โทรศัพท์ 1358
กลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่ปั้นแบรนด์ “เพชรเพทาย” ผ้าครามที่มีเอกลักษณ์
กลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่ปั้นแบรนด์ “เพชรเพทาย” ผ้าครามที่มีเอกลักษณ์
ณ บ้านกุดเรือใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทอผ้ากันมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เป็นในลักษณะต่างคนต่างทำ ในปี 2548 คุณเพชรคำ แป้นไชยวงค์ จึงได้รวมตัวชาวบ้านในชุมชน และจัดตั้งกลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่ขึ้นเพื่อทอผ้าฝ้าย ผ้ามัดหมี่ ผ้าขาวม้า ผ้าย้อมสีธรรมชาติออกจำหน่าย ต่อมาในปี 2555 จึงได้เริ่มผลิตผ้าย้อมครามออกจำหน่าย ชูจุดเด่นที่การทอลายก้างปลา และลายน้ำไหล โดยเป็นการทอเพื่อนำไปแปรรูป 30% ส่วนอีก 70% เป็นการทอผ้าเมตร ผ้าคลุมไหล่ ผ้าชุด ผ้าถุงและผ้ามัดหมี่ เมื่อผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายได้ระยะหนึ่งกลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่มีแนวคิดอยากจะพัฒนาในเรื่องของลวดลายให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงบรรจุภัณฑ์ให้มีความโดดเด่น เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่า ผลิตภัณฑ์แต่เนื่องจากขาดความรู้จึงได้เข้าร่วมโครงการยกระดับเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจชุมชนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับคำแนะนำในเรื่องการพัฒนาทักษะการผลิต ตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ แม้กลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่จะมีความชำนาญในเรื่องการทอและการย้อมแต่หลังจากการได้เข้าร่วมโครงการทำให้ได้ทราบถึงเทคนิคใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาพัฒนาทักษะด้านการผลิต เช่น การย้อมอย่างไรให้ผ้าสีไม่ตกรวมถึงเรื่องการพัฒนาตราสินค้า โดยใช้เป็นรูปเพชร ส่วนบรรจุภัณฑ์ เป็นถุงกระดาษสีขาวที่มีลวดลายของผ้าครามที่มีเอกลักษณ์ จำหน่ายภายใต้แบรนด์เพชรเพทาย หลังจากการพัฒนาทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% สร้างรายได้ให้สมาชิกในกลุ่มได้มากขึ้น คุณเพชรคำ แป้นไชยวงค์ กลุ่มสตรีทอผ้าย้อมครามบ้านกุดเรือใหญ่ 198 หมู่ 2 บ้านกุดเรือใหญ่ ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 47120 โทรศัพท์ : 08 4728 5892 ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2017
จากความฝัน สู่แบรนด์เสื้อผ้า AD-HOC เน้นสีไม่ฉูดฉาด เอาใจหนุ่มสาววัยทำงาน
จากความฝัน สู่แบรนด์เสื้อผ้า AD-HOC เน้นสีไม่ฉูดฉาด เอาใจหนุ่มสาววัยทำงาน
เมื่อมีความฝันอยากมีธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง และเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง จึงลงมือศึกษาเรียนรู้ทั้งวิธีการดำเนินธุรกิจ การทำตลาดและการออกแบบสินค้าเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด คุณวิยะดา เตียวพงษ์พันธุ์ ก่อร่างสร้างแบรนด์เสื้อผ้า AD-HOC ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ การใช้สีที่ไม่ฉูดฉาด เน้นสีขาว ดำ เทา กากี เจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงานในย่านสยามเซ็นเตอร์ และด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้แบรนด์สินค้าได้รับการตอบรับที่ดี ประกอบกับความต้องการพัฒนาฝีมือต่อยอดความรู้ในด้านการบริหารจัดการและออกแบบเสื้อผ้าจึงเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้าสู่อาเซียน ในสาขาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หลังจากเข้าร่วมโครงการ คุณวิยะดาสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนารูปแบบสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ในปี 2558 มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 600,000 บาท สำหรับปี 2559 คุณวิยะดา วางแผนจะทำการตลาดในประเทศให้มากขึ้น และในอนาคตคาดว่าจะขยายสู่ตลาดอาเซียน และประเทศอื่นๆ ต่อไป คุณวิยะดา เตียวพงษ์พันธุ์ บริษัท เดอะ แอดฮอด สตูดิโอ จำกัด 303 ม.กฤษดานคร 18 ซอยอัญมณี 25 พุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170 โทรศัพท์ 0 2888 2158, 08 1409 6788 ที่มา : รายงานประจำปี 2558 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2015
