โทรศัพท์ 1358
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม ล้อมวงประชุมจัดทำคำของบปี 70 เตรียมพร้อมเสริมแกร่งธุรกิจไทย
“อธิบดีณัฏฐิญา” นำทีมดีพร้อม ล้อมวงประชุมจัดทำคำของบปี 70 เตรียมพร้อมเสริมแกร่งธุรกิจไทย
กรุงเทพฯ 17 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในการประชุมการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมี นายสุรพล ปลื้มใจ นายดุสิต อนันตรักษ์ และ นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว เป็นการหารือการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยที่ประชุมฯ ได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดเนื้อหาของโครงการที่จะเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 พร้อมกับทบทวนกรอบวงเงินงบประมาณให้มีความเหมาะสมกับผลผลิต และเพื่อประสิทธิผลในการดำเนินกิจกรรมโครงการในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ตลอดจนการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรม และเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกันของแต่ละโครงการ เพื่อสนับสนุนและตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งดีพร้อม มีแนวทางในการดำเนินงานที่สำคัญ คือ การพัฒนาแผนงานยุทธศาสตร์ด้านเกษตรอุตสาหกรรม ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตร สนับสนุนการตรวจวิเคราะห์ การขอรับรองเครื่องหมายฮาลาล การยกระดับผลิตภาพและมาตรฐานธุรกิจเกษตรแปรรูปไทยเพื่อเทียบเท่าระดับสากล การพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่อุตสาหกรรมขนส่งระบบราง มุ่งลดต้นทุนโลจิสติกส์ และยกระดับ Supply Chain ด้วย Cold Chain โดยที่ประชุมฯ มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับวัตถุประสงค์ของโครงการให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของกระทรวงคมนาคม และการบูรณาการร่วมกันกับสถาบันยานยนต์ นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมชุมชน เศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างอาชีพให้ชุมชนที่มีศักยภาพ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สร้าง Value added ต่อยอดอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และการจัดการเพื่อการส่งออก มุ่งสู่เศรษฐกิจความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing Economy) รวมทั้งพัฒนาบุคลากรอย่างมีมาตรฐาน สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เสริมศักยภาพยานยนต์สมัยใหม่ ส่งเสริมการผลิตอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นอกจากนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยังมุ่งเน้นการยกระดับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม ITC (Industry Transformation Center) โดยที่ประชุมฯ มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเสนอเครื่องจักรใหม่ๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ โดยควรเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยี นวัตกรรม ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการและเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยที่ประชุมฯ มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการและเหตุผลของการจัดทำคำของบประมาณปี 2570 ให้มีความชัดเจนและไม่ทับซ้อนกับโครงการอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่รองรับนิคม SME ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
20 พ.ย. 2025
“รองอธิบดีดุสิต” หารือ บริษัท เวเธอร์นิวส์ เตรียมติดอาวุธ SME ไทย ด้วยเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศความแม่นยำสูง
“รองอธิบดีดุสิต” หารือ บริษัท เวเธอร์นิวส์ เตรียมติดอาวุธ SME ไทย ด้วยเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศความแม่นยำสูง
กรุงเทพฯ 13 พฤศจิกายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับ นายมาซาจิกะ นิชิบายาชิ กรรมการผู้จัดการบริษัท เวเธอร์นิวส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเข้าพบและนำเสนอโมเดลการพยากรณ์อากาศและการนำไปใช้ประโยชน์ รวมถึงความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนจากกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมและกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม ร่วมหารือ ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยเป็นการหารือเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในการนำข้อมูลด้านพยากรณ์อากาศมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการผลิต การขนส่งวัตถุดิบ เป็นต้น ซึ่งบริษัท เวเธอร์นิวส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการข้อมูลสภาพอากาศ และการพยากรณ์อากาศ ที่ครอบคลุมมากกว่า 44 ธุรกิจทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการวางแผนการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และการวางแผนป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในเรื่องของข้อมูลสภาพอากาศและการพยากรณ์อากาศ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอุทกภัยและการจัดการจราจร ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก ทั้งนี้ ผู้แทนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้ให้ข้อเสนอแนะ การนำข้อมูลด้านพยากรณ์อากาศมาปรับใช้กับบทบาทและภารกิจด้านการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ - ปลายน้ำ รวมถึงเสนอให้ทางบริษัทฯ ควรเปิดให้ผู้ประกอบการได้ทดลองใช้บริการในรูปแบบซอฟต์แวร์ฟรี (Software House) เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์และการให้บริการของทางบริษัทฯ “รองอธิบดีดุสิตฯ” ได้กล่าวถึง การประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านอากาศกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ สอจ. ในการตรวจการปล่อยน้ำเสีย มลพิษทางอากาศ และ PM 2.5 และการใช้ประโยชน์ข้อมูลคาดการณ์ช่วงเวลาที่ฝนตกของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งาน Boiler ซึ่งหากบริษัทฯ สามารถให้บริการข้อมูลดังกล่าวได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ อก. ภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
