“อธิบดีณัฐพล” แนะ SMEs ไทย ก้าวสู่อนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทยในยุค Next Normal
กรุงเทพฯ 25 กรกฎาคม 2565 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าว ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “อนาคตอุตสาหกรรมไทยในยุค Next Normal” ในกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดที่เหมาะสม ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายเจตนิพิฐ รอดภัย และนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) นายนิวัฒน์ มีมงคลเกียรติ ประธานเครือข่าย DIP SMEs Network และผู้ประกอบการเครือข่ายฯ ณ ห้อง Ballroom A ชั้น 7 โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในยุค Next Normal คือ การปรับตัว เมื่อโลกเปลี่ยนไป ธุรกิจก็ต้องปรับให้ทันต่อเหตุการณ์ด้วย เช่น การเปลี่ยนไปประกอบธุรกิจบนแพลตฟอร์ม E-Commerce หรือ เพิ่มช่องทาง Delivery โดยนโยบายด้านอุตสาหกรรมของรัฐบาล ภายใต้ การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ ได้ช่วยชี้นำให้อุตสาหกรรมไทย เดินมาอย่างถูกทิศถูกทาง อาทิ นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก การยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่อุตสาหกรรม EV การยกระดับเกษตรกรรมไปสู่เกษตรอุตสาหกรรม การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยไปสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต การส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์และเครื่องมือแพทย์ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)
สำหรับในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา นอกจากจะมีมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ จากรัฐบาลแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในทุกภูมิภาค เพื่อรองรับแรงงานกลับสู่ท้องถิ่น ผ่านกลไกการพัฒนาชุมชนดีพร้อม และเกษตรอุตสาหกรรม ภายใต้ มาตรการ “7 วิธี ปั้นชุมชนดีพร้อม” ประกอบด้วย แผนชุมชนดีพร้อม คนชุมชนดีพร้อม แบรนด์ชุมชนดีพร้อม ผลิตภัณฑ์ชุมชนดีพร้อม เครื่องจักรชุมชนดีพร้อม ตลาดชุมชนดีพร้อม และเงินหมุนเวียนดีพร้อม โดยเฉพาะในเรื่องคนชุมชนดีพร้อมนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ได้พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม ซึ่งเป็นการเสริมทักษะและฝึกอาชีพแก่ประชาชนให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีอาชีพใหม่ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้กลับคืนสู่ชุมชน
สำหรับแนวโน้มของเศรษฐกิจดิจิทัลในยุค Next Normal และความก้าวหน้าในการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เร่งให้ทุกภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ มาประยุกต์ใช้ในสินค้า บริการ และการดำเนินกิจการ ขณะเดียวกันแนวโน้มของกฎระเบียบโลกในด้านเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ยังตอบโจทย์จำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศและแนวโน้มการขาดแคลนทรัพยากรปัจจัยการดำรงชีพ ซึ่งมาในรูปของโจทย์ด้าน Net Zero Emissions, Zero Waste to Landfill หรือ Water Footprint ที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องบริหารจัดการให้ได้ตามตารางเวลาที่กำหนด โดยแรงกดดันจากวิถี Next Normal และแนวโน้มในด้านกฎระเบียบของโลกในด้านต่าง ๆ กำลังส่งผลให้การก้าวสู่อนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทยจำเป็นต้องมีการปรับธุรกิจแบบยกเครื่อง ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มุ่งเน้นการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในทั้ง 4 มิติควบคู่กัน ได้แก่ ด้าน Economic Success ด้าน Social Responsibility ด้าน Environmental Conservation และด้านการกระจายความเจริญด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ทำให้ประชาชนรักภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดที่เหมาะสม จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการเชื่อมโยง “ตลาดทุน” ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบกิจการที่มีศักยภาพที่ต้องการขยายธุรกิจ และเป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในอนาคต ###PRDIPROM (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
26
ก.ค.
2022