“สปันซิลค์ เวิลด์” จากเส้นไหมไทยสู่ผ้าถัก ส่งออกทั่วโลก
“สปันซิลค์ เวิลด์” จากเส้นไหมไทยสู่ผ้าถัก ส่งออกทั่วโลก
เส้นไหมปั่นคุณภาพสูงภายใต้การบริหารงาน ดร.ปาจรีย์ คิวเจริญวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปันซิลค์ เวิลด์ จำกัด ผู้ผลิตเส้นไหมปั่นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ได้รับการยอมรับในระดับสากลและถูกกล่าวขานว่าผลิตเส้นไหมที่มีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ยังติดขัดปัญหาเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นไหมว่า ทำความสะอาดยาก ระคายผิว ใส่แล้วร้อน จึงเกิดความสนใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผ้าผืนสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำสิ่งทออาเซียน ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยทางกรมฯ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมคิดค้นผลิตนวัตกรรมเส้นไหมและพาศึกษาดูงาน จนได้ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมจากเส้นใยที่มีความเรียบสูงด้วยเทคโนโลยีสปันซิลค์ แล้วนำมาถักด้วยเครื่องถักผ้าอุตสาหกรรม เป็นผ้าไหมถักที่มีโปรตีน กรดอะมิโนที่คล้ายคลึงผิวมนุษย์ สวมใส่สบายไม่เกิดอาการระคายเคือง นอกจากนี้โปรตีนในเส้นใยยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว และยับยั้งการเกิดแบคทีเรียอีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาดังกล่าวส่งผลให้สามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 10-20 ล้านบาท/ปี ความใส่ใจในกระบวนการผลิตที่ประณีตพิถีพิถัน เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดไปยังผู้บริโภค ทำให้บริษัทสามารถรักษาชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตไหมปั่นที่เชื่อถือได้มาอย่างยาวนาน คุณปาจรีย์ คิวเจริญวงษ์ บริษัท สปันซิลค์ เวิลด์ จำกัด สำนักงานใหญ่ 724 หมู่ 5 ซอยประชา ถ.สุขุมวิท ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10280 โทรศัพท์ 0 2703 9356-8 www.spunsilkworld.com ที่มา : รายงานประจำปี 2558 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2015
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ธนไพศาล ย่นระยะความสำเร็จบนเส้นทางสิ่งทอ
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ธนไพศาล ย่นระยะความสำเร็จบนเส้นทางสิ่งทอ
ธนไพศาลเป็นองค์กรเก่าแก่ด้านสิ่งทอที่เติบโตมายาวนานกว่า 100 ปี หากแต่ย้อนกลับไปสมัยที่เข้ามารับช่วงต่อกิจการใหม่ๆ เมื่อ 35 ปีที่แล้ว ผู้บริหารรุ่นหลานอย่างคุณปิลันธน์ ธรรมมงคล ยอมรับว่าตนเองแทบไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องการฟอกย้อมและด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอเลย จึงเริ่มต้นด้วยการเข้าอบรมเวิร์กช็อปต่างๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน จนปัจจุบันธนไพศาลมีความโดดเด่นด้านการออกแบบวัสดุสิ่งทอใหม่ๆเช่น การออกแบบเส้นใย การทอ การฟอกย้อมและตกแต่งสำเร็จ การเข้าร่วมอบรมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงบันดาลใจให้คุณปิลันธน์ตระหนักถึงการพัฒนาต่อยอดธุรกิจของตนเองโดยเน้นการทำงานวิจัยและพัฒนา เพื่อนำองค์ความรู้นั้นมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์และผลลัพธ์ที่สร้างมูลค่า เป็นการสร้างจุดแข็งทางการค้าตลอดจนยกระดับสิ่งทอไทยให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น “น้อยมากที่จะมี SMEs ทำงานวิจัยเป็นสิบๆปี