20 พ.ย. 2025
“ดีพร้อม” เปิดห้องต้อนรับ “SMRJ” แลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาแพลตฟอร์ม พร้อมสานต่อความร่วมมือยกระดับผู้ประกอบการ ไทย-ญี่ปุ่น
“ดีพร้อม” เปิดห้องต้อนรับ “SMRJ” แลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาแพลตฟอร์ม พร้อมสานต่อความร่วมมือยกระดับผู้ประกอบการ ไทย-ญี่ปุ่น
กรุงเทพฯ 10 พฤศจิกายน 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมให้การต้อนรับ นายคาเนโกะ โทโมฮิโระ รองประธานบริหารองค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลและนโยบายการสนับสนุนและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ไทย – ญี่ปุ่น ณ อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 (DIPROM Headquarter) การประชุมครั้งนี้ มีการหารือร่วมกันถึงผลการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างดีพร้อม และ SMRJ ที่ผ่านมา ในกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ CEO Business Meeting ที่มุ่งเน้นการเชิญผู้บริหารระดับสูง (CEO) ของบริษัทจากประเทศไทยและต่างชาติเข้าร่วม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วและคล่องตัว ซึ่งมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2566 ถึงปัจจุบัน โดยล่าสุดในปี 2568 กิจกรรม CEO Business Meeting มีการจัดขึ้นภายใต้ 3 ธีมงาน คือ อุตสาหกรรมนวัตกรรม (Innovative Industry) อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ (Medical Equipment Industry) และ เทคโนโลยีเชิงนิเวศน์ (Eco Technology) โดย ดีพร้อมได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม 17 ราย ทั้งนี้ ในปี 2569 - 2570 ทั้งสองหน่วยงานยังคงมีแผนที่จะสานต่อกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยดีพร้อมการวางแผนในการดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการไทยให้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีคุณภาพต่อไป สำหรับกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ CEO Business Meeting เป็นการดำเนินงานภายใต้แนวคิดที่ในการเชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเร่งให้เกิดข้อตกลงทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการเจรจาหาคู่ค้าและการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ และสอดคล้องตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว โดยทุกภาคส่วนสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างแข็งแรง มั่นคง และยั่งยืน พร้อมกันนี้ ทั้งสองหน่วยงานยังได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล นโยบายการสนับสนุน และการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ไทย – ญี่ปุ่น โดย รองอธิบดีดุสิต ได้กล่าวชื่นชมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจ "J-GoodTech" ของ SMRJ ซึ่งดีพร้อมเล็งเห็นถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการฐานข้อมูลผู้ประกอบการที่ทันสมัย โดย SMRJ ยินดีที่จะให้คำปรึกษาแนะนำ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำมาพัฒนาแพลตฟอร์มของดีพร้อมในอนาคต และความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การกำหนดทิศทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
20 พ.ย. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” แท็คทีมดีพร้อม รับฟังประเมินความคุ้มค่าการทำงานฯ ปี 67 - 68 พร้อมเดินหน้าปรับปรุงแผนพัฒนาอุตสาหกรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในอนาคต
“อธิบดีณัฏฐิญา” แท็คทีมดีพร้อม รับฟังประเมินความคุ้มค่าการทำงานฯ ปี 67 - 68 พร้อมเดินหน้าปรับปรุงแผนพัฒนาอุตสาหกรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในอนาคต
กรุงเทพฯ 11 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมวิพากษ์รายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ นายดุสิต อนันตรักษ์ และนายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) และคณะที่ปรึกษาจาก บริษัท ทริส คอร์ปอเชั่น จำกัด โดยมี นางสาวอังสนา โสมาภา ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กล่าวรายงาน ณ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting ในการประชุมดังกล่าว มีการนำเสนอรายงานการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบถึงผลการดำเนินงานทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งมีการวิเคราะห์และประเมินผลในปัจจัยที่ทำให้เกิดความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจของดีพร้อมและสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ผลผลิตตามวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรม และเกิดประโยชน์ที่สมดุลกับทรัพยากรที่ใช้อย่างคุ้มค่า โดยในปี 2568 ที่ผ่านมา ดีพร้อมได้วางกรอบการติดตามและประเมินผลโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) การติดตามความก้าวหน้า การประเมินผลลัพธ์ และผลสัมฤทธิ์การดำเนินโครงการ/กิจกรรมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และ 2) การประเมินประสิทธิภาพ ผลกระทบ และความคุ้มค่าการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานตั้งแต่ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลลัพธ์ และผลกระทบ ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในทุกรูปแบบของการดำเนินโครงการ/กิจกรรม โดย อธิบดีณัฏฐิญา คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคของดีพร้อม ได้รับฟังสรุปผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมของดีพร้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และผลการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมของดีพร้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พร้อมทั้งรับฟังข้อสังเกตและข้อเสนอแนะภาพรวมจากทีมที่ปรึกษา บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของดีพร้อม อาทิ การสร้างและเพิ่มทักษะผู้ประกอบการ SME อย่างต่อเนื่อง การสร้างทักษะทางเทคโนโลยีในการผลิตของชุมชน ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีไปวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ ทบทวนและโครงการ/กิจกรรมที่วัตถุประสงค์ใกล้เคียงกันเพื่อเพิ่มงบประมาณ รวมถึงการพัฒนาผู้ให้บริการทางธุรกิจ (Service Provider: SP) จากผู้เชี่ยวชาญเทคนิคสู่เชิงธุรกิจครบวงจร ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้เสนอแนะแนวทางรูปแบบการพัฒนาส่งเสริมของดีพร้อมในอนาคต เช่น การพัฒนาทั้งระบบอุตสาหกรรมในพื้นที่ สร้างระบบให้ SME เข้าถึงได้ตลอดเวลา การใช้ศูนย์ ITC เพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การใช้บริษัทขนาดใหญ่ไปช่วย SME เปลี่ยนบทบาทของดีพร้อมจากผู้จัดฝึกอบรม เป็น ผู้ให้บริการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดีพร้อมมีการดำเนินงานและพัฒนาผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทานในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1) การยกระดับศักยภาพภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจ 2) การส่งเสริมมูลค่าเพิ่มและโอกาสด้านตลาด 3) ด้านโลจิสติกส์ 4) การพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม และ 5) การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยสามารถเพิ่มยอดขาย/รายได้กว่า 2,000 ล้านบาท ลดต้นทุนการผลิตกว่า 550 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 13 ล้านบาท และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,600 ล้านบาท
20 พ.ย. 2025
“รมว.ธนกร” สั่งการ กระทรวงอุตฯ เสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรม ดีพร้อม รับลูกต่อเร่งคลอดมาตรการ “ดีพร้อมเสิร์ฟ” (DIPROM Serve) เสิร์ฟงานไว – เงินไว สู่ประชาชน สร้างวัคซีนให้ SMEs ไทย กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 4,600 ล้านบาท
“รมว.ธนกร” สั่งการ กระทรวงอุตฯ เสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรม ดีพร้อม รับลูกต่อเร่งคลอดมาตรการ “ดีพร้อมเสิร์ฟ” (DIPROM Serve) เสิร์ฟงานไว – เงินไว สู่ประชาชน สร้างวัคซีนให้ SMEs ไทย กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 4,600 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 13 พฤศจิกายน 2568 - นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานแถลงข่าวการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย ปี 2569 : ดีพร้อมเสิร์ฟ งานไว เงินไว by DIPROM พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ โดยมี นายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพลอยลภัสร์ สิงโตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวจิรัฐติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางดวงดาว ขาวเจริญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานดังกล่าว ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) พระรามที่ 6 ราชเทวี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพของ SME ไทย เพื่อให้สามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในบริบทเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ Quick Big Win โดย กระทรวงอุตสาหกรรม ขานรับนโยบายดังกล่าว จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เร่งออกมาตรการ “ดีพร้อมเสิร์ฟ” งานไว เงินไว by DIPROM โดย (1) งานไว จะเป็นมาตรการภายใต้โครงการที่ได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณกลางเร่งด่วน เพื่อฝึกอบรมระยะสั้นในหลักสูตรพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ เพื่อนำไปสร้างรายได้ และความเข้มแข็งให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังมี (2) เงินไว ที่จะเป็นเครื่องมือในการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย โดยมาตรการดีพร้อมเสริ์ฟ งานไว เงินไว by DIPROM เป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกที่สำคัญในการเร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างเกราะป้องกัน ฟื้นความเชื่อมั่น ดันอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่มุ่ง “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว” เห็นผลจริงภายใน 120 วัน นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตคู่ชุมชนอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งการที่จะขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านนโยบายการทำงาน “MIND as One” โดยเชื่อมั่นว่าการทำงานเป็นทีม จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริการภาครัฐให้กับภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ ในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมเข้าสู่ธุรกิจมูลค่าสูง (High value) รวมถึงมาตรการส่งเสริมและพัฒนา SME และวิสาหกิจชุมชน ผ่านการเสริมแกร่งด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ พร้อมเสริมสภาพคล่องด้วยเงินทุน ทำให้เกิดการกระจายตัวครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีพร้อม ขานรับนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยการสร้างวัคซีนทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการผ่านมาตรการเชิงรุก “ดีพร้อมเสิร์ฟ” (DIPROM Serve) : งานไว เงินไว by DIPROM เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดภายใน 120 วัน ประกอบด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. “เสิร์ฟงานไว” เน้นเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับภาคอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพอย่างเข้มข้น เพื่อนำไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ ขณะเดียวกัน ดีพร้อมยังยกระดับบุคลากรภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับเศรษฐกิจแห่งอนาคต รวมถึงการบูรณาการองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจสีเขียวและแนวทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คาดว่าจะพัฒนาผู้ประกอบการและประชาชนไม่น้อยกว่า 60,000 รายทั่วประเทศ และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่น้อยกว่า 4,600 ล้านบาท 2.“เสิร์ฟเงินไว” เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลที่มีความต้องการสินค้าสูง (High Season) ผ่าน “สินเชื่อเงินทุนหมุนไว ไฮซีซั่น” วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 200 ล้านบาท ภายใต้ โครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย หรือดีพร้อมเปย์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างรวดเร็ว วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อราย และสำหรับวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท สามารถใช้บุคคลค้ำประกันได้ ระยะเวลาผ่อนชำระ 24 งวด ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 0.5 ต่อเดือน อธิบดีณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
14 พ.ย. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” ขับเคลื่อน Quick Big Win เสริมพลังธุรกิจไทย ชู “เงินไว by DIPROM” เปิดวงเงินกว่า 200 ล้านบาท !!!
“อธิบดีณัฏฐิญา” ขับเคลื่อน Quick Big Win เสริมพลังธุรกิจไทย ชู “เงินไว by DIPROM” เปิดวงเงินกว่า 200 ล้านบาท !!!
กรุงเทพฯ 10 พฤศจิกายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ครั้งที่ 6/2568 พร้อมด้วย ดร.พลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงาน ให้คณะกรรมการบริหารฯ ทราบเกี่ยวกับรายงานงบการเงินของเงินทุนหมุนเวียนฯ ในปีบัญชี 2568 และผลการดำเนินงานในภาพรวมของเงินทุนหมุนเวียน ในการนี้ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับร่างคำสั่งคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย เรื่อง การบริหารจัดการหนี้ และพิจารณาเกี่ยวกับสินเชื่อ “เงินไว by DIPROM” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย นำไปใช้ในการจัดซื้อวัตถุดิบรองรับการผลิต การจัดเตรียม หรือการเพิ่มสต็อกสินค้าให้พร้อมขาย สำหรับธุรกิจที่มีรอบการขายตามฤดูกาล หรือได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงเทศกาล (HIGH SEASON) เสริมสร้างโอกาสผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ หรือซื้อวัตถุดิบในราคาพิเศษได้ทันท่วงทีในช่วงฤดูเทศกาลที่กำลังจะมาถึงตั้งแต่ขึ้นปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ และสงกรานต์ สินเชื่อดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในมาตรการผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมตามนโยบายของนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อน Quick Big Win ของรัฐบาล โดยจะมุ่งเน้นการกระตุ้นสั้น แต่ได้ผลยาว พร้อมทั้งช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชน ภายใต้กรอบวงเงินโครงการ 200,000,000 บาท (สองร้อยล้านบาท) จุดเด่นของ “เงินไว by DIPROM” คือ กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน (ใช้บุคคลค้ำประกันหรือหนังสือรับรองตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด) อนุมัติไว ทราบผลการอนุมัติภายใน 7 วันทำการ อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.50 % ต่อเดือน ชำระหนี้ปิดบัญชีเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีก่อนกำหนด วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาท/ราย ผ่อนชำระคืนภายในระยะเวลา 2 ปี สำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่สนใจ สามารถสมัครเข้ารับบริการได้ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 - 16 เมษายน 2569
14 พ.ย. 2025
