โทรศัพท์ 1358
Advanced Search

Category
ขอเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม Web Based CEO Business Meeting Event for Logistics Industry
ขอเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม Web Based CEO Business Meeting Event for Logistics Industry
Web Based CEO Business Meeting Event for Logistics Industry ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึง 7 พฤศจิกายน 2565 ผู้ประกอบการในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมคลังสินค้า Download ใบสมัคร https://bit.ly/3H2TsuP ส่งมาที่ intercoop.dip@gmail.com ภายใน วันที่ 24 มิถุนายน 2565 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ 0 2430 6867 ต่อ 1412
13 มิ.ย. 2022
รสอ.ณัฏฐิญาฯ นำทีมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ จับมือ Basecamp24 ร่วมกับ STeP บ่มเพาะสตาร์ทอัพ
รสอ.ณัฏฐิญาฯ นำทีมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ จับมือ Basecamp24 ร่วมกับ STeP บ่มเพาะสตาร์ทอัพ
จ.เชียงใหม่ 10 มิถุนายน 2565 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ร่วมหารือความร่วมมือการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ Basecamp24 ร่วมกับ STeP โดยมี นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. พร้อมผู้บริหารส่วนราชการกว่า 40 หน่วยงาน เข้าร่วมและเยี่ยมชมพร้อมรับฟังการบรรยายสรุป ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 (DIPROM CENTER 1) นางเกษสุดา ดอนเมือง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม DIPROM (ดีพร้อม) ร่วมลงพื้นที่ ณ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP : Science and Technology Park) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการหารือความร่วมมือในส่วนงานวิชาการภายในของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นสะพานแห่งการสร้างนวัตกรรม (Bridge for Innovation) ก้าวข้ามความท้าทาย (Valley of Challenge) และทำให้เกิดการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) นำไปสู่การยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานนวัตกรรม (Innovation-based Economy) ของภาคเหนือ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ในการนี้ รสอ.ณัฏฐิญาฯ ได้นำคณะที่ปรึกษาฯ ร่วมหารือกับ ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการ STeP ซึ่ง DIPROM ได้ตอบรับในการให้ความร่วมมือระหว่าง Basecamp24 กับ STeP กล่าวคือ การสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและพร้อมผลักดันผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีพี่เลี้ยงนำทางในทุกเส้นทางการเติบโตแบบ 24 ชั่วโมง เพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดอย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนการบ่มเพาะ พัฒนาศักยภาพ ทำให้เหล่านักธุรกิจได้ลงมือทำจริง ผ่านการอบรมสร้างองค์ความรู้ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ การจับคู่กับแหล่งทุน สร้างเครือข่ายธุรกิจ โดยจัดแบ่ง Basecamp ดังนี้ Ground camp : Wonderer จะเน้นเรื่องการสร้างแรงจูงใจและสร้างความตระหนักในการเป็นผู้ประกอบการ Camp 1 : Bootstrapper เน้นให้องค์ความรู้เพื่อสร้างความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) Camp 2 : Explorer เน้นกระบวนการลงมือทำเพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจตามวิถีของ Startup เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิจัยและพัฒนาสินค้าหรือบริการให้สามารถขายได้จริง Camp 3 : Challenger เน้นเรื่องการขยายตลาด (Scale up) หลังจากพิสูจน์แล้วใน Camp 2 โดยจะเน้นกระบวนการวางแผนธุรกิจและกลยุทธ์ Camp 4 : Survivor ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการหานักลงทุน การเจรจาร่วมลงทุน (Partner) กับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่จะสามารถสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง DIPROM ซึ่งได้เชื่อมโยงและผสานการทำงานระหว่าง STeP กับภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาชนสังคม บนพื้นฐานของการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย คือ ผลงานวิจัย นักวิจัย และเครื่องมือวิจัย ในความร่วมมือต่างๆ ได้แก่ 1. การใช้ประโยชน์และสร้างคุณค่าในรูปแบบของการผลักดันองค์ความรู้/งานวิจัยให้เกิดการใช้งานเชิงพาณิชย์ (Research Commercialization) 2. การสร้างธุรกิจเทคสตาร์ทอัพ (Tech Startup) 