แต่เราทำ” คุณปิลันธน์ยกตัวอย่างความสำเร็จของการทำงานวิจัยพัฒนาให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของธนไพศาลเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา และได้สร้างโรงทอต้นแบบเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้น จนสุดท้ายได้สร้างแบรนด์ผ้าไหมขึ้นเองในชื่อ GV Silk วางตำแหน่งสินค้าเป็นผ้าไหมไฮเทคที่ดูแลรักษาง่าย(Easy Care Silk) ซึ่งนับว่าแตกต่างจากคู่แข่งอื่นมาก และเป็นความภาคภูมิใจที่เขากล้าการันตี ล่าสุดคุณปิลันธน์มีไอเดียพัฒนาต่อยอดธุรกิจด้วยเทคนิคเคลือบวัสดุสิ่งทอ หรือการโค้ตติ้ง (Coating) ผ้า จึงได้ติดต่อพี่เลี้ยงคนสำคัญอย่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อขอเข้าร่วมกิจกรรมปรึกษาแนะนำเชิงลึกรายสาขา ซึ่งทางกรมฯ ได้เชิญวิทยากรหรือผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขานั้นๆ มาให้คำปรึกษาแนะนำ ชนิดลงมาเทรนอย่างเคี่ยวกรำแบบพี่สอนน้อง “นอกจากสอนหลักการ กิจกรรมนี้ยังสอนให้เราปฏิบัติ โดยใช้องค์ความรู้จริงจากผู้รู้จริง เราไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเพราะผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆเขาได้สรุปบทเรียนมาให้เราแล้ว ทำให้เรามีโอกาสเดินหน้า และประสบผลสำเร็จค่อนข้างสูง” ขณะนี้โครงการอยู่ในช่วงการวิจัยต้นแบบและนำเข้าวัสดุ อีกไม่นานเราคงจะได้เห็นผลิตภัณฑ์จากแนวคิดสร้างสรรค์ของธนไพศาลที่พัฒนาต่อยอดจากเทคนิคเคลือบผ้าออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ คุณปิลันธน์ ธรรมมงคล กรรมการผู้จัดการ หสน. ธนไพศาล 218 หมู่ที่ 1 ถ.สุขุมวิท ซ.บีไทย 80 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0 2323 9447 โทรสาร : 0 2323 1556 เว็บไซต์ : www.thanapaisal.co ที่มา : หนังสือ 72 ปี แห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ธ.ค. 2014
กลุ่มสตรีสหกรณ์ย้อมสีทอผ้าธรรมชาติ เติมเอกลักษณ์ใหม่ให้ผ้าทอตีนจก
กลุ่มสตรีสหกรณ์ย้อมสีทอผ้าธรรมชาติ เติมเอกลักษณ์ใหม่ให้ผ้าทอตีนจก
ด้วยความรักในการทอผ้าที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นมารดา ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี และได้ฝึกฝนฝีมือจนหาใครเทียบได้ยาก ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือการทอผ้าตีนจกที่สวยงาม มีชีวิตชีวา หลังจากทำงานด้านอนุรักษ์ลวดลายผ้าตีนจกโบราณเมืองลอง เป็นเวลา 30 ปีเศษ คุณประนอม ทาแปง จึงได้รวมตัวชาวบ้านในชุมชน จัดตั้งกลุ่มสตรีสหกรณ์ทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดแพร่ และลงมือถ่ายทอดความรู้การทอผ้าตีนจกให้แก่สมาชิกของกลุ่มจนสมาชิกเพิ่มจำนวนมากขึ้นและสามารถสร้างรายได้หลังฤดูเก็บเกี่ยว คุณประนอมเป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ จึงได้คิดค้นลวดลายผ้าขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยศึกษาลวดลายผ้าและสีสันจากผ้าโบราณแล้วนำมาทอใหม่ รวมถึงได้คิดค้นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้การทอลวดลายประสมกันทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะลวดลายโบราณที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เช่น ลายผักแว่น ลายขอไล่ ลายงวงน้ำคุ ลายนกกินน้ำร่วมต้น และพัฒนาผ้าทอให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปอื่นๆ ด้วย เช่น เสื้อ กระเป๋า กระโปรงผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ แต่กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์ผ้าทอตีนจกของคุณประนอมต้องพบกับปัญหาเนื้อผ้าแข็งและสีตกจนเมื่อได้เข้าร่วมอบรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้ค้นพบวิธีแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ “เดิมผ้าย้อมครามของเราสีตก เพราะใช้สีจากวัตถุดิบธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ มะเกลือ คั่ง หลังเข้าร่วมอบรมกับทางกรมฯ ทำให้ได้รับความรู้เรื่องเทคนิคการย้อมผ้าและเทคโนโลยีที่ทำให้เนื้อผ้านุ่ม ซึ่งช่วยปิด จุดอ่อนของเรา จากเดิมที่ผ้าทอเคยขายได้อยู่ที่ 70% ต่อมาเราพัฒนาให้มีจุดแข็งเพิ่มเติมคือ เนื้อนุ่ม ใส่สบาย สีไม่ตก ยอดจำหน่ายก็ขึ้นมาเป็น 100 เปอร์เซ็นต์” หลังจากนั้นคุณประนอมยังได้รับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาการตลาดจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีโอกาสได้ออกบูธจำหน่ายสินค้าร่วมกับกิจกรรมของทางกรมฯและเข้าร่วมอบรมความรู้อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันผลิตภัณฑ์ผ้าทอตีนจก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 4 ดาว และระดับ 5 ดาว และก้าวหน้าถึงขั้นรับผลิตส่งออกแม้จะเป็นออร์เดอร์จำนวนไม่มากนัก เพราะกำลังการผลิตจำกัด แต่ก็นับเป็นก้าวย่างของผ้าไทยที่สดใสไม่น้อย คุณประนอม ทาแปง ประธานกลุ่มสตรีสหกรณ์ย้อมสีทอผ้าธรรมชาติ จ.แพร่ 97/2 หมู่ 9 ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ โทรศัพท์ : 0 5458 3441 , 08 1951 6639 โทรสาร : 0 5466 0784 ที่มา : หนังสือ 72 ปี แห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ธ.ค. 2014
บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เดินเคียงข้างแม้ยามยาก
บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เดินเคียงข้างแม้ยามยาก
มหาอุทกภัยในปี 2554 ไม่เพียงสร้างความเสียหายให้กับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น แต่กินอาณาบริเวณกว้างครอบคลุมหลายจังหวัดเกือบค่อนประเทศ รวมไปถึงจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีโรงงานสาขาของแบรนด์นารายาตั้งอยู่ ธุรกิจของนารายาเผชิญอุปสรรคมาแล้วมากมาย แต่ไม่ว่าอุปสรรคจะหนักหนาสักเพียงใด ก็ฝ่าฟันมาได้ทุกครั้ง แต่กระแสน้ำที่กำลังไหลบ่ามาทุกทิศทุกทางในครั้งนั้น ทำให้ คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ประธานบริหารบริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก ขณะที่น้ำท่วมกำลังจวนเจียนเข้ามาใกล้ตำบลพระลับ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโรงงานสาขาของนารายา หลังจากประเมินสถานการณ์ดูแล้วคุณวาสนาจึงตัดสินใจติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 จังหวัดขอนแก่น ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านสถานที่ คือ อาคารโรงงานปฏิบัติการ 2 หลัง และอาคารโรงอาหาร 1 หลัง เพื่อใช้ดำเนินกิจการชั่วคราวและจัดเก็บวัตถุดิบ โดยมีการเร่งอพยพทั้งเครื่องจักร วัตถุดิบ และคนงานกว่า 300 คน ได้ทันก่อนที่โรงงานจะถูกน้ำท่วมเพียงสองวัน ไม่เช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายสูงถึง 12 ล้านบาท ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในครั้งนั้น ทำให้นารายณ์ไม่ต้องปิดโรงงาน และยังเป็นการช่วยเหลือแรงงานไม่ให้ประสบปัญหาการว่างงานซ้ำเติม ขณะเดียวกันหลังย้ายฐานการผลิตไปยังที่แห่งใหม่ ยังทำให้ได้ชาวบ้านในท้องถิ่นมาสมัครเป็นแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด “เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจเราว่า ในยามที่ประสบความเดือดร้อน อย่างน้อยยังมีหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งก็คือกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลอื ผู้ประกอบการอย่างเรา” วิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้นับเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า ไม่ว่าจะในยามสุขหรือยามทุกข์กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมพร้อมจะเดินเคียงข้างผู้ประกอบการตลอดไป คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด (NaRaYa) 220/4 หมู่ที่ 4 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โทรศัพท์ : 0 2502 2000 โทรสาร : 0 2502 2011 เว็บไซต์ : www.naraya.co.th ที่มา : หนังสือ 72 ปี แห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ธ.ค. 2014
