิตสินค้า หรือการให้บริการ ภาคการค้าปลีก หรือการค้าส่ง เป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย เฉพาะที่เป็นบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ซึ่งประกอบธุรกิจในกลุ่มดังนี้.- 1) กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ธุรกิจเกษตรแปรรูป ประเภทอาหารและไม่ใช่อาหาร 2) กลุ่มผู้ผลิต หรือผู้ออกแบบ ธุรกิจอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ธุรกิจภาพยนตร์ วีดีทัศน์ และทัศนศิลป์ ธุรกิจการกระจายเสียงและดนตรี ธุรกิจแฟชั่น เช่น สิ่งทอ เครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจการโฆษณา และธุรกิจซอฟต์แวร์ 3) ธุรกิจที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกิจการ เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ควบคุมด้วยระบบซอฟต์แวร์ หรือ ระบบอัตโนมัติ **ผู้กู้ต้องไม่อยู่ระหว่างการได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนหมุนเวียนที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว อาทิ กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในโครงการเงินทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อม, กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย, สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ, โครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำหรับ SMEs-คนตัวเล็ก และโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 1. อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ชั้น 6 กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 2. สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ 3. เว็บไซต์ www.smessrc.com
15 พ.ย. 2019
อายุน้อยร้อยล้าน แคมเปญพิเศษ OTOP TOP THAILAND ของดีวิถีไทย
อายุน้อยร้อยล้าน แคมเปญพิเศษ OTOP TOP THAILAND ของดีวิถีไทย
อายุน้อยร้อยล้าน แคมเปญพิเศษ OTOP TOP THAILAND ของดีวิถีไทย เสาร์นี้ ห้ามพลาด‼️ ผ้าพิมพ์เทียน ลวดลายไทย สร้างรายได้ปีละ 15 ล้าน‼️ ไปไหมงามงอน ไปเที่ยวอุดรบ้านพี่...จะพาน้องไปเจอของดีเมืองนี้กันจ้า พบกับผ้าย้อมครามพิมพ์เทียน ต.บ้านผือ ภูมิปัญญาจากคุณแม่ พัฒนากลายมาเป็นผ้าพิมพ์เทียนลวดลายร่วมสมัย????ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สร้างรายได้ 15 ล้านบาทต่อปี และพบกับผลิตภัณฑ์น้ำหมักเอนไซม์ จากสมุนไพรพื้นบ้านของไทยกว่า 50 ชนิด แปรรูปกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้ชุมชนปีละ 2,400,000 บาท วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.05 น. ช่องเวิร์คพอยท์ 23
14 พ.ย. 2019
“อธิบดีณัฐพล” พร้อมคณะผู้บริหาร กสอ. ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ศภ.8 กสอ. เน้นการทำงานให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
“อธิบดีณัฐพล” พร้อมคณะผู้บริหาร กสอ. ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ศภ.8 กสอ. เน้นการทำงานให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
จ.สุพรรณบุรี 12 พฤศจิกายน 2562 (เวลา 15.00 น.) - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (อสอ.) พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงาน พร้อมทั้งมอบนโยบายการขับเคลื่อน SMEs และวิสาหกิจชุมชนให้แก่ ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จ.สุพรรณบุรี (ศภ.8 กสอ.) โดยมีนางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.8 กสอ.) และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 อ.เมือง ในโอกาสนี้ อสอ.ณัฐพล ได้รับฟังแนวทางการดำเนินงานและการให้บริการของ ศภ.8 กสอ. พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2563 โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม การยกระดับการใช้ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) รวมถึงมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการการให้บริการผู้ประกอบและเน้นกระจายการให้บริการแก่ผู้ประกอบการให้ครอบคลุมหลากหลายในทุกมิติมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมพื้นที่การทำงานของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงเยี่ยมชมการให้บริการเครื่องจักรและพบปะผู้ประกอบการที่ขอรับบริการเครื่องทอดระบบสุญญากาศเพื่อทดลองแปรรูปผลิตภัณฑ์สำหรับทดสอบตลาดและพัฒนาต่อยอดต่อไป พร้อมทั้งส่งมอบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต้นแบบให้แก่ผู้ประกอบการที่ขอรับบริการด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์จาก ศภ.8 กสอ. ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน
13 พ.ย. 2019
“อสอ.ณัฐพล” นำคณะผู้บริหาร กสอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ ต้นแบบความสำเร็จธุรกิจชุมชน
“อสอ.ณัฐพล” นำคณะผู้บริหาร กสอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ ต้นแบบความสำเร็จธุรกิจชุมชน
จ.กาญจนบุรี 12 พฤศจิกายน 2562 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้แทนจาก บริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ ประเทศไทย และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนจาก ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยมี นางรสวรรณ จงไมตรีพร ประธานกลุ่มสตรีตำบลรางหวาย ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลและพาเยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท และผู้แทนจาก บริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ ประเทศไทย ร่วมให้ข้อมูลณ บริษัทฮาร์ต สปอร์ตแวร์ จำกัด อำเภอพนมทวน บริษัท ฮาร์ต สปอร์ตแวร์ จำกัด เป็นผู้ผลิต ออกแบบ และจำหน่ายเสื้อยืดโปโล มียอดจำหน่ายตลาดในประเทศ 100% จำนวนกว่า 28 ล้าน บาท/ปี โดยจากเดิมบริษัทใช้ชื่อว่า Hart OTOP ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าของกลุ่มสตรีใน ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ที่เริ่มจากการรวมตัวกันของกลุ่มสตรีเพียงไม่กี่คนและได้พัฒนางานมาเป็นธุรกิจโรงงานตัดเย็บเสื้อโปโลขยายใหญ่ขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 จ.สุพรรณบุรี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.8 กสอ.) ผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับและเพิ่มศักยภาพในการประกอบธุรกิจ ซึ่งล่าสุดในปี พ.ศ. 2562 ได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมผลิตภาพและสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SHAP) กับทาง ศภ.8 กสอ. กสอ. โดยร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการเพิ่มผลิตภาพที่มีคนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนองค์กรใหญ่เติบโตอย่างมีคุณภาพและเป็นองค์กรแห่งความสุข นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ของ บริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ ประเทศไทย เพื่อดูแลจัดการให้มีระบบการผลิตการบริหารการจัดการที่ดีด้วยการผลิตที่มีคุณภาพใส่ใจการผลิตทุกขั้นตอน รวมทั้งได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งแรก เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่ธุรกิจชุมชนรายอื่น ๆ มุ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันสามารถพัฒนาธุรกิจที่สามารถดำเนินงานตาม 4 แนวทางหลักของโตโยต้า ได้แก่ 1.รู้ รู้ปัญหาในทุกกระบวนการภายใต้หลัก Toyota Production System (TPS) 2.เห็น เห็นแนวทางการแก้ไขตามหลักไคเซน (Kaizen) 3.เป็น ทำเป็นด้วยตัวเองตามหลักไคเซนและพอเพียง 4.ใจ เข้าใจ ถูกใจ ใส่ใจ ตามหลักปรัชญาลูกค้าเป็นที่หนึ่ง ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน
13 พ.ย. 2019
“อสอ.ณัฐพล” ร่วมคณะ “รมว.สุริยะ” ลงพื้นที่บ้านหัวเขาจีน รุดผลักดันอัตลักษณ์ท้องถิ่น เสริมแกร่งชุมชน อัพเกรดขึ้นแท่น CIV หวังสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
“อสอ.ณัฐพล” ร่วมคณะ “รมว.สุริยะ” ลงพื้นที่บ้านหัวเขาจีน รุดผลักดันอัตลักษณ์ท้องถิ่น เสริมแกร่งชุมชน อัพเกรดขึ้นแท่น CIV หวังสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
จ.ราชบุรี 11 พฤศจิกายน 2562 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ร่วมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ร่วมด้วย นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรม นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี นางวีณา สุขอยู่ เลขานุการวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน ให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมชุมชนดังกล่าว “ชุมชนบ้านหัวเขาจีน” เป็น 1 ใน 215 ชุมชน ที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชนและศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ให้การส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนเป็น“หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์” (Creative Industry Village : CIV) หรือ “หมู่บ้าน CIV” ชุมชนดังกล่าวยังคงรักษาและอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมที่โดดเด่น ภาษาพูด การแต่งกาย การประกอบ อาชีพ และการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านไทยทรงดำไว้อย่างเหนียวแน่น จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดราชบุรี นอกจากนี้ ชาวบ้านยังคงดำรงประเพณีการทอผ้า ซึ่งมีผ้าซิ่นลายแตงโมทอมือเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน โดยมีกลุ่มสตรีทอผ้าไทยทรงดำที่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของสตรีที่มีความรู้และความสามารถในการทอผ้า ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีประเพณีและขนบธรรมเนียมที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชน อาทิ การแสดงอิ้นกลอน ฟ้อนแกรน ซึ่งเป็นการรำท่วงท่าทำนองของชาวไทยทรงดำที่สื่อถึงการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมที่อ่อนช้อย พิธีเรียกขวัญ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ชาวไทยทรงดำไว้ใช้เรียกขวัญผู้มาเยือน เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวและให้พบแต่สิ่งดีในชีวิต อีกทั้ง ยังมีโฮมสเตย์บ้านพักสไตล์ไทยทรงดำพร้อมชุดเครื่องนอน และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชนและศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ให้การส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิม สะท้อนให้เห็นอัตลักษณ์ของชาวไทยทรงดำโดยการนำเอาลักษณะเด่นและลวดลายมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคและผลิตได้ในชุมชน อาทิ ชุดเสื้อผ้าสตรี สร้อยคอ ต่างหู ของที่ระลึก รวมทั้งการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ประมาณ 270,000 – 300,000 บาท ต่อเดือน ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน
13 พ.ย. 2019
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลงพื้นที่และประชุมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการโครงการพระราชดำริทุ่งจี้
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลงพื้นที่และประชุมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการโครงการพระราชดำริทุ่งจี้
นายสิงห์คำ อายะชู ผกพ.ศว.กสอ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ลงพื้นที่และประชุมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการโครงการพระราชดำริทุ่งจี้ ตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เพื่อร่วมวางแผนแนวทางการดำเนินงานกิจกรรมการยกระดับศักยภาพวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ (พระราชดำริ)
12 พ.ย. 2019
ขอเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยสารสกัดธรรมชาติ
ขอเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยสารสกัดธรรมชาติ
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อคัดเลือกสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณภาพไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ 2. เพื่อพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้วยสารสกัดธรรมชาติสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ กลุ่มเป้าหมายวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องสำอางหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เกณฑ์การพิจารณา 1. สถานประกอบการมีระบบมาตรฐานและมีผลิตภัณฑ์มานำเสนอ 2. สถานประกอบการอยู่ในพื้นที่ กทม.หรือปริมณฑล สิทธิประโยชน์ (สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก) 1. ได้ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติจากผู้เชี่ยวชาญ 1 ผลิตภัณฑ์ ต่อ 1 กิจการ 2. การรับคำแนะนำ และปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผู้เชี่ยวชาญ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม อภิรักษ์ รักท้วม วรวรรณ พงษ์ขจรธน โทรศัพท์ 0 2354 3400, 0 2202 4534 มือถือ 063 273 4398 โทรสาร 0 2202 4527, 0 2354 0308 เฟสบุ๊ค @dbcd.dip2019
12 พ.ย. 2019
“รองอธิบดีเดชา” เปิดงานมหกรรมแสดงสินค้ามาตรฐานไทยและจีนส่งออก ครั้งที่ 9 หวังผลักดันผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดจีน
“รองอธิบดีเดชา” เปิดงานมหกรรมแสดงสินค้ามาตรฐานไทยและจีนส่งออก ครั้งที่ 9 หวังผลักดันผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดจีน
จ.นนทบุรี 8 พฤศจิกายน 2562 - นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมแสดงสินค้ามาตรฐานไทยและจีนส่งออก ครั้งที่ 9" (2019 ASEAN CHINA (Bangkok) China Import & Export Commodities Fair) โดยมี คุณจาง เสี่ยว ลี ประธานสมาคมผู้นำเข้าส่งออกจีน และคุณหวัง หยิงหลิง รองอธิบดีกรมการพาณิชย์ มณฑลกานซู่ กล่าวแสดงความยินดี ร่วมด้วย นายกสมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง นายกสมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล ผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร ผู้ประกอบการไทยและจีน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานดังกล่าว ณ ห้อง Hall 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับงานมหกรรมแสดงสินค้ามาตรฐานไทยและจีนส่งออกเป็นความร่วมมือระหว่าง สมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียนกับเขตปกครองตนเองมองโกเลียในมณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน และสานความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นสะพานเชื่อมโยงการค้า การลงทุนและวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน โดยภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าจีนที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงกว่า 10 มณฑล และสินค้าไทยที่มีชื่อเสียงและมีศักยภาพในการขยายสู่ตลาดจีน สินค้าที่มีชื่อเสียงจากประเทศลาวและกัมพูชา รวมทั้งสิ้นกว่า 200 บูธ นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาให้ความรู้ทางด้านการค้าการลงทุน การเตรียมความพร้อมสู่ตลาดจีน ตลอดจนกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและจีนได้พบปะเจรจาทางธุรกิจระหว่างกัน ถือเป็นการเปิดโอกาสสําหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซีย ทั้งนี้ สินค้าที่นำมาจัดแสดงในงาน ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ อีคอมเมอร์ช อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อะไหล่ยานยนต์และจักรยานยนต์ สิ่งทอ อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ยาจีน ยาสมุนไพรจีน เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าและผิวกาย อาหารแปรรูป สำหรับกลุ่มประกอบการจีนที่น่าจับตามองเป็นพิเศษและมีไฮไลท์เทคโนโลยีสำคัญ ได้แก่ ผู้ประกอบการจากเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ให้บริการ ซึ่งเหมาะสำหรับการให้บริการในร้านอาหารหรือภัตตาคารต่าง ๆ มาจัดแสดงภายในงานอีกด้วย โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน และก่อให้เกิดเงินสะพัดมากกว่า 30 ล้านบาท ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
08 พ.ย. 2019