3. การส่งเสริมธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprise) การทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มในองค์รวม (Total Value Creation) 4. การพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืนโดยการบูรณาการองค์ความรู้ งานวิจัย และเทคโนโลยีของ STeP ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือได้ตั้งเป้าในการเป็นหน่วยบ่มเพาะแนวหน้ามีศักยภาพในการสร้างผู้ประกอบการ Startup ผ่านกระบวนการการเชื่อมโยงโอกาสต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างระบบนิเวศ (Startup Ecosystem) ที่เอื้อให้ผู้ประกอบการ Startup ในพื้นที่ภาคเหนือที่อยู่ในระบบได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพและยั่งยืน โดยนำองค์ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยสู่การสร้างผู้ประกอบการที่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 มิ.ย. 2022
เชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม Web Based CEO Business Meeting Event for medical Equipment Industry
เชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม Web Based CEO Business Meeting Event for medical Equipment Industry
Web Based CEO Business Meeting Event for medical Equipment Industry ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึง 7 พฤศจิกายน 2565 ผู้ประกอบการในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมบริการสุขภาพ (Healthcare) อุตสาหกรรมบริบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ (Nursing care) Download ใบสมัคร https://bit.ly/38UY5KA ส่งมาที่ intercoop.dip@gmail.com ภายใน วันที่ 24 มิถุนายน 2565 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ 0 2430 6867 ต่อ 1412
13 มิ.ย. 2022
รสอ.ณัฏฐิญาฯ ลงพื้นที่ DIPROM CIV ชุมชนออนใต้ พร้อมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ
รสอ.ณัฏฐิญาฯ ลงพื้นที่ DIPROM CIV ชุมชนออนใต้ พร้อมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ
จ.เชียงใหม่ 10 มิถุนายน 2565 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการลงพื้นที่ ประกอบด้วย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. พร้อมผู้บริหารส่วนราชการกว่า 40 หน่วยงาน เข้าเยี่ยมชม หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ดีพร้อม (DIPROM CIV) ชุมชนออนใต้ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป โดยมีนายภิญโญ วิสัย และนางสาวฉัตรรุ่ง ประกอบไวทยกิจ ผู้นำชุมชน พร้อมทั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลออนใต้ และกำนันตำบลออนใต้ ให้การต้อนรับ ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 (DIPROM CENTER 1) นางเกษสุดา ดอนเมือง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม DIPROM (ดีพร้อม) ร่วมลงพื้นที่ ณ หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ดีพร้อม (DIPROM CIV) ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง ดีพร้อม ได้ดำเนินการโครงการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม การพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ดีพร้อม (DIPROM Creative Industry Village : DIPROM CIV) ภายใต้แนวคิดในการดำเนินงาน คือ การน้อมนำแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องการมุ่งเน้นพัฒนาคน มุ่งพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คนและครอบครัวในชุมชนให้มีความพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชนเพื่อรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการตามยุทธศาสตร์ชาติ ภายใต้โครงการดังกล่าว ดีพร้อม จึงได้ส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เพื่อให้สอดคล้องตรงกับความต้องการของชุมชนและบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการเป็นชุมชนท่องเที่ยว ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเติมเต็มให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรม/โครงการของหน่วยงานส่วนกลาง โดยกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน และ DIPROM CENTER 1 อาทิ พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ดีพร้อม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากสินค้าและบริการของชุมชน ดึงความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนเป็นสิ่งดึงดูดในการท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการกลุ่มทั้งแผนการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวของชุมชน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เตรียมความพร้อมด้านที่พักโฮมเสตย์ของชุมชนให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว พัฒนาผู้ประกอบการร้านค้าให้มีความสะอาด ใช้หลักการรสชาติอาหารนำการท่องเที่ยว พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวภายในชุมชน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 11 หมู่บ้าน ป้ายบอกเส้นทาง แผนที่การท่องเที่ยว เมื่อพัฒนาภายในชุมชนแล้ว จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ชุมชนผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ เพจชุมชนออนใต้หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การจัดกิจกรรมเพื่อเปิดตัวชุมชน โดยการเชิญสื่อมวลชนท้องถิ่นและหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนในการเยี่ยมชมชุมชน การออกบูธประชาสัมพันธ์ทริปการท่องเที่ยวในงานการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนการออกบูธจำหน่ายสินค้าชุมชนล่าสุดในงาน OTOP Midyear 2022 นอกจากการที่ได้รับการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาจากดีพร้อมแล้ว และรวมถึงหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพของชุมชน ส่งผลให้ชุมชนได้รับการรับรองมาตรฐานและรางวัลจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นเครื่องหมายรับรองในการพัฒนาชุมชนและผู้ประกอบการ ได้แก่ CIV Five Star โดยดีพร้อม มาตรฐาน มอก.เอส โดย สมอ. มาตรฐาน SHA โดยกระทรวงสาธารณสุข และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาตรฐาน Q Resturant โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ชุมชนต้องเที่ยว โดย ธ.ก.ส. และ COVID free setting กระทรวงสาธารณสุข ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 มิ.ย. 2022
รสอ.ณัฏฐิญาฯ และคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ร่วมเยี่ยมชม ChiangMai Celadon เครื่องเคลือบศิลาดลเชียงใหม่
รสอ.ณัฏฐิญาฯ และคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ร่วมเยี่ยมชม ChiangMai Celadon เครื่องเคลือบศิลาดลเชียงใหม่
จ.เชียงใหม่ 10 มิถุนายน 2565 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการลงพื้นที่ ประกอบด้วย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. พร้อมผู้บริหารส่วนราชการกว่า 40 หน่วยงาน เข้าเยี่ยมชมเครื่องปั้นดินเผาเคลือบเซลาดอน (Celadon) พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป โดยมี คุณทัศนี ยะจา เจ้าของกิจการ ให้การต้อนรับ ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 (DIPROM CENTER 1) นางเกษสุดา ดอนเมือง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม DIPROM (ดีพร้อม) ร่วมลงพื้นที่ ณ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่เซลาดอน (2015) ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับ คุณทัศนี ยะจา เจ้าของกิจการ ซึ่งจำหน่ายเครื่องเคลือบศิลาดลเชียงใหม่ หรือ เครื่องเคลือบเซลาดอน (Celadon) ภายใต้แบรนด์ ChiangMai Celadon ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลาดลประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ของตกแต่งบ้าน ของขวัญและของที่ระลึก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่มีรสนิยมในการใช้ชีวิต ชื่นชอบวัฒนธรรมศิลาดลเชียงใหม่และผลิตภัณฑ์ที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทย ซึ่งทาง ChiangMai Celadon ได้เข้าร่วมกิจกรรมของ ดีพร้อม ดำเนินการโดย DIPROM CENTER 1 ประกอบด้วย 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาล้านนา ภายใต้การพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา มารังสรรค์รูปแบบผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างมีเสน่ห์ด้วยการ แกะ ขูด เขียน และนำมาเคลือบให้เป็นชุดน้ำชา “อยู่ดีมีสุข”ด้วยแนวคิดของนักออกแบบที่อยากจะสื่อสารอัตลักษณ์ความเป็นไทยสู่สากล โดยสีเคลือบปรับเป็นสีน้าเงินเพื่อสร้างมิติ และเนื้อสัมผัสให้แก่ตัวหนังสือ 2) พัฒนานักออกแบบเพื่อผู้ประกอบการ (Design Savvy) ภายใต้การยกระดับการผลิตสินค้ากลุ่มของฝากของที่ระลึกเชิงสร้างสรรค์ 3) ออกแบบสินค้าในกลุ่ม Gift & Lifestyle ให้ตรงกับความต้องการของตลาดเป้าหมาย (Tailor-made Gift & Lifestyle for Product Desing) ภายใต้การยกระดับการผลิตสินค้ากลุ่มของฝากของที่ระลึกเชิงสร้างสรรค์ 4) ยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ (Chaing Mai Creative Innovation