กลุ่มสตรีเย็บผ้าบ้านขามใหญ่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน
กลุ่มสตรีเย็บผ้าบ้านขามใหญ่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน
หัตถกรรมทอผ้าพื้นบ้านเป็นงานฝีมือที่แสดงถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเป็นมาของเชื้อชาติ ชุมชนนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี “กลุ่มสตรีเย็บผ้าบ้านขามใหญ่” เป็นหนึ่งในชุมชนที่เห็นคุณค่าภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ จึงได้พยายามก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาสานต่องานทอผ้า ผลิตชิ้นงานเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แต่ด้วยการที่ไม่มีความรู้ในการบริหารจัดการ การบริหารกลุ่ม และการหาตลาดกระจายสินค้าทำให้งานออกมายังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร ทางกลุ่มจึงประสบปัญหามากมายและล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด กระทั่ง คุณเสงี่ยม คำสุข ประธานกลุ่มสตรีเย็บผ้าบ้านขามใหญ่ ได้ริเริ่มพยายามหาแนวทางพัฒนากลุ่มวิธีใหม่ๆ ด้วยการเข้าร่วมโครงการการพัฒนาศักยภาพ OTOP กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในด้านการบริหารจัดการ (CIMED) เพื่อพัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ชุมชน ที่จากเดิมทำงานไม่เป็นระบบ หวังเพียงมีงานทำอยู่กับบ้าน พอมีรายได้บ้างก็เพียงพอแล้ว โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นคุ้มทุนหรือไม่ ทั้งด้านต้นทุนด้านแรงงาน ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าน้ำ ค่าไฟจนสุดท้ายแล้วรายได้ที่ได้รับนั้นไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ส่งผลให้สมาชิกต้องแยกย้าย บ้างต้องออกไปอยู่ตามโรงงานอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่ๆ บ้างก็ต้องดิ้นรนหาเงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบก่อให้เกิดเป็นหนี้สินตามมา แต่เมื่อทางกลุ่มได้เรียนรู้ระบบรู้หลักการบริหารจัดการด้านบัญชีและการเงิน ประกอบกับได้แรงสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการกระจายสินค้า และหาช่องทางตลาดใหม่ๆ เข้าสู่ชุมชน ณ วันนี้ กลุ่มสามารถสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกในชุมชนได้อย่างยั่งยืน มีการพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ๆ สินค้ามีคุณภาพมาตรฐานเป็น OTOP 3 ดาว มีแหล่งกระจายสินค้าที่แน่นอนจากศูนย์ OTOP จังหวัดศรีสะเกษ มีออร์เดอร์จากบริษัทห้างร้านที่ต้องการของที่ระลึก รวมถึงเป็นรู้จักในระบบสายงานฝีมือมากขึ้น ส่งผลให้นอกจากรายได้จากการทอผ้า และผลิตสินค้ากระเป๋าแล้ว ทางกลุ่มฯยังมีงานรับเหมาด้านเย็บผ้าโหลเข้ามาสู้ชุมชนด้วย และมีการกระจายงานตามความถนัดของสมาชิก เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวของสมาชิกหมู่บ้าน โดยพวกเขาไม่ต้องทิ้งครอบครัวเพื่อไปหางานทำ ช่วยให้สภาพชุมชนอบอุ่นมากขึ้นตามมาด้วย คุณเสงี่ยม คำสุข กลุ่มสตรีเย็บผ้าบ้านขามใหญ่ 23 หมู่ 4 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ 33210 โทร. 08 5639 8951 ที่มา : รายงานประจำปี 2557 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2014
จากรุ่นสู่รุ่น ที เค การ์เม้น (แม่สอด) ชูจุดเด่น One Stop Service รองรับลูกค้า
จากรุ่นสู่รุ่น ที เค การ์เม้น (แม่สอด) ชูจุดเด่น One Stop Service รองรับลูกค้า
บริษัท ที เค การ์เม้น (แม่สอด) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2523 จากร่นุ คุณพ่อคุณแม่ที่เริ่มต้นจากจักรเย็บผ้าเพียง 5 ตัว ขยายธุรกิจจนในปัจจุบันมีจักรเย็บผ้าหลายพันตัว พร้อมพนักงานกว่า 2,000 คน เพื่อผลิตสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี และเสื้อผ้าเด็ก ยี่ห้อ AIIZ, Camel Active, Pacific Union ฯลฯ จากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่ดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จสืบเนื่องมาถึงรุ่นลูก คุณเพียงเพชร จตุรเจริญคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เค การ์เม้น (แม่สอด) จำกัด จึงต้องพัฒนางานต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นโดยชูจุดเด่นในเรื่อง One Stop Service เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ เพียงแค่ลูกค้าเดินเข้ามาและบอกถึงความต้องการ ไม่ว่าจะทำแพทเทิร์น ตัด เย็บ ปัก แพ็ค ก็สามารถทำได้ครบและจบได้ภายในโรงงาน การพัฒนาไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ด้วยคำนึงถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จึงสนใจเข้าร่วม “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมแฟชั่น สาขาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประกอบกับในช่วงนั้นการทำงานในแผนกเย็บเริ่มมีปัญหาในเรื่องการผลิต งานไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ส่งสินค้าล่าช้า รวมถึงปัญหาเรื่องคุณภาพงานบริษัทจึงต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพงานเย็บ เพื่อให้สามารถทำการผลิตได้ทันตามความต้องการของลูกค้า โดยไม่เพิ่มต้นทุน หลังจากมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการด้านการเย็บ การจัดทำ ISQ (In Station Quality) การตรวจคุณภาพด้วยตนเองตั้งแต่ที่เครื่องจักรของพนักงานแต่ละคนทำการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ทั้งในเรื่องเวลา ความคุ้มค่าและความปลอดภัย ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 11.44% ลดงานค้างในสายผลิตได้ถึง 90% ทำให้สร้างความพึงพอใจได้เป็นอย่างมาก แม้ผลกำไรจะเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่คุณเพียงเพชร ยังต้องเดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ แม้จะยังต้องเผชิญกับปัจจัยในเรื่องค่าแรงและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันก็ตาม บริษัทก็มีแนวความคิดว่าอยากจะปรับลดราคาให้กับลูกค้าลงบ้าง แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็ต้องยังสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยไม่ขาดทุน คุณเพียงเพชร จตุรเจริญคุณ บริษัท ที เค การ์เม้น (แม่สอด) จำกัด 403-403/1 ม.3 ต.แม่ดาว อ.แม่สอด จ.ตาก 63110 โทร. 055 542 879-80 ที่มา : รายงานประจำปี 2557 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2014
ผ้าไหม BOON KOON ศิลปะต่อผ้า แต้มสีสันไหมไทย
ผ้าไหม BOON KOON ศิลปะต่อผ้า แต้มสีสันไหมไทย
หลายประเทศในอาเซียน รวมถึงอาเซียน +๓ +๖ ต่างมีภูมิปัญญาการผลิตผ้าไหมของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นพม่า ลาว อินโดนีเซีย กัมพูชา จีน การสร้างเอกลักษณ์ความแตกต่างเฉพาะถิ่น หรือเฉพาะแบรนด์จึงมีความสำคัญมาก ซึ่งร้านผ้าไหม BOON KOON ได้พบแนวทางนั้นแล้วคือ การตัดเย็บชิ้นงานผ้าไหมแบบศิลปะผ้าต่อ (Patchwork) คุณชาญบุญ เอี่ยมหนู เจ้าของร้าน BOON KOON SHOP ซึ่งมีหน้าร้านอยู่ที่ เจ.เจ.มอลล์ และอีกหลายแห่ง เริ่มผันชีวิตจากพนักงานประจำมาเป็นเจ้าของร้านค้าเล็ก ๆ ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์ เมื่อปี ๒๕๔๓ ผลิตภัณฑ์ขายดีคือ ผ้าไหมคลุมไหล่ เนกไท ปลอกหมอน และจากการแสวงหาซัพพลายเออร์และแรงงานตัดเย็บที่ดี จึงได้รู้จักกับชุมชนคลองสามวาซึ่งโยกย้ายมาจากชุมชนบ้านครัว ชุมชนผลิตผ้าไหมเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จึงเกิดการพัฒนางานร่วมกันเรื่อยมา รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นไอเดียในการนำเศษผ้าที่เหลือ จากการตัดเย็บมากมาย นำมาทำ patchwork และผลิตเป็นชิ้นงานต่าง ๆ งานต่อผ้าต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ ประณีต ซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้นและทำให้ต้นทุนสูงขึ้นตาม แต่ก็คุ้มค่าเมื่อพบว่าลูกค้า มาถามหางาน patchwork อย่างต่อเนื่อง คุณชาญบุญ มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น TOPOTOP, DIP CAMP หรือคลัสเตอร์ ทำให้มีการพัฒนาด้านการตลาดควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ชื่อแบรนด์ BOON KOON เองก็เกิดขึ้นภายหลังร่วมอบรมในกิจกรรมต่าง ๆ กับกรมฯ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผู้ประกอบการจะหยุดเรียนรู้ไม่ได้เลย “AEC ที่จะมีผลในปี ๒๕๕๘ เราต้องมองอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาดีไซน์หรือโอกาสในการเข้าถึงวัตถุดิบผ้าไหมจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นเท่านั้น แต่การบริหารจัดการด้านอื่น ๆ ก็สำคัญ เช่น ระบบบัญชีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการต้นทุน และอีกหลายเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อม” คุณชาญบุญ เอี่ยมหนู ร้านผ้าไหมบุญคุณ เจ.เจ.มอลล์ โทรศัพท์ : ๐ ๒๖๔๒ ๙๒๕๑ อีเมล : boonkoon2006@hotmail.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
กลุ่มแปรรูปผ้าพื้นเมืองนาบัว จับรสนิยมสากล
กลุ่มแปรรูปผ้าพื้นเมืองนาบัว จับรสนิยมสากล
“ผ้าพื้นเมืองของไทยหลายแห่งมีการผลิตที่ก้าวหน้ากว่าเพื่อนบ้าน เลยมีปัญหาถูกก๊อบปี้สินค้าบ้าง แต่ไม่ต้องห่วง เราจะพยายามหนีให้ไกลเลย ไม่ให้ตามทัน” คุณพนิดา คุณธรรมประธานกลุ่มแปรรูปผ้าพื้นเมืองนาบัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยม พลังคุณพนิดาเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าตั้งแต่วัยสาวในอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี และสังเกตเห็นว่าผู้เฒ่าสูงวัยในหมู่บ้านเน้นทอผ้าผืนมัดหมี่ย้อมคราม มิได้นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นใด เมื่อคุณพนิดาทดลองนำผ้าย้อมครามมาแปรรูปเป็นกล่องทิชชู พวงกุญแจ เสื้อผ้าบุรุษ-สตรี ย่าม และออกร้านที่กรุงเทพฯ ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดี จึงเดินหน้ารวมกลุ่มแม่บ้านในชุมชน ๖-๗ คน ขยายการผลิตซึ่งต่อมาได้รับการสนับสนุนเงินทุนและอุปกรณ์ตัดเย็บจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ เป็นระยะ อาทิ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม กรมประชาสงเคราะห์ และอุตสาหกรรมจังหวัด เป็นต้น สมาชิกกลุ่มขยายตัวมากขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ ๔ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าอบรม ‘กิจกรรมเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการหลักสูตรการพัฒนาออกแบบ’ และได้เข้าร่วม ’กิจกรรมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Industrial Cluster Development)’ เมื่อ ๔ ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการแปรรูปผ้าพื้นเมืองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันและรวมกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ได้วัตถุดิบราคาถูกลง และในปี ๒๕๕๔ ยังได้รับสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ความภูมิใจของคุณพนิดาคือการได้นำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไปออกงานแสดงสินค้าในฝรั่งเศสและอิตาลี แม้ยอดขายจะไม่มากมายนัก แต่เป็นการเปิดหูเปิดตาและได้นำสินค้าฝีมือไทยไปอวดโฉมในต่างประเทศ ดังนั้น การค้าเสรีตามข้อตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับคุณพนิดาแล้ว เป็นความภูมิใจและเป็นโอกาสที่สินค้าไทยมีโอกาสไปได้กว้างไกลขึ้น คุณพนิดา คุณธรรม ประธานกลุ่มแปรรูปผ้าพื้นเมืองนาบัว บ.นาบัว หมู่ 9 ต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี 41150 โทรศัพท์ : 08 1380 0393 ที่มา : รายงานประจำปี 2554 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2011