กรุงเทพฯ 14 ธันวาคม 2563 - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวสุชดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม สื่อมวลชน และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 350 คน และในโอกาสนี้ นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ นายใบน้อย สุวรรณชาตรี และนายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารและข้าราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม (The Prime Minister’s Industry Award ) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้นับเป็นปีที่ 28 โดยรางวัลอุตสาหกรรมนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกอบการที่มีความคิดริเริ่ม มีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยมีเกณฑ์การพิจารณาที่เข้มข้นในการคัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละปี เพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาธุรกิจ บุคลากร สร้างทักษะ ปรับปรุง และพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและอนาคต สำหรับในปีนี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัล รวมจำนวนทั้งสิ้น 79 รางวัล ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ตราสินค้า อาทิ คาร์เนชัน ทีพอท แมกโนเลีย ตราหมี นอกจากนี้ ยังเป็นสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนจาก กสอ. ผ่านกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม เป็นการตัดสินจากสถานประกอบที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ประเภทรางวัล 2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 8 ประเภท จำนวน 48 รางวัล และ 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น แบ่งเป็น 4 ประเภท จำนวน 30 รางวัล จากจำนวนผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้งสิ้น 260 ราย นอกจากนี้ ยังได้มีการมอบรางวัลชมเชย ให้กับผู้ประกอบการในส่วนของรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น จำนวน 5 รางวัล เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการในการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจต่อไป รางวัลอุตสาหกรรมทุกประเภท ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความแข็งแกร่ง พัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้า พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าอุตสาหกรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล ตลอดจนพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 14 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ลสล.กสอ.) ร่วมแสดงความยินดีและบริจาคเงินสมทบทุน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ กับ”ศิริราชมูลนิธิ” โรงพยาบาลศิริราช เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 48 ปี การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยมี นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้บริหาร กนอ. เป็นผู้รับมอบในครั้งนี้ ณ อาคาร กนอ. ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพ 8 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดที่เหมาะสม" พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมี นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาฯ ดังกล่าว ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน การสัมมนาฯ ดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดขึ้นเพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการในเครือข่าย DIP SMEs Network วิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี ที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ อาทิ บรรจุภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อาหารเครื่องดื่ม สินค้าด้านนวัตกรรม เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นภายใต้เครือข่ายธุรกิจ และการสร้างยอดขายให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนากว่า 70 ราย เกิดมูลค่าการซื้อ-ขายประมาณ 150 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการขยายฐานธุรกิจและเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 5 ธันวาคม 2563 – นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมพิธีถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมด้วย คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ ท้องสนามหลวง ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว

กรุงเทพ ฯ 3 ธันวาคม 2563 - นายใบน้อย สุวรรณชาตรี แถลงข่าวผลสำเร็จโครงการ “SMEs GROW UP” ปั้นเอสเอ็มอีสู่ B2C ฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตรและกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยมี นายวาที พีระวรานุพงศ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวรายงาน ณ ห้องบอลรรูม โรงแรมคอนราด สำหรับโครงการ “SMEs GROW UP” ปั้น SMEs สู่ B2C ฝ่าวิกฤตวิกฤตโควิด-19 เป็นโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้ประกอบการไม่สามารถทำการตลาดแบบเดิมได้ จึงหันมาปรับเปลี่ยนการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ แทน ดังนั้น กสอ. จึงได้มีหลักสูตรการตลาดออนไลน์ที่รวบรวมพื้นฐานการทำตลาดออนไลน์ที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการผ่านทางการรับชมทางช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ โดยดำเนินการผ่าน 2 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมการอบรมด้านการตลาดออนไลน์ สำหรับการทำตลาดธุรกิจแบบ B2C โดยวิทยากรจากแบรนด์ชั้นนำและองค์กรที่เป็นผู้นำในการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีทำการตลาดและโฆษณา ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมากมายมาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ กับ 8 หลักสูตรพื้นฐาน และ 2. กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำด้านธุรกิจออนไลน์แบบกลุ่ม ผ่านทางเว็บไซต์ www.smesgrowup.com โดยทั้ง 2 กิจกรรม มีผู้ประกอบการทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมพัฒนาทักษะกว่า 10,000 ราย ผ่านการอบรมการตลาดออนไลน์ทั้งหลักสูตรพื้นฐานและเชิงลึก และคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมให้คำปรึกษาเชิงลึกในรูปแบบออนไลน์กว่า 350 กิจการ ซึ่งสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำตลาดออนไลน์และส่งผลให้มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมากถึง 330 ล้านบาท และในโอกาสนี้ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยังให้เกียรติมอบประกาศนียบัตรและกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวน 35 กิจการ ซึ่งรับคัดเลือกให้เข้ารับคำปรึกษาแนะนำอย่างเข้มข้นจากผู้เชียวชาญทางด้านการตลาด พร้อมทำ Workshop และมีความโดดเด่นในการประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้อย่างดี ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 2 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ “อุตสาหกรรมไทยใต้พระบารมี” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ในกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ปี 2563 ที่รัฐบาลจัดขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณถนนสนามไชย เขตพระนคร กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการ “อุตสาหกรรมไทยใต้พระบารมี” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในฐานะที่เป็นต้นแบบของกษัตริย์นักพัฒนา พร้อมทั้ง เผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเผยแพร่การน้อมนำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการของกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 6 ธันวาคม 2563 ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว

กรุงเทพ 1 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงผลความสำเร็จโครงการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ร่วมด้วย นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผู้นำชุมชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา โดยมี นางวนิดา บุญนาคค้า ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการฯ และ นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กสอ. กล่าวรายงาน ณ ห้องศาลาไทย โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ โครงการดังกล่าว เป็นโครงการภายใต้การดำเนินงานของ กสอ. โดยบูรณาการร่วมกับโครงการยุวชนอาสา แผนงานยุวชนสร้างชาติ ของ อว. เพื่อดึงทักษะความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษา ผ่านการลงพื้นที่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในพื้นที่ เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน พร้อมการนำเทคโนโลยีเข้าไปพัฒนาระบบการทำงาน ทำให้สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงให้กับชุมชน และเป็นการฝึกงานด้วยประสบการณ์ตรง โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่มีศักยภาพทั้งหมด 11 ชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นต่อไป ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการ ฯ เกิดผลลัพธ์ออกมาในทิศทางที่ดีขึ้นให้กับชุมชน คือ มีรายได้เพิ่มขึ้น ทักษะของคนในพื้นที่ได้รับการพัฒนา เกิดความร่วมมือในระดับบุคคลและชุมชน เกิดการพัฒนาโครงสร้างชุมชนที่เข้มแข็งส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับออกแบบขึ้นมาใหม่จากกลุ่มนักศึกษา โดยเน้นการอนุรักษ์วิถีดั้งเดิม เช่น วิถีเกษตรอินทรีย์ วิถีประมง วิถีหัตถกรรมท้องถิ่น ซึ่งแต่ละชุมชนล้วนมีอยู่แล้ว จึงไม่เกิดความเสี่ยงจากการลงทุน สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งยังช่วยให้รูปแบบการดำเนินงานของชุมชนเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน และในโอกาสนี้ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่ นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 11 มหาวิทยาลัย และมอบโล่ให้กับชุมชนโดยแบ่งออกเป็น โล่สำหรับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ 7 ชุมชน และ โล่พร้อมเงินรางวัลให้แก่ชุมชนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Best Pratice อีก 4 ชุมชน ซึ่งชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ชุมชนบ้านหน้าทับ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผลคะแนนที่ได้วัดจากเกณฑ์การให้คะแนนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวทั้ง 11 ชุมชน ประกอบด้วย การประเมินศักยภาพของชุมชน สิ่งอำนวยความสะดวก การมีส่วนร่วมของชุมชน การชูวัฒนธรรมวิถีชุมชน สินค้าของที่ระลึก โดยจะนำผลไปเป็นแนวทางการส่งเสริมชุมชนให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