Product) ภายใต้การยกระดับเชียงใหม่ด้วยนวัตกรรม เชิงสร้างสรรค์ (Chaing Mai Creative Innovation) ทั้งนี้ เครื่องปั้นดินเผาเคลือบเซลาดอน (Celadon) ซึ่งเดิมใช้เรียกทับศัพท์ ส่วนชื่อเรียกของไทยเรียกว่าเครื่องสังคโลก เมื่อมีการทำเครื่องปั้นดินเผาสังคโลก เคลือบเซลาดอนเกิดขึ้น จึงได้ใช้ชื่อว่า “ศิลาดล” ในจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีการจดผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ "GI ศิลาดลเชียงใหม่ คิดถึงศิลาดล คิดถึงจังหวัดเชียงใหม่" เป็นผลิตภัณฑ์ ประเภทสโตนแวร์ (Stoneware) ที่ได้เคลือบขี้เถ้าพืชผสมกับดินผิวหน้านา เมื่อเผาแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะออกเป็นสีเขียว แบบเซลาดอน มีความสวยงาม และคลาสสิคในตัวเอง ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 มิ.ย. 2022
รสอ.ณัฏฐิญาฯ นำทีมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ พาชม Big Brother ดีพร้อม The Coffeenery ศูนย์เรียนรู้กาแฟพานาคอฟฟี่
รสอ.ณัฏฐิญาฯ นำทีมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ พาชม Big Brother ดีพร้อม The Coffeenery ศูนย์เรียนรู้กาแฟพานาคอฟฟี่
จ.เชียงใหม่ 10 มิถุนายน 2565 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการลงพื้นที่ประกอบด้วย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. พร้อมผู้บริหารส่วนราชการกว่า 40 หน่วยงาน เข้าเยี่ยมชมพร้อมรับฟังการบรรยายสรุป ณ The Coffeenery ศูนย์เรียนรู้กาแฟพานาคอฟฟี่ โดยมี นายพีระ พนาสุภน ประธานกรรมการบริษัทฯ และนายคมพิชญ์ พนาสุภน รองประธานกรรมการให้การต้อนรับ ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 (DIPROM Center 1) นางเกษสุดา ดอนเมือง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม DIPROM (ดีพร้อม) ร่วมลงพื้นที่ ณ บริษัท พานาคอฟฟี่ จำกัด อ.ดอยสะเก็ด บริษัทฯ ดังกล่าวได้มุ่งเน้นการศึกษาเรื่องกาแฟ หรือ Coffee Education เป็นสำคัญ มีศูนย์เรียนรู้เรื่องกาแฟ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ไปจนถึงปลายทาง ส่งมอบองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับบุคลากรด้านกาแฟ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับวงการกาแฟของไทย โดยบริษัท พานาคอฟฟี่ จำกัด ได้ให้ความร่วมมือกับ ดีพร้อม ในฐานะ Big Brother เพื่อมาถ่ายทอดความรู้ และที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายทอดความรู้ เทคนิคต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้การให้บริการของดีพร้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบการทางด้านอุตสาหกรรมกาแฟ เสมือนเป็นพี่ช่วยน้อง นอกจากนี้ ยังให้คำปรึกษาแนะนำและเป็นพี่เลี้ยง สนับสนุนข้อมูลและการบริหารจัดการศูนย์พัฒนากาแฟไทย : DIPROM THAI COFFEE CENTER ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 1 สำหรับ The Coffeenery มีแผนการดำเนินงานสอดรับกับภารกิจหลักขององค์กร คือ มุ่งพัฒนากาแฟไทยให้ได้มาตรฐานสากล และนำกาแฟไทยไปสู่กาแฟโลก โดยมีการริเริ่ม คิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนามาตรฐาน Farm Management System ภายใต้ชื่อโครงการ “กาแฟดูแลป่า” ที่ผลักดันให้เกษตรกรและผู้ประกอบการด้านกาแฟมีโอกาสได้เข้ามาเรียนรู้การเพิ่มผลผลิตกาแฟออร์แกนิก ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล Organic USDA และ EU ซึ่งกระบวนการกลางทาง อันได้แก่ การแปรรูป การคั่ว และการบรรจุ ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดโรงงานสีเขียว “Green Factory” ซึ่งทุก ๆ ขั้นตอนได้ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้าน Food Safety ISO22000, FSSC22000, HACCP และ HALAL เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ The Coffeenery ยังได้ลงทุนนำเข้าเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง อาทิ เครื่องสีกะลาและเครื่องขัดผิว Silver Skin ในกระบวนการแปรรูปกาแฟกะลา เพื่อลดปัจจัยข้างเคียงที่อาจส่งผลเสียต่อรสชาติกาแฟ รวมถึงการใช้ระบบ N2 Flush หรือเครื่องอบไนโตรเจนเพื่อช่วยกำจัดมอดแบบปลอดสารเคมี และเครื่องคัดขนาด น้ำาหนัก และคัดแยกสี เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟสารที่มีคุณภาพมากที่สุด ตลอดจนบุคลากรในโรงงานที่ต้องผ่านการตรวจสุขภาพและความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งยังครอบคลุมถึงขั้นตอนการตรวจสอบกระบวนการผลิตและการชิมรสชาติกาแฟด้วย Technical Report โดย Q Grader ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลก การสานต่อมายังปลายทาง โดยผ่านสถาบันกาแฟ The Coffeenery ที่มีความพร้อมในด้านสถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางด้านกาแฟ มีหลักสูตรเรียนรู้กาแฟตามมาตรฐานสากล (International Standard) ที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน SCA และ CQI เปิดหลักสูตรการแปรรูปกาแฟ การชง การชิม การคั่ว และหลักสูตรบาริสต้า ทั้งในระดับต้น กลาง และขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรชมการสาธิตแบบมีส่วนร่วม พร้อมรับใบประกาศนียบัตรรับรองจากศูนย์เรียนรู้กาแฟ ซึ่งนักท่องเที่ยว สามารถชมการสาธิต สัมผัสประสบการณ์การชงกาแฟ และการชิมกาแฟในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกทั้ง ยังมีผลิตภัณฑ์กาแฟแบรนด์ “SOD Coffee” ที่ภูมิใจนำเสนอกาแฟออร์แกนิกคุณภาพมาตรฐานระดับสากลในรูปแบบของกาแฟคั่วเมล็ด (Roasted Coffee Bean) และกาแฟดริป (Drip Bag Coffee) โดยมีแผนเดินหน้าขยายการตลาดไปยังกลุ่มประเทศ ยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น และมีความพร้อมในการเป็นผู้ผลิตกาแฟที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากลในระบบของ OEM ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 มิ.ย. 2022
“อธิบดีณัฐพล” ลั่นกลองรบเปิดตัว “ปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2” หวังยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมปั้น 30 แฟรนไชส์
“อธิบดีณัฐพล” ลั่นกลองรบเปิดตัว “ปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2” หวังยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมปั้น 30 แฟรนไชส์
กรุงเทพฯ 11 มิถุนายน 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2” ภายใต้ กิจกรรมยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ปั้น 30 แฟรนไชส์ ร่วมด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม(DIPROM) และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และถ่ายทอดสด (Facebook. Live) ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Facebook fan page กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม สำหรับปลูกปั้น DIPROM Franchise ครั้งที่ 2 จัดขึ้นภายใต้ กิจกรรมยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ปั้น 30 แฟรนไชส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ให้มีความสามารถในการแข่งขันด้วยการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์และเครือข่ายกิจการธุรกิจเกษตร รวมถึงการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจเกษตร โดยก้าวเข้าสู่การสร้างแฟรนไชส์เกษตรให้เป็นระบบ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อม (Small) หรือวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) และ/ หรือ ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในกลุ่มภาคเกษตรอุตสาหกรรม ภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร หรืออุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร หรืออุตสาหกรรมต่อยอดซัพพลายเชนโดยมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วม และผ่านการคัดเลือกร่วมเข้าอบรมทั้งสิ้น 56 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ธุรกิจเกษตร เกษตรแปรรูป และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับคำแนะนำการพัฒนารูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ จากผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ช่วยให้สามาถขยายธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างการเติบโตครั้งใหม่ให้กับธุรกิจ โดยเน้นการให้ความรู้เรื่องการบริหารร้าน การคำนวณต้นทุน การทำการตลาด การขยายสาขา และการสร้างคู่มือบริหารแฟรนไชส์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีหลักสูตรผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย การปรับพื้นฐานการทำธุรกิจแฟรนไซส์ Operation Management Product Franchise Management การสร้างแฟรนไชส์ การทำธุรกิจแฟรนไชส์อย่างถูกต้อง สอนเขียนแผนธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ การทำการตลาดออนไลน์ออฟไลน์ให้แฟรนไชส์ขายดี การปิดการขายฉับไวในการออกบูธ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้ตรงกับความสามารถของเรา สร้างภาพจำ ออกแบบร้านค้าน่าเข้าน่าเดิน เพิ่มยอดขาย และหัวใจของหลักสูตรคือ “การเขียน Manual แฟรนไชส์” เพื่อเสริมสร้างความรู้และยกระดับนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ปั้นธุรกิจจากเอสเอ็มอีขยายตลาดสู่การเป็น “แฟรนไชส์” อย่างเป็นระบบจนสามารถจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ธุรกิจเกษตรของตนเอง นำไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป ### PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
13 มิ.ย. 2022
คิดเห็นแชร์ : อยากเริ่มต้นธุรกิจยุคใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ดี
คิดเห็นแชร์ : อยากเริ่มต้นธุรกิจยุคใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ดี
คอลัมน์ : คิดเห็นแชร์ (มติชนออนไลน์) ผู้เขียน : นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ (ผู้อำนวยการกลุ่มสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) สวัสดีท่านผู้อ่านคอลัมน์คิดเห็นแชร์ทุกท่าน ปี 2565 ถือว่าเข้าสู่การเริ่มต้นของยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง และผันผวน ตั้งแต่ที่เราได้ประสบวิกฤตหลายสิ่งหลายอย่างมา ทั้งในเรื่องของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กว่าจะคลี่คลายแล้วก็ยังไม่หายดี กลับต้องเจอกับปัญหาสงครามความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจให้ตกต่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหลายธุรกิจต้องปิดกิจการ แรงงานถูกเลิกจ้าง ลดค่าแรง ผู้คนตกงาน หรือแม้กระทั่งหุ้นตก ค่าครองชีพสูงขึ้นจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนเกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ตระหนักรู้และหันมาให้ความสนใจในสุขภาพและความมั่นคงในชีวิตมากยิ่งขึ้น การได้ทำงานในองค์กรใหญ่ๆ มีตำแหน่งระดับผู้บริหาร มีรายได้หลักแสน อาจไม่ได้มีความมั่นคงอีกต่อไป จึงทำให้คนยุคปัจจุบันปรับเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) แตกต่างไปจากเดิม เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้สนใจในงานประจำ แต่กลับมองหาสิ่งแปลกใหม่หรือสิ่งที่ตัวเองถนัดและสนใจที่สุด มาสร้างให้เกิดรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ไม่ได้ยึดติดกับกรอบแนวคิดเดิมๆ ที่ว่า ตั้งใจเรียน หางานทำในบริษัทดีๆ แล้วจะมีความมั่นคง อย่างที่ทราบกันดีครับว่าเราเจอกับอะไรมาบ้าง? แนวคิดนั้น Out!! ไปแล้วครับสำหรับคนยุคนี้ คนรุ่นใหม่ในปี 2565 หรือที่บางคนเรียกกันว่ายุคมิลเลนเนียล (Millennials Generation) ที่กำลังจะมากุมชะตาของประเทศไทยในอนาคต คนรุ่นใหม่เหล่านี้มีความใฝ่ฝันที่จะมีธุรกิจหรือสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง สานต่อความฝันของตัวเองและครอบครัว และหวังว่าวันหนึ่งธุรกิจที่ตัวเองทำนั้นจะกลายเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้ต่อไปในอนาคต มีพฤติกรรมการทำงานที่เลือกงานและเปลี่ยนงานเร็ว จนทำให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องประสบปัญหาการขาดแคลนพนักงานคุณภาพและต้องแย่งหาคนมาทำงานในยุคที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยที่มีจำนวนคนทำงานน้อยลงเรื่อยๆ ดังที่ผมเคยได้ให้ความคิดเห็นแชร์ไว้ ในเรื่อง “คน” ความท้าทายของการดำเนินธุรกิจในยุคหลังโควิด-19 แต่ทราบมั้ยครับว่า ธุรกิจ SMEs และธุรกิจ Startup ของคนรุ่นใหม่ จาก 100% มีธุรกิจเป็นจำนวนมากถึง 95% ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน มีเพียงแค่ 5% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ อย่างที่เราๆ ท่านๆ ได้เห็นตัวอย่างจากสื่อต่างๆ ที่ตีแผ่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ผมถือว่านั้นเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ทำให้ใครหลายๆ คนมีกำลังใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักมากยิ่งขึ้น ซึ่งธุรกิจของคนรุ่นใหม่เหล่านั้น มีมุมหรือลักษณะธุรกิจที่เป็นรูปแบบใหม่ที่สามารถทำรายได้ดีในยุคนี้อย่างน่าประหลาดใจนัก จนทำให้คนที่ทำงานประจำที่อยู่ในกรอบเดิมๆ ต้องหันกลับมาคิดกับตัวเลยทีเดียวว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าหากมองอย่างวิเคราะห์เจาะลึกลงไปแล้วเราจะพบครับว่า พวกเขาที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น มีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกัน และยังคล้ายคลึงกับผู้ประกอบการรุ่นเก่าที่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะต่างมุมต่างวัยกัน นั่นก็คือ “จิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship Spirit)” จิตวิญญาณ หรือ Spirit ในภาษาอังกฤษ คือ สิ่งที่มองลึกเข้าไปในจิตใจ หรือสิ่งที่มีคุณค่าสูงทางจิตใจ ดังนั้น จิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ ก็คือ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีภายในจิตใจนั่นเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาตนเองให้มีแรงขับเคลื่อนภายในซึ่งถือเป็นคุณลักษณะสำคัญของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ และจากข้อมูลงานวิจัยเรื่อง แนวคิดการพัฒนาจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ ในวารสารสมาคมนักวิจัย ปีที่ 25 (2563) พบว่า จิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ ถือเป็นคุณสมบัติที่มีความจำเป็นในการสร้างความก้าวหน้าและความสำเร็จของการเป็นผู้ประกอบการ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทั้งองค์กรที่แสวงหาผลกำไรและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่างต้องการ เพราะบุคคลที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ย่อมสร้างสรรค์ผลงานและพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และองค์กรได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการทำงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อมที่มีประสบการณ์ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการและช่วยเหลือผู้ประกอบการมากว่า 80 ปี ที่ส่งเสริมให้นักธุรกิจต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง ไม่ใช่มีเพียงความฝันในการเริ่มต้นและอยากทำธุรกิจเท่านั้น โดยจำเป็นต้องมีคุณสมบัติภายในจิตใจที่เข้มแข็ง ได้แก่ 1) มีความรักและมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำไม่ย่อท้อ (Passion) 2) มีกระบวนการคิดไปในเชิงบวก (Positive Thinking) สามารถมองเห็นโอกาสในวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นได้ คอยเป็นกำลังใจให้ตัวเองและทีมงาน 3) มีความพร้อมที่จะปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานเสมอ (Adaptability) ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ยอมรับและปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ 4) มีความเป็นผู้นำ (Leadership) มีแรงบันดาลใจที่สามารถดำเนินธุรกิจไปสู่เป้าหมายได้ตามที่ตั้งใจไว้ 5) มีความทะเยอทะยาน (Ambition) ที่จะนำพาธุรกิจของตัวเองไปสู่จุดที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งในบางคนอาจมีคุณลักษณะด้านอื่นๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ผมได้กล่าวมาอีก ที่สำคัญคือ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถฝึกฝนเรียนรู้ขึ้นได้จาก “การลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ” เท่านั้น หลายโครงการที่ผ่านมาของภาครัฐได้สนับสนุนงบประมาณหรือทรัพยากรการผลิตให้กับผู้ประกอบการในลักษณะที่ให้เปล่ามากจนเกินไป จนทำให้ผู้ประกอบการกลับอ่อนแอลงและไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีสื่อการเรียนรู้มากมายให้ท่านได้ศึกษาค้นคว้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือการสมัครเข้าร่วมอบรมหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการใหม่กับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ อย่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านร่นระยะเวลาในการลองผิดลองถูก ประกอบกับการมีเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงหรือโค้ชที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำและพร้อมประคองท่านให้ก้าวไปด้วยกัน สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่าการเป็นผู้ประกอบการ นั้นใช้แค่ “ความอยากเป็น” อย่างเดียวคงเป็นกันไม่ได้ แต่จะต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการที่มีอยู่ภายในด้วย ไม่ว่าท่านผู้อ่านมุ่งมั่นที่จะทำหรือเป็นอะไร อย่าลืมใส่จิตวิญญาณและความมุ่งมั่นตั้งใจลงไปในสิ่งเหล่านั้นด้วย มันจะทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ขึ้นมา ดั่งที่ ไมเคิล จอร์แดน อดีตนักบาสเกตบอลอาชีพในตำนาน สังกัดทีมชิคาโก บูลส์ กล่าวไว้ว่า “ฉันชู้ตพลาดมากกว่า 9,000 ครั้งในอาชีพการงานของฉัน ฉันทำเกมแพ้เกือบ 300 ครั้ง 26 ครั้งที่ฉันได้รับความไว้วางใจให้ชู้ตลูกตัดสินแพ้ชนะและฉันพลาด ฉันล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีกในชีวิตของฉัน และนั่นคือเหตุผลที่ฉันประสบความสำเร็จ” สำหรับวันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า กับเรื่องราวและข้อคิดดีๆ ใน คิด เห็น แชร์ ครับ ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/eco-report/news_3393638
12 มิ.ย. 2022
Model ทางธุรกิจ
Model ทางธุรกิจ
โมเดลธุรกิจเพื่อการเริ่มต้น สำหรับผู้ประกอบการ SMEs
10 มิ.ย. 2022
RoboCup 2022
RoboCup 2022
09 มิ.ย. 2022