“กระทรวงอุตฯ” ผนึกกำลัง “ดีพร้อม” เปิดห้องแชร์ประสบการณ์ สร้าง Train the Trainer เตรียมพร้อม เดินหน้าสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ
“กระทรวงอุตฯ” ผนึกกำลัง “ดีพร้อม” เปิดห้องแชร์ประสบการณ์ สร้าง Train the Trainer เตรียมพร้อม เดินหน้าสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 7 พฤศจิกายน 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมกิจกรรมการฝึกอาชีพ โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์และดร.พลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวอัญชลีพร เขียวเกษม ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การดำเนินกิจกรรมการฝึกอาชีพ เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน มุ่งเน้นการเพิ่มทักษะ ประสิทธิภาพการผลิต เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้ชุมชน ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยคำนึงถึงความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการในพื้นที่ต่าง ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล และสอดคล้องกับนโยบายของนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับการมุ่งฝ่าปัญหาความท้าทายทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โลกและภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น พร้อมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ให้สามารถเติบโตและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการช่วยลดภาระรายจ่าย กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการสร้างอาชีพ ด้วยการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าสามารถสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกับการสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวม “อธิบดีณัฏฐิญา“ เน้นย้ำ ดีพร้อมยินดีที่จะเป็นทีมซัพพอร์ตในการให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ในการดำเนินกิจกรรมการฝึกอาชีพในพื้นที่ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และสร้าง Train the Trainer ในการเป็นนักส่งเสริมอุตสาหกรรมให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตามนโยบาย MIND as One ของปลัดณัฐพล
11 พ.ย. 2025
“รองอธิบดีพลาวุธ” ร่วมการประชุม คกก. ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เดินหน้าบูรณาการสร้างความมั่นคงให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
“รองอธิบดีพลาวุธ” ร่วมการประชุม คกก. ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เดินหน้าบูรณาการสร้างความมั่นคงให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 5 พฤศจิกายน 2568 - นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ครั้งที่ 3/2568 โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ถนนราชดำเนินนอก และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ มีการพิจารณานโยบายและแนวทางการบริหารจัดการที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการแจ้งการครอบครองที่ดินกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด เพื่อขอรับสิทธิโดยการเช่าตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม คปก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เพิ่มเติมอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2569 โดยมอบหมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการจัดทำและปรับปรุงระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องตามกระบวนกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ได้รับการพิจารณา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการอนุญาตใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่น ๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามนโยบาย บ-ว-ร (บ้าน วัด โรงเรียน) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน รวมถึงเห็นชอบการใช้พื้นที่ของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมอาชีพนอกภาคเกษตร และสืบสานต่อยอดด้านศิลปหัตถกรรมไทยอย่างยั่งยืน ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “ดีพร้อม” ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการและทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรไทย ให้มีขีดความสามารถในการพัฒนาและต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น เป็นการสร้างรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืน
11 พ.ย. 2025
กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ครบ 15 วันในการเสด็จสวรรคต เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ครบ 15 วันในการเสด็จสวรรคต เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
6 พฤศจิกายน 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ครบ 15 วันในการเสด็จสวรรคต เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพีรวัส สมวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวจิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์และนายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและข้าราชการดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุมทองคำ ชั้น 1 อาคารกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ทั้งนี้ ในการพระราชพิธีพระบรมศพ จะมีคำที่เกี่ยวกับการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ มีความต่างของคำในการใช้เรียกวาระสำคัญของการบำเพ็ญพระราชกุศล มีความหมายดังนี้ 1. สัตมวาร/สัตตมวาร (สัด-ตะ-มะ-วาน) วันที่ครบ 7, การบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 7 วันในการเสด็จสวรรคต 2. ปัณรสมวาร (ปัน-นะ-ระ-สะ-มะ-วาน) วันที่ครบ 15, การบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วันในการเสด็จสวรรคต 3. ปัญญาสมวาร (ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน)/ปัณณาสมวาร (ปัน-นา-สะ-มะ-วาน) วันที่ครบ 50, การบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 50 วันในการเสด็จสวรรคต 4. สตมวาร (สะ-ตะ-มะ-วาน) วันที่ครบ 100, การบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 100 วันในการเสด็จสวรรคต
11 พ.ย. 2025
“อธิบดีณัฏฐิญา” ร่วมประชุม คณะกรรมการบริหาร สสว. พร้อมผนึกกำลัง ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน เสริมพลังหนุนเอสเอ็มอีเพิ่มสัดส่วน GDP ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“อธิบดีณัฏฐิญา” ร่วมประชุม คณะกรรมการบริหาร สสว. พร้อมผนึกกำลัง ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน เสริมพลังหนุนเอสเอ็มอีเพิ่มสัดส่วน GDP ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
กรุงเทพฯ 31 ตุลาคม 2568 - นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานส่งเสริม SME โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองเลขาคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ช่วยปฏิบัติราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ คณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 101 ชั้น 10 สสว. และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting ในการประชุมครั้งนี้ ประธานฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญกับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันประเทศไทยมี MSME กว่า 3 ล้านราย แต่ยังมีความเปราะบางและจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมให้แข็งแรง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยประธานฯ ได้มอบหมาย 3 แนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้แก่คณะกรรมการ สสว. และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1. การปรับกรอบความคิด หรือทัศนคติ (Mindset) เกี่ยวกับระบบในการทำงาน โดยจะให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ทำหน้าที่ในการเป็น “ศูนย์รวมและกระจายงบประมาณ” โดยขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันระดมความเห็นและเสนอโครงการในการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี เพื่อให้ สสว. ดำเนินการพิจารณากลั่นกรองพร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญก่อน-หลัง เพื่อให้การพิจารณาจัดสรรงบประมาณไปเป็นไปอย่างมีเอกภาพ 2. การกำหนดเป้าหมายส่วนแบ่ง GDP ของเอสเอ็มอีระดับประเทศ จะต้องมีการกำหนดตัวเลขค่าเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นเป้าหมายสูงสุดของการจัดสรรงบประมาณ โดย สสว.ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนหลักจะต้องมีการประกาศให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินงานเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน 3. ควรมีการทบทวนบทบาทของกองทุนและเครื่องมือในการส่งเสริมพัฒนาเอสเอ็มอีที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำงานเชิงรุก และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมเอสเอ็มอี ทั้งในด้านของการเงิน การตลาด และเทคโนโลยี ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตาม มาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 ที่กำหนดให้เงินกองทุนของ สสว. ใช้เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเอสเอ็มอีแบบครบวงจร ทั้งในมิติการเงินและการพัฒนาครอบคลุมการก่อตั้ง ปรับปรุง/พัฒนา ขยายกิจการ วิจัยและพัฒนา ตลอดจนการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมผ่านผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์การเอกชน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทย พร้อมกันนี้ “อธิบดีณัฏฐิญา” ได้ให้ข้อมูลกับที่ประชุมถึงแนวทางการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีของดีพร้อม ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนในเชิงระบบที่เชื่อมต่อกันในซัพพลายเชน เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในระบบการผลิตของผู้ประกอบการรายใหญ่ ควบคู่กับการให้ทักษะ บ่มเพาะ และสนับสนุนเครื่องมือการผลิต ให้มีศักยภาพ ได้มาตรฐานและพร้อมเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่ จึงส่งต่อเข้าสู่แหล่งเงินทุนตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมด้านการตลาดดิจิทัล พร้อมส่งเสริมการนำนวัตกรรมปประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตเกษตรแปรรูปตั้งแต่ต้นน้ำ ในส่วนของการบริหารจัดการฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) การพัฒนานักธุรกิจเกษตร พร้อมต่อยอดสู่ เกษตรอุตสาหกรรม และการสร้างผู้ประกอบการที่มีการผลิตที่ดี มีมาตรฐาน เพื่อสร้างคุณภาพให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ “Made by Thai” ที่จะเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการผลิตของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตในระดับสากล
06 พ.ย. 2025