กรุงเทพฯ 30 พฤศจิกายน 2563 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงผลสำเร็จการส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้มีศักยภาพ พร้อมเชื่อมโยงเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานกลางเพื่อการประสานความร่วมมือดังกล่าว ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติมอบใบประกาศนียบัตรและของที่ระลึกให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 6 กิจการ ทั้งนี้ ก่อนพิธีดังกล่าว ได้มีกิจกรรมการนำเสนอผลงานเพื่อการเชื่อมโยงเข้ากับแหล่งเงินทุน โดยมี นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและการตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น (STARTUP CONNECT) และนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) นายพัทธ์ชลิต กลิ่นหอม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีซีจี-รีเซียร์ช จำกัด นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไรส์ แอคเซล จำกัด ผู้แทนบริษัทร่วมลงทุนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมจำนวนมาก ณ ห้องประชุม ชั้น 22 อาคารเกษรทาวเวอร์ กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ (Startup) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการดำเนินธุรกิจ โดยส่งเสริมโอกาสและช่องทางให้แก่สตาร์ทอัพในการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะการดำเนินธุรกิจส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายกับอุตสาหกรรมสนับสนุนต่าง ๆ ให้เป็นกลไกที่ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม รวมถึงสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการตลาดอย่างเหมาะสม อันจะนำไปสู่การยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดย กสอ. มีทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษ หรือ ทีมกูรูดีพร้อม (DIProm Guru) เข้าไปบ่มเพาะและดําเนินการ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในระยะเริ่มต้น (Early Stage) เพื่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่และต้นแบบเชิงนวัตกรรมในการนำไปทดสอบเชิงพาณิชย์ จากนั้นจึงจะดําเนินการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงธุรกิจร่วมลงทุนภาคเอกชน (Venture Capital: VC) เพื่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจที่มีประสิทธิภาพส่งผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการและภาคเอกชนผู้ร่วมลงทุน ซึ่งโครงการนี้ มีสตาร์ทอัพ 35 กิจการ ที่ผ่านการบ่มเพาะจาก กสอ. ให้ความสนใจและได้นำเสนอรายละเอียดทางธุรกิจให้กับ VC ในเครือข่าย กสอ. ซึ่งรวมถึง บริษัท อีซีจี-รีเซียร์ช จำกัด ทั้งนี้ กิจกรรมในวันนี้ มีสตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือกให้มานำเสนอไอเดียหรือธุรกิจในรอบสุดท้าย จำนวน 6 กิจการ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่า 350 ล้านบาท ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว

จ.ชัยนาท 29 พฤศจิกายน 2563 - นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดงานการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท ร่วมด้วย นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 3.นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) คณะผู้บริหารสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) คณะผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนในพื้นที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมี นายสมบูรณ์ ศิริวช ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวต้อนรับ นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและนายรักพงษ์ เชงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวรายงาน ณ อาคารหอประชุมหน้าโรงพักเก่าสรรพยา ย่านถนนคนเดินตรงข้างโรงพักเก่า อำเภอสรรพยา งานดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือ ระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กับ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามแนวทางของประเทศไทย 4.0 เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติ ได้โดยเร็ว นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สาคัญของประเทศไทย โดยงานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท ของ กสอ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ให้เกิดการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชัยนาท นำร่อง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสรรพยา อำเภอเนินขาม อำเภอมโนรมย์ และอำเภอสรรค์บุรี เข้าร่วมพัฒนา จำนวน 10 กลุ่ม และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ พร้อมรับการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ โดยภายในงานประกอบด้วย 6 กิจกรรม ดังนี้ 1. การสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงสู่กํารท่องเที่ยว 2. การฝึกอบรมสร้างนักออกแบบชุมชน Local Designer การให้บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์อัตลักษณ์ชุมชน (THAI IDC MOBILE UNIT) โดยมีการมอบต้นแบบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้แทนชุมชน 4 หมู่บ้าน 4. คลินิกให้คําปรึกษาแนะนําเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพ 5.การแสดงผลิตภัณฑ์หลักของ 4 อําเภอ และ 6. การแสดงผลงานการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จังหวัดชัยนาท ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 640 คน และคาดว่าการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวจะสามารถส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อชุมชน และในโอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะฯ ได้เดินเยี่ยมชมและพบปะประชาชน ผู้ประกอบการในถนนคนเดินโรงพักเก่าสรรพยาอีกด้วย ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกร

จ.ชัยนาท 29 พฤศจิกายน 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ร่วมด้วย นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ กสอ. ผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมี นายอภินันท์ เจริญสุข ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.3 กสอ.) กล่าวรายงาน ณ อำเภอสรรพยา กิจกรรมสัมมนาดังกล่าว ดำเนินการภายใต้โครงการสร้างอัตลักษณ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้พัฒนาทักษะวิชาชีพในหลากหลายมิติ เช่น การเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของตนเอง การเข้าถึงความต้องการของลูกค้า รู้หลักกระบวนการออกแบบบริการ ตลอดจนการสร้างสรรค์ออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ไปต่อยอดให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจาก กสอ. เล็งเห็นถึงศักยภาพเชิงพื้นที่ของ จ. ชัยนาท ที่มีความพร้อมในการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของชุมชนพร้อมเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมพัฒนาจำนวน 10 กลุ่ม 20 ผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งการพัฒนา ดังนี้ 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถอุตสาหกรรม 2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตรแปรรูปด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ และ 3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นของที่ระลึกประจำพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ จนสามารถยกระดับเศรษฐกิจของพื้นที่